xs
xsm
sm
md
lg

เคาะข่าวริมโขง ฉะ “นช.แม้ว” ตีสองหน้า ปากอ้างภักดี แต่ในหัวคิดแผนล้มเจ้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"3 พิธีกร” เคาะข่าวริมโขง เชิญ “มาลีรัตน์” ร่วมถกประเด็นร้อน เติมปัญญาให้ชาวอีสาน “แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น2” เปิดประเด็นเด่น “ส.ส.” ด่าหยาบ-แจกของลับกลางสภา “เจ๊ปอง” แฉ “มติชน” ทำสกู๊ปมั่ว อ้าง "สนธิ" สั่ง "มาร์ค" เลือก "ปทีป" นั่ง ผบ.ตร.คนใหม่ ขณะที่ “ประพันธ์” จวก “แดงชั่ว” นัดแต่งดำ-เผาพริกเผาเกลือหน้าบ้านสี่เสาฯ เย้ย "หางแดง" พักนี้ชักยิงมุกแป้ก แฉ ธาตุแท้ “นช.แม้ว” ชอบตีสองหน้า ปากบอกเคารพ “ป๋า” แต่ในหัวจ้องล้มสถาบันตลอด ล่าสุด ส่ง "แก๊งแดงชั่ว” ป่วน "ป๋า" ในวันเกิด

รายการ เคาะข่าวริมโขง ช่วงที่ 1



(คลิกที่จอภาพเพื่อเข้าสู่หน้าหลัก ชมวีดีโอย้อนหลัง)


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “เคาะข่าวริมโขง”  

รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทางช่องอีสานทีวี-ทีวีเพื่อคนอีสาน วันที่ 26 สิงหาคม โดยมี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย นายประพันธ์ คูณมี และ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก เป็นผู้ร่วมดำเนินรายการ วันนี้ได้เชิญ นางมาลีรัตน์ แก้วก่า แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 2 มาร่วมพูดคุยถึงเหตุการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้น ทั้งกรณีความวุ่นวายในการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2553 หรือจะเป็นพฤติกรรมสุดกลับกลอกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้กลายสถานะเป็นนักโทษชายหลบหนีคดีทุจริตอยู่ต่างแดนในเวลานี้

น.ส.อัญชะลี เปิดประเด็นแรกด้วยกรณี ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2553 ในวาระ 2 และ3

นางมาลีรัตน์ กล่าวถึงประเด็นนี้ ว่า เหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้นตั้งแต่ บรรดา ส.ส.เพื่อไทย พยายามลุกขึ้นกล่าวหารัฐบาล ว่า ไม่มีสิทธิ์ที่จะเอางบประมาณจำนวนดังกล่าวไปใช้ เพราะเป็นพวกเดียวกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจงต่อที่ประชุมสภาถึงกรณีดังกล่าว จากนั้น ส.ส.เพื่อไทย ก็ยังไม่หยุดป่วน ลุกขึ้นประท้วงตลอด เพราะต้องการให้การพิจารณาครั้งนี้มีการถ่ายทอดสดให้ประชาชนได้รับทราบ ทำให้เหตุการณ์เริ่มคุกรุ่น มีการต่อว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา ที่พยายามตัดบท เดินหน้าพิจารณาวาระดังกล่าวต่อ สร้างความไม่พอใจให้แก่ ส.ส.เพื่อไทย มีการต่อว่าต่อขาน นายชัยว่า พยายามทำดื้อตาบอดตาใส จากนั้น นายเชิดชัย วิเชียรวรรณ ส.ส.อุดรธานี พรรคภูมิใจไทย ประท้วงขอให้ถอนคำพูด ทำให้มีการโต้เถียงกันไปมา

นางมาลีรัตน์ กล่าวอีกว่า นพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ตอบกลับอย่างมีอารมณ์ว่า "พวกคุณทรยศ ต่ออุดมการณ์ ต่อประชาชน" ช่วงนั้นมีเสียงตะโกนคำหยาบคายมาจากฝั่งที่นั่ง ส.ส.ภูมิใจไทย ว่า "ค ...ว...." ทำให้บรรดา ส.ส.ต่างมองหน้ากันหาที่มาของเสียง จากนั้น นายเชิดชัย ได้ลุกขึ้นถามกลับไปที่ นพ.ประสิทธิ์ต่อว่า "พวกผมทรยศอะไร" นพ.ประสิทธิ์ ตอบกลับพร้อมกับชี้ไปยังที่นั่งพรรคภูมิใจไทย ว่า "ทรยศต่อประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทย และเลือก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี รอให้ถึงวันเลือกตั้งก็จะรู้ ว่าผลจะเป็นอย่างไร" ทำให้มีเสียงสบถ คำว่า "ไอ้..เห้..." ออกมาจากฝั่ง ส.ส.ภูมิใจไทยอีกครั้ง ทั้งนี้ นายชัย พยายามไกล่เกลี่ย ให้ นพ.ประสิทธิ์ ถอนคำพูด จึงทำให้เหตุการณ์วุ่นวายคลี่คลายลง

นายประพันธ์ กล่าวเสริมในประเด็นนี้ ว่า ตอนนี้ต้องยอมรับว่า ส.ส.สายเลือดอีสาน เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต อย่างกรณี นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.พรรคเพื่อไทย แต่งชุดดำมาร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยอ้างว่า วันนี้ที่แต่งชุดดำ ไม่ได้เกี่ยวกับที่เป็นวันเกิดของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี แต่แต่งเพื่อประท้วงรัฐบาลที่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง รับมือการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ นอกจากนี้ นายสุนัย ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอีกด้วย

“ตนรู้สึกสงสารคนอีสานที่มี ส.ส.พฤติกรรมอย่าง นายสุนัย เพราะที่ผ่านมา ส.ส.สายเลือดอีสานจะมีความเป็นนักต่อสู้ ไม่เห็นผลประโยชน์เป็นใหญ่เหมือนกับ นายสุนัย โดยถ้าหากถามตน ตอนนี้ไม่ต้องพูดเรื่อง นายสุนัย มีอุดมคติทางการเมืองหรือไม่ เพราะสิ่งนี้ได้จางหายไปจากตัว นายสุนัย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ในหัวของ นายสุนัย มีแต่เรื่องล้มเจ้า ล้มสถาบันตลอด ซึ่งก่อนหน้าที่จะมาเป็น ส.ส.ไปพรรคไหนก็ไม่มีใครเอา จนมาอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงได้เป็น ส.ส. ก็วางมาดนักเลง ด่ากราดคนอื่นตลอด มีคนเดียวที่ไม่ด่า คือ พ.ต.ท.ทักษิณ” นายประพันธ์ กล่าว

นางสาวอัญชะลี กล่าวเสริมว่า เมื่อก่อนจะเห็นว่า ส.ส.เลือดอีสานมีแต่นักสู้เต็มไปหมด เพิ่งมาขายหน้า กลายเป็นหอกข้างแคร่ก็เร็วๆ นี้ คุณภาพ ส.ส.เลือดอีสานหลายปีนี้ ต้องยอมรับว่าสามารถสะท้อนให้เห็นว่าการเมืองที่เป็นอยู่เป็นอย่างไร มันถือเป็นโจทย์ให้พี่น้องชาวอีสานหาตอบคำถามตัวเองว่า ขณะนี้ถึงเวลาต้องการการเมืองรูปแบบใหม่แล้วหรือยัง และถ้าต้องการเช่นนั้น กล้าที่จะออกมาต่อสู้กับความไม่ต้องถูกหรือไม่ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ หากประชาชนทุกคนร่วมมือกันพัฒนาภาคอีสานอย่างแท้จริง

นางสาวอัญชะลี กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสภามีมติให้ประธานสภานัดประชุมวาระพิเศษเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2553 ในวาระ 2 และ 3 จำนวน 2 วัน คือ วันที่ 27-28 สิงหาคมนี้ ซึ่งประเด็นนี้มีสื่อมวลชนไปถาม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า เหตุที่ต้องเลื่อนเพื่อจะได้มีเวลาต่อรองประโยชน์กัน ในการรักษาเสถียรภาพของรัฐบาล โดยกรณีนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้ปฏิเสธว่าไม่มีการเจรจาต่อรองใดๆ

นายประพันธ์ กล่าวต่อประเด็นนี้ ว่า ก่อนหน้าที่จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2553 ในวาระ 2 และ 3 มีหลายฝ่ายออกมาประท้วง แต่ทาง นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา รู้สึกว่าจะขยันทำงานมากเป็นพิเศษ ทำให้หลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า การกระทำของ นายชัย เพราะต้องการนำเรื่องไปต่อรองกับรัฐบาลหรือไม่ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ตนเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณางบประมาณใดๆ นายชัย จะมีความกระตือรือร้นทำงานมากเป็นพิเศษ สืบเนื่องมาจากมีผลประโยชน์ตามมา โดยเท่าที่ทราบก็จะมีตังค์ทอนหรือเศษงบประมาณหลุดรอดมาประมาณ 10-20% จากงบประมาณทั้งหมด

นางสาวอัญชะลี กล่าวเสริมว่า ประเด็นนี้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาสกู๊ปในหนังสือพิมพ์มติชน กรอบบ่าย ที่เขียนให้เห็นว่า เรื่องพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2553 ในวาระ 2 และ 3 เกี่ยวพันกับเรื่องการเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ โดยสกู๊ปในหนังสือพิมพ์มติชน ระบุว่า ยังไงก็เชื่อว่ามีการเกลี่ยผลประโยชน์กันลงตัว ซึ่งอ้างว่า หาก นายอภิสิทธิ์ สมหวังในการเลือก ผบ.ตร.อีกฝ่ายก็จะมีอำนาจต่อรองผลประโยชน์เรื่องงบประมาณ อีกทั้งยังพาดพิงว่า สาเหตุที่ นายอภิสิทธิ์ ต้องการเสนอชื่อ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ ขึ้นเป็น ผบ.ตร. เนื่องจากเป็นความต้องการของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

นางสาวอัญชะลี กล่าวถึงประเด็นนี้ ว่า ตนอยากชี้แจงว่า เรื่องนี้เป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อ นายสนธิ ไม่ได้ติดต่อกับ นายอภิสิทธิ์ มานานแล้ว อีกทั้ง นายสนธิ ยังไม่รู้จัก พล.ต.อ.ปทีป ด้วยซ้ำ แล้วจะไปสั่งการให้นายกรัฐมนตรีเลือก พล.ต.อ.ปทีป เป็น ผบ.ตร.คนใหม่ได้อย่างไร แต่ตนก็เข้าใจว่า ทำไมเนื้อหาของหนังสือพิมพ์มติชนระบุเช่นนั้น โดยอยากให้ไปดูว่า ใครเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในปัจจุบัน และมีความเกี่ยวพันกับการเมืองคนใด

นายชัชวาลย์ กล่าวต่อว่า สำหรับสาเหตุที่มีการหักหน้านายกรัฐมนตรีในการเลือก ผบ.ตร. เนื่องจากทางพรรคภูมิใจไทย อยากได้ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย เป็น ผบ.ตร.คนใหม่ ทั้งที่นายตำรวจคนนี้เป็นคนสนิทชิดเชื้อกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ทางพรรคภูมิใจไทย เห็นว่า เป็นคนที่สั่งการได้ จึงอยากให้ พล.ต.อ.จุมพล เป็น ผบ.ตร.มากกว่า

นายประพันธ์ เปิดประเด็นกลุ่มคนเสื้อแดง นัดแต่งชุดดำไปหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ว่า การกระทำดังกล่าวของกลุ่มคนเสื้อแดง ถือเป็นการแสดงออกที่ไม่มีพลัง โดยปีนี้ไม่ค่อยคึกคักเมื่อปีก่อนๆ ดูเหมือนคนเสื้อแดงกล้าๆ กลัวๆ ที่จะทำ แต่ตนเห็นว่า คนพวกนี้ไม่มีราคา ภาษาชาวบ้านเรียกว่า การกระทำครั้งนี้ถือเป็น มุกแป้ก มีคนจำนวนไม่มากไปรวมตัวกัน ก่อความวุ่นวาย ทั้งที่ใครๆ ก็รู้ พล.อ.เปรม ทำเพื่อประโยชน์บ้านเมืองมาตลอด แต่ก็โดนกลุ่มคนเสื้อแดงตามไปป่วนถึงหน้าบ้าน

“บ้านเมืองเพิ่งมาวุ่นวายก็ยุคที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนักการเมือง เพราะคนๆ นี้ไม่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย เอาผลประโยชน์อันน้อยนิดไปหว่าน ไปแจกพี่น้อง แต่พวกพ้องตัวเองกลับฮุบผลประโยชน์ก้อนใหญ่ แล้วพอมีหน้าไปโทษ พล.อ.เปรม ว่า อยู่เบื้องหลังปฏิวัติ ทำให้ตัวเองต้องลงจากอำนาจ คนๆนี้พยายามโทษคนอื่นตลอด ไม่เคยดูว่าตัวเองทำผิดอะไรต่อบ้านเมืองมาบ้าง” นายประพันธ์ กล่าว

จากนั้น นายประพันธ์ ได้อวยพรวันเกิด พล.อ.เปรม กลางรายการ โดยขอให้ พล.อ.เปรม มีสุขภาพที่แข็งแรง และเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้แก่บ้านเมืองต่อไป

นายชัชวาลย์ กล่าวถึงกรณีที่มีหลายฝ่ายพูดถึงพื้นที่ภาคอีสาน ว่า เป็นภาคที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามวางหมากในการเคลื่อนไหวล้มสถาบันมากที่สุด ว่า เหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เลือกภาคอีสานขับเคลื่อนแผนดังกล่าวนั้น เพราะเห็นว่าฐานเสียงใหญ่ของตนอยู่ที่นี่ ดังนั้น จึงสั่งให้มีการดำเนินการ 2 รูปแบบ คือ 1.กระทำการจาบจ้วงสถาบันอย่างเปิดเผย เช่น กรณี นายจักรภพ เพ็ญแข ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือจะเป็นกรณี นางดา ตอร์ปิโด ที่ขึ้นเวทีพูดจาจาบจ้วง และในรูปแบบที่2. คือ มีความพยายามบิดเบือนข้อมูลต่างๆ ทั้งด้วยเอกสาร และแจกเงิน ทั้งนี้ กรณีนี้จะใช้ผู้นำท้องถิ่นนำเอกสารเนื้อหาจาบจ้วงไปให้ประชาชนในพื้นที่อ่าน ทำให้เกิดความเข้าใจผิด อาทิ กรณีการยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เรื่องนี้มีการบิดเบือนข้อมูลว่าในทางกฎหมายสามารถทำได้ ซึ่งประชาชนธรรมดาอาจไม่รู้ว่าทำได้จริงหรือไม่ แต่หลงเชื่อ เพราะมีการแจกเงินแจกทองให้ใช้ จึงถูกชักจูงไปในทางที่ผิด

นายประพันธ์ กล่าวเสริมประเด็นนี้ ที่ผ่านมา ตนอยากให้พี่น้องลองคิดดูว่า การกระทำ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเช่นไร เมื่อวานได้มีการส่งข้อความมายังทวิสเตอร์ เพื่ออวยพรวันเกิด พล.อ.เปรม แต่วันนี้กลับให้ลิ้วล้อบุกหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ แต่งชุดดำไปทำพิธีเผาพริก เผาเกลือแช่ง คนแบบนี้ถือเป็นคนไม่รู้จักบุญคุณคน เป็นคนหน้าเนื้อใจเสือ การกระทำและคำพูด พ.ต.ท.ทักษิณ มันขัดในตัวเองมาตลอด ไม่เคยให้เกียรติผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง
กำลังโหลดความคิดเห็น