“ไอ้ตู่” ไขสือทำไม่รู้เห็นคลิปเสียง “มาร์ค” แหลได้อีกบอกเห็นใจนายกฯ อ้างภาวนาขอให้เป็นการตัดต่อ ชี้ ไม่น่าใช่นายกฯ หากใช่จริงก็เป็นสัตว์นรกกระหายเลือด การันตีไม่ใช้โจมตีวันชุมนุม ซัดใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงคุม เหมือนรัฐเผด็จการ เหน็บ “นายกฯ-สุเทพ” พูดคนละทาง ลั่นหากเกิดเหตุรุนแรงกับคนเสื้อแดง นายกฯต้องรับผิดชอบ อ้าง “สุรชัย” แยกตัวไปถือว่าดี จะได้ไม่เหนื่อย
วันนี้ (27 ส.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 11.15 น.นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่ม นปช.แถลงถึงกรณีที่มีการนำคลิปเสียง ซึ่งอ้างว่าเป็นเสียงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สั่งการทหารในช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้ใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุนมของกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อรัฐบาลจะได้มีความชอบธรรมในการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ ว่า ได้ฟังมาหลายวันแล้วแต่พยายามไม่เชื่อและเห็นใจผู้ที่ถูกอ้างว่าเป็นเจ้าของเสียง จึงพยายามไม่พูด อีกทั้งยังภาวนาให้เป็นการตัดต่อ เพราะถ้าเป็นเรื่องจริงก็ถือว่าไม่ใช่นายกรัฐมนตรีแล้ว เป็นเพียงสัตว์นรกกระหายเลือดนั่งในตำแหน่งนายกฯต่อไปไม่ได้ และรัฐบาลชุดนี้ก็อยู่ต่อไปไม่ได้ เพราะเป็นยิ่งกว่าฆาตกรมือเปื้อนเลือด อย่างไรก็ตาม ต้องมีการพิสูจน์ก่อน ขอให้สบายใจได้ว่าคนเสื้อแดงจะไม่นำเรื่องนี้มาปรักปรำ หรือเคลื่อนไหวโจมตี นายกรัฐมนตรีเองก็ควรย้อนไปดูว่าเคยพูดอะไรไว้บ้าง มีศัตรูอยู่ที่ไหน โดยเฉพาะเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย และจากการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีล่าสุดก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าเป็นเสียงตัวเอง ระบุว่าเป็นการตัดต่อ ส่วนตัวฟังแล้วเห็นว่าถ้าเป็นการตัดต่อจริงก็ทำได้เนียนมาก ไม่น่าจะเป็นการตัดต่อทั้งหมด และการพูดน่าจะเป็นในคราวเดียวกัน
นายจตุพร ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงระหว่างวันที่ 29 ส.ค.-1 ก.ย.ด้วยว่า การประกาศใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าวทำให้การชุมนุมไม่สามารถทำได้เลย เพราะเมื่อมีการชุมนุมที่ใดก็ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงที่นั่น คล้ายกับการปกครองระบอบเผด็จการ แต่น่าสงสัยอย่างหนึ่งว่า ที่นายอภิสิทธิ์บอกว่าสามารถชุมนุมได้แต่ต้องอยู่ในความสงบในขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงบอกว่าไม่สามารถชุมนุมได้ภายใต้พ.ร.บ.ความมั่นคงนั้น กลุ่มคนเสื้อแดงจะเชื่อคำพูดของนายกฯ ในฐานะที่มีอำนาจเหนือกว่า แต่ถ้าในวันชุมนุมแล้วนายสุเทพสั่งให้จัดการกับม็อบนายกฯต้องรับผิดชอบ และถ้าหากมีการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมในภายหลังกลุ่มคนเสื้อแดงก็จะนำนายอภิสิทธิ์มาเป็นพยาน สำหรับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 30 ส.ค.นั้น เวทีปราศรัยจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในเวลา 13.00 น.ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า แต่ยังไม่กำหนดชัดว่าจะเคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาลและ พ.ต.ท.ทักษิณ จะโฟนอินในช่วงเวลาใด อย่างไรก็ตาม ขอปฏิเสธว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่เดินขบวนไปปิดล้อมพระราชวังเพื่อกดดันกรณีการถวายฎีกาตามที่มีผู้กล่าวหาอย่างแน่นอน
สำหรับความขัดแย้งของ 3 แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงกับ นายจักรภพ เพ็ญแข และ นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ นั้น นายจตุพร กล่าวว่า ไม่อยากพูดถึงเรื่องดังกล่าว แต่เมื่อมีการรุกล้ำก้ำเกินขนาดนี้ก็ต้องออกมาชี้แจง กรณีของนายสุรชัยนั้นถือเป็นพวกคอมมิวนิสต์เก่าและมีแนวคิดค่อนข้างรุนแรง หลายครั้งก่อนขึ้นเวทีตนยังได้พยายามกำชับว่าอย่าพูดอะไรเกินเลยเพราะจะทำให้เสียรูปขบวน ยืนยันว่า พวกเราต้องการระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ดังนั้น การปราศรัยจึงได้ขีดเส้นตั้งแต่พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษลงมา อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการร่วมงานกับนายสุรชัยนั้นค่อนข้างเหนื่อย ดังนั้นถ้าแยกตัวออกไปก็เป็นเรื่องดี ส่วนการกล่าวหาเรื่องส่วนตัวทั้งเรื่องผู้หญิงและเรื่องลาภยศนั้นถือเป็นเรื่องไร้สาระ สำหรับนายจักรภพก็ยังถือว่าเป็นน้องและร่วมต่อสู้กันมา เมื่อมีความเห็นไม่ตรงกันจะแยกออกไปตั้งกลุ่มเคลื่อนไหวใหม่ก็ไม่เป็นไร แต่ถามว่าคุณออกไปแล้วจะมาเผาบ้านเดิมและบ้านของมิตรหรืออย่างไร มันไม่มีเหตุผล นายจักรภพก็เป็นคนที่ทิ้งคนอื่นหนีไปก่อนการประกาศใช้พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินช่วงสงกรานต์ด้วยซ้ำ ถ้าเป็นนักสู้จริงถามว่าหนีทำไม วันนี้กระแสแดงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยแกนนำมีคดีติดตัวเต็มไปหมด แต่บางคนพอเกิดเรื่องกลับหนีไป