xs
xsm
sm
md
lg

แอร์พอร์ตลิงก์วิ่งไม่ได้ อย่าโยนขี้ให้สหภาพ ร.ฟ.ท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"ฝั่งขวาเจ้าพระยา"
โดย โชกุน


สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย กำลังเป็นแพะรับบาป ถูกสังคมข้อมูลข่าวสาร เข้าใจผิดว่า เป็นต้นเหตุที่ทำให้ โครงการระบบรถไฟฟ้าเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกับสถานีรับส่งผู้โดยสารภายในเมือง หรือแอร์พอร์ตลิงก์ ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ เพราะขัดขวางไม่ให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ตั้ง บริษัท แอร์พอร์ตลิงก์ เพื่อมาบริหารการเดินรถ

ที่จริงแล้ว ถึงไม่มีการต่อต้าน มติ ครม.3 มิถุนายน 2552 เรื่อง ปรับโครงสร้าง ร.ฟ.ท. ซึ่งให้ ร.ฟ.ท.ตั้งบริษัทลูกขึ้นมาเดินรถไฟสายแอร์พอร์ตลิงก์ ซึ่งมีการหยุดเดินรถไฟทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน จนรัฐบาลต้อง ยอมยุติการตั้งบริษัทไว้ก่อน เพื่อเจรจากับสหภาพ ร.ฟ.ท. รถไฟฟ้าสายแอร์พอร์ตลิงก์ ก็ไม่มีทางที่จะเปิดบริการได้อยู่แล้ว ในปลายปีนี้ หรือแม้แต่ต้นปี 2553 ก็ตาม

เพราะอะไร? เพราะการรถไฟฯ ไม่เคยเตรียมการ วางแผนมาก่อนเลยว่าจะบริหารจัดการการเดินรถอย่างไร เพิ่งจะมีข่าวเมื่อต้นปีนี้เองว่าจะตั้งบริษัทเดินรถ แยกออกจากการรถไฟฯ มาเดินรถสายนี้โดยเฉพาะ แต่กว่าจะนำเข้า ครม. ให้อนุมัติก็ล่วงเข้าเดือนมิถุนายนแล้ว

เดิมนั้น นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์อย่างมั่นใจว่าจะสามารถทดลองเดินรถได้ ในวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา สมมติว่าไม่มีการคัดค้านมติ ครม. วันที่ 3 มิถุนายนของสหภาพฯ ระยะเวลาแค่ 2 เดือน เป็นไปไม่ได้เลยที่การรถไฟฯ จะเดินรถได้

การขับรถไฟฟ้านั้น ดูเหมือนจะง่ายกว่ารถไฟปู๊นๆ เพราะควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์จากส่วนกลาง คนขับรถแค่คอยนำตุ้ขบวนเข้าจอดให้ตรงจุด คอยเปิด ปิดประตู

แต่รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์นั้น ไม่เหมือนกับรถไฟปู๊นๆ ที่สามารถตกรางได้บ่อยๆ โดยไม่มีใครรู้สึกว่า เป็นเรื่องร้ายแรง เพราะเกิดขึ้นจนเป็นเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว การเดินรถไฟฟ้า เป็นการบริการขนส่งมวลชนที่ต้องมีมาตรฐานสูงในเรื่องความปลอดภัย ดังนั้น ต้องมีการฝึกพนักงานเดินรถให้มีทักษะในการบังคับรถ ซึ่งต้องใช้เวลานานเป็นครึ่งปี ถึงปีกว่า

รถไฟฟ้าบีทีเอส ก่อนที่จะเปิดบริการ ต้องส่งคนไปฝึกที่เยอรมนีอยู่นานหลายเดือน เพื่อให้กลับมาสอนพนักงานเดินรถอีกทีหนึ่ง ฝีกอยู่นานเหลายเดือนเหมือนกัน คนขับรถไฟใต้ดิน สายหัวลำโพง-บางซื่อก็เช่นเดียวกัน

การเตรียมความพร้อมในการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ไม่มีความชัดเจนเลย มีแต่ข่าวว่าได้จ้างบริษัทเดินรถไฟจากเยอรมนีเป็นที่ปรึกษาในการคัดเลือกพนักงานและฝึกอบรม จะจ้างจุฬาฯ รับสมัครคนบ้าง จะจ้างบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาบริหารบ้าง

นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ตอบได้ไหมว่า คนที่จะมาขับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์เป็นใครมาจากไหน ตอนนี้มีตัวตนแล้วหรือยัง

โครงการแอร์พอร์ตลิงก์นี้ เกิดขึ้นประมาณต้นปี 2548 สมัยที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ผลักดันโครงการนี้ด้วยความรีบเร่ง ด้วยข้ออ้างว่า เพื่อให้ทันกับการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ แต่แท้จริงแล้ว เพื่อให้บริษัท ซิโน-ไทย ของนายชวรัตน์ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งตอนนั้น ยังสวามิภักดิ์กับระบอบทักษิณอยู่ได้งานไป

โครงการนี้มีมูลค่า 25,900 ล้านบาท การรถไฟฯ ต้องเป็นคนไปกู้เงินเอง เพื่อมาจ่ายค่าก่อสร้างให้ซิโนไทย ผิดวิสัยโครงการทั่วไป ที่ผู้รับเหมาต้องไปหาเงินมาเอง การรถไฟฯยังต้องเป็นฝ่ายจ่ายค่าธรรมเนียมเงินกู้ให้ซิโนไทยด้วย ซึ่งสูงผิดปกติถึง 1,200 ล้านบาท และเป็นประเด็นที่ถูก คตส.ตรวจสอบ หลังการยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549

ถ้าโครงการนี้มีกำไรแน่ๆ ก็คงมีการออกแบบการบริหารการเดินรถ ให้เอกชนเข้ามารับสัมปทานไป แต่มีแนวโน้มสูงที่จะเจ๊ง เพราะเป็นเส้นทางหนึ่งในหลายๆ ทางที่ขนคนไปสู่สนามบินเท่านั้น ดังนั้น จึงโยนกลับไปให้เป็นภาระของการรถไฟฯ

ความจริงก็น่าเห็นใจ ผู้ว่าฯ การรถไฟอยู่ เพราะเนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง กลุ่มซิโนไทย ที่แปรพักตร์จากทักษิณมาอยู่กับนายเนวิน รับไปเต็มๆ ทิ้งให้ การรถไฟฯรับผิดชอบโครงการที่ไม่รู้ว่า จะกำไรหรือขาดทุนแต่ฝ่ายเดียว

สรุปก็คือ โครงการนี้เกิดขึ้นเพื่อให้กลุ่มซิโน-ไทยได้งานมูลค่า 25,000 ล้านบาทไป เมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว จะบริหารจัดการกันอย่างไร สองพ่อลูกตระกูลชาญวีรกุลไม่เกี่ยวแล้ว ตอนนี้เหลือห่วงอยู่อย่างเดียวว่า ทำอย่างไร จึงจะให้การรถไฟฯ รับมอบงานไปให้ได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพราะมิเช่นนั้นแล้ว จะต้องเสียค่าปรับให้การรถไฟวันละ 12 ล้านบาท

นายโสภณ ซารัมย์ คงจะต้องกดดันให้ การรถไฟฯ รีบรับมอบโครงการไปไวๆ ก่อนสิ้นปีนี้ เพื่อที่ซิโนไทยจะได้เบิกเงินงวดสุดท้ายออกไป และไม่ต้องจ่ายค่าปรับ แม้ว่ารับมาแล้วยังวิ่งไม่ได้ เพราะไม่มีคนขับรถก็ไม่เป็นไร โยนให้เป็นความผิดของ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทยไปเลย
กำลังโหลดความคิดเห็น