"ฝั่งขวาเจ้าพระยา"
โดย โชกุน
ดูข่าวกลุ่มเสื้อแดงประกอบพิธีตัดกรรม หงายบาตร ต่ออายุให้ นายใหญ่อันเป็นที่เคารพรัก นช.ทักษิณ ชินวัตร แล้ว รู้สึกสังเวชใจ ปน เวทนาเป็นยิ่งนัก
โถ อุตส่าห์ตีปี๊บเสียใหญ่โตว่า จะมี “ บิ๊กเซอร์ไพรส์” ส่งวิญญาณมาปรากฏตัวให้เห็นกันสดๆ เอาเข้าจริง ทำได้แค่ตัดกระดาษ เป็นรูปหุ่นเท่านั้น ดูอย่างไรก็เหมือนหุ่นที่คนจีนเผาส่งวิญญาณในพิธีกงเต๊ก
จะเชลียร์กันทั้งที จะลงทุนสักนิด ทำให้มันดูดี สมเกียรตินายใหญ่สักหน่อยก็ไม่ได้ ดูแล้วก็อดน้ำตาไหลสงสาร นช. ทักษิณ ไม่ได้ มีคนรักแต่ปากเต็มบ้านเต็มเมือง แต่ที่จะได้เรื่องได้ราว ทำงานคุ้มค่าจ้างไม่มีสักคน เป็นกันอย่างนี้ เลยแพ้แล้วแพ้อีก
การที่ใช้ผ้าดำตัดเป็นกลดล้อมหุ่น นช.ทักษิณนั้น ดูแล้ว น่าตกใจ เป็นเรื่องร้ายแรง หุ่นที่อยู่ใต้กลดดำ ถ้าไม่กำลังป่วยเจียนตาย ก็คงจะอยู่ในความทุกข์เวทนาแสนสาหัส ลูกหลาน ญาติสนิท ไม่รู้จะช่วยเหลืออย่างไรแล้ว เลยต้องอาศัยอำนาจสิ่งลี้ลับเป็นที่พึ่งสุดท้าย
อันว่า การสะเดาะเคราะห์ สืบชะตา ต่ออายุ นั้น เป็นความเชื่อที่อยู่คู่สังคมไทยมาช้านาน แต่ที่ทำกันนั้น เขาทำกันเงียบๆ เป็นเรื่องในครอบครัว คนใกล้ชิด ไม่ใช่มาโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ให้คนมาร่วมกันมากๆ เพื่อผลทางการข่าว เพราะเขาไม่ต้องการให้รู้กันมากเกินไปว่า กำลังมีทุกข์ มีเคราะห์
อันว่ากรรมก็เหมือนหนี้ ไปก่อเอาไว้แล้ว ก็ต้องชดใช้ ทั้งต้นทั้งดอก จนกว่าจะชำระหมดสิ้น
แต่หนี้กรรมนั้น ต่างกับหนี้เงิน ตรงที่ไม่สามารถปรับโครงสร้าง แฮร์คัต ลดหนี้ หรือชำระแทนกันได้
ใครทำกรรมไว้อย่างไร ก็ต้องชดใช้ไปตามนั้น
การไปบนบานศาลกล่าว ทำพิธีขอยกเลิกกรรมที่ตัวเองก่อไว้ ก็เหมือน การคอร์รัปชั่น ติดสินบน ยมบาล ให้ลบชื่อตัวเองออกจากบัญชีหนังหมา
ท่านเจ้าคุณเจ้าอาวาสวัดใหญ่ พิษณุโลก พระธรรมเสนานุวัตร ให้ความรู้ในเรื่องนี้ไว้ว่า การตัดกรรมในทางโลกนั้นไม่มี ใครทำกรรมก็ต้องรับกรรมไป ใครมีบุญมาก ผลแห่งบาปที่ทำไว้ตามไม่ทัน ฉะนั้น คนที่ไม่เคยทำบุญ จึงมีแต่ผลบาปกรรมตามมาทัน เพราะไม่มีบุญส่งเสริมหรือเกื้อหนุน คนเราในโลกนี้ มีทั้งบุญและบาปติดอยู่กับตัวที่ตัวเองทำเอาไว้ ความทุกข์ยากที่เกิดก็เพราะผลบาปที่สร้างขึ้นนั้นมากกว่าบุญ
พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ “ ว.วชิรเมธ” พระดีรูปหนึ่งของสังคมไทย กล่าวว่า พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า ตนทำชั่วเอง จิตก็จะเศร้าหมองเอง ตนทำดีเอง จิตก็จะบริสุทธิ์เอง คนอื่นจะมาช่วยทำพิธี อธิษฐานตัดกรรมแทนกันหาได้ไม่ การที่ทำชั่วเองแล้วจะให้คนอื่นมาตัดให้ไม่ใช่แนวของพุทธศาสนา
อันที่จริง ชีวิตของ นช.ทักษิณ น่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ในมิติของผลบุญ หลักกรรมว่า ทำไมทำบุญมาก็มาก ทั้งแจกเงินให้รากหญ้า หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท เอาเงินหวยซึ่งเป็นอบายมุขส่งเด็กไปเรียนเมืองนอกก็หลายคน ทำโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ให้คนจนเข้าถึงหมอ แต่ทำไมจึงประสบเคราะห์กรรมแสนสาหัส ต้องระเหเร่รอน หลบๆซ่อนๆ ไม่ติดคุกเมืองไทย ก็เหมือนติดตะรางหัวใจอยู่กลางทะเลทราย
หรือว่า บุญที่ทำไว้ ไม่ได้ทำด้วยใจบริสุทธิ์ หรือว่า บาปที่สร้างไว้ เป็นบาปมหันต์ สุดที่จะลบล้างได้
คนเรานั้น พระท่านว่า สำคัญที่จิตใจภายใน ปัจจัยเงื่อนไขแวดล้อมนั้น เป็นเรื่องภายนอก ดำรงอยู่ และแปรเปลี่ยนไป เหนือการควบคุมของเรา แต่จิตใจภายในนั้น สามารถกำหนดควบคุมได้ สุขหรือทุกข์นั้นก็เกิดจากจิตข้างในของตนเอง
นช.ทักษิณ อยู่ในความทุกข์ เพราะการกระของตัวเอง และทุกข์นั้นทับถมมากขึ้นๆ ไม่หมดไปสักที เพราะคิดแต่ว่า ทุกข์ของตนนั้น เกิดเพราะปัจจัยภายนอก เกิดเพราะผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ เพราะพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระบอบอมาตยาธิปไตย เพราะกระบวนการยุติธรรม ที่ไม่เป็นธรรมกับตัวเอง ฯลฯ ก็เลยต้องการจะเปลี่ยนปัจจัยภายนอกเหล่านี้เสีย เพื่อจะได้พ้นทุกข์ คือ กลับมาสู่อำนาจ ได้เงินคืน
นช.ทักษิณ ไม่เคยหวนกลับไปดูด้านในของตัวเองว่า คิดอย่างไร ทำอย่างไร คนทั้งแผ่นดินจึงลุกขึ้นมาขับไล่ ตัวเองต้องมีอะไรผิดปกติอย่างมาก จึงมีวันนี้ได้ แต่ยังคงเป็นทักษิณคนเดิม ที่มองคนอื่นผิดหมด เลวหมด และพร้อมจะใช้ทุกวิธีเพื่อเอาชนะ
คิดดู ขนาดวันเกิดตัวเองแท้ๆ ยังกุเรื่อง “ บิ๊กเซอร์ไพรส์” หลอกพวกเสื้อแดงที่หลงบูชาเทิดทูนตัวเอง
วันนี้ นช.ทักษิณ อายุ 60 ปี คิดใหม่ ทำใหม่ได้แล้ว แค่นี้ก็สายไปแล้ว แต่อย่าให้สายไปกว่านี้