ทีมงานโฆษก ปชป.สรุปสัญญาณไม่สู้ดีช่วงชุมนุม 30 ส.ค.ทั้งสร้างหลักฐานเท็จ แกนนำเสื้อแดงแตกก๊ก ปูดข่าวปฏิวัติเงียบ ย้อนถามแกนนำจุดประสงค์หลังการปลุกระดมสำเร็จแล้วต้องการอะไร
วันนี้ (27 ส.ค.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปั้ตย์ แถลงว่า เมื่อวานที่ผ่านมา 26 ส.ค.พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการประชุมคณะกรรมการปฏิบัติการเมืองเพื่อประเมินสถานการณ์ ซึ่งได้มอบหมายให้ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ติดตามใน 2 เรื่อง คือ การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในต่างประเทศ และเรื่องของการนำเสนอคลิปเสียงเท็จเพื่อสร้างกระแสความวุ่นวาย โดยในภาพรวมที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า อยากเรียกร้องทุกฝ่าย มีส่วนร่วมในการรักษาบ้านเมืองไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ความขัดแย้งที่อาจนำไปสู่ความรุนแรง ไม่ว่าจะรูปแบบใด ที่ประชุมยอมรับว่ามีสัญญาณหลายส่วน แสดงถึงความไม่ปกติก่อนการชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 30 ส.ค.นี้ คือ 1.มีร่องรอยของการเตรียมสร้างสถานการณ์ด้วยข้อมูลเท็จ ปลุกระดมผ่านสื่อปลอมหลายชนิด โดยใบปลิว และคลิปเสียงนายกฯ เพื่อใช้เป็นชนวนเหตุของความขัดแย้งก่อนการชุมนุม 2. ร่องรอยของการเสียเอกภาพของแกนนำ นปช.เองที่มีบางฝ่ายออกมาไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม และมวลชนคนเสื้อแดงจำนวนไม่น้อย ที่เคยร่วมชุมุนมในวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็มีความวิตกห่วงใยว่า อาจเกิดเหตุจากแกนนำส่วนน้อยที่ประสงค์เห็นบ้านเมืองสงบ สร้างสถานการณ์ความวุ่นวายในจุดที่ไม่ได้มีการชุมนุมใหญ่ เช่น กรณีสามเหลี่ยมดินแดง 3.ในส่วนส่วนของแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้มีการให้ข่าวต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ในลักษณะของการวางเงื่อนไข โดยอาศัยคำทำนาย ไม่ว่าจะเป็นการปฏิวัติ การเตรียมการจลาจลรากหญ้า หรือพูดถึงการเปลี่ยนแปลงในสามเดือนที่รุนแรงมากกว่าการเปลี่ยนแปลงปี 2475
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ขณะที่ทางกลุ่ม นปช.เองได้มีการกลับคำ จากที่เคยสัญญาว่าจะไม่มีการเคลื่อนไหว ในระหว่างที่การยื่นขอถวายฎีกาดำเนินการอยู่นั้น ขณะนี้ได้มีการเตรียมการชุมนุมใหญ่อีกครั้ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจะเป็นชนวน ไปสู่ความขัดแย้ง ที่อาจจะทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่าง เจ้าหน้าที่รัฐกับผู้ชุมนุม หรือระหว่างประชาชนด้วยกันเอง ที่ประชุมจึงมีมติ 3 เรื่องที่อยากให้คนไทยทั้งประเทศ มีส่วนร่วมกัประเทศมีส่วนร่วมกัน คือ 1.ในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐ พรรคสนับสนุนแนวทางอดทนอดกลั้น ให้มากที่สุด ตามที่แนวทางนายอภิสิทธิ์ คือต้องไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิด ขึ้นจากการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่รัฐ 2.ในส่วนของประชาชน ที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม ขอร้องไม่ให้มีการชุมนุมต่อต้าน จากมวลชนกลุ่มอื่นทุกรูปแบบ ขอให้อยู่ในที่ตั้งด้วยความสงบ มีส่วนร่วมสอดส่องความไม่ปกติ และแจ้งเหตเจ้าหน้าที่ทราบ 3. กลุ่มคนเสื้อแดง พรรควิเคราะห์ว่า ส่วนใหญ่มาร่วมด้วยความบริสุทธิ์ใจประสงค์เห็นบ้านเมืองดีขึ้น ยืนยันว่า พรรค และรัฐบาลเคารพสิทธิ์การชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกันการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ไม่ได้มีการก้าวล่วง หรือริดรอนสิทธิ์การชุมนุมโดยสงบแต่อย่างใด ในขณะเดียวกันหากเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ รัฐบาลก็จะแยกแยะระหว่างผู้ชุมนุมกับคนทำผิด รวมถึงรับรองความปลอดภัยผู้เข้าชุมนุมทุกคน
นพ.บุรรัชย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังประเมินว่า สิ่งที่ยังไม่ชัดเจน คือ ข้อเรีกร้องของการชุมนุม เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปฏิรูปการเมือง การแก้รัฐธรรมนูญ หรือการของพระราชทานอภัยโทษ ยังอยู่ในกระบวนการที่ดำเนินการอยู่ทั้งสิ้น และไม่ชัดว่าชัยชนะของการชุมนุมครั้งนี้คืออะไร แต่ครั้งที่แล้วคือ การล้มการประชุมอาเซียน หรือการทำให้รัฐบาลไม่สามารถรักษาความสงบเรียบร้อยบ้านเมืองได้ อยากถามกลับว่า วัตถุประสงค์ชัยชนะวันที่ 30 ส.ค.คืออะไร และประเทศชาติได้อะไรจากการชุมนุมเรียกร้องครั้ง อยากเรียกร้องทุกฝ่ายเรียนรู้ จากบทเรียนจากการชุมนุม อยากเรียกร้องทุกฝ่ายเรียนรู้จากบทเรียนจากการชุมนุมและมีเหตุการณ์ ไม่คาดคิดตามมาหลายอย่างช่วงสงกรานต์ และช่วยกันป้องกันไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย