xs
xsm
sm
md
lg

ภาคประชาชนจับมือวุฒิฯ ค้านแหลกเมล์เอ็นจีวี เชื่อไม่คุ้มทุน จี้โละทิ้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กรรมการธิการวุฒิสภา จัดสัมมนารถเมล์เอ็นจีวีสู่การตรวจสอบโดยภาคประชาชน ต่างเห็นพ้องโครงการไม่คุ้มทุน เชื่อไม่ช่วยกู้วิกฤต ขสมก.ทั้งจะเพิ่มภาระภาษีประชาชน เหน็บจำนวนรถเป็นความต้องการนักการเมือง แถมไม่มีแผนรองรับสถานีเอ็นจีวี จี้ เลิกโครงการ

วันนี้ (14 ก.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.00 น.คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ได้จัดสัมมนาเรื่อง “บทเรียนจากรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน สู่การตรวจสอบ ขสมก.โดยภาคประชาชน” โดยมีการเชิญตัวแทนจากภาคประชาชนเข้าร่วมแสดงความเห็น อาทิ มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งนี้ นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้ทาง ขสมก.ยังไม่มีแผนรองรับเกี่ยวกับการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี โดยเฉพาะสถานีเอ็นจีวีที่มีเพียง 2 สถานี อีก 1 สถานี อยู่ระหว่างการก่อสร้าง จึงสามารถรับรถเข้าเติมก๊าซได้ไม่เกิน 900 คันต่อวัน ส่วน ปตท.เองยังวางท่อก๊าซไม่เสร็จ ดังนั้น รัฐบาลควรตั้งโจทย์ว่า โครงการดังกล่าวมีความเป็นไปได้หรือไม่ หรือควรยกเลิกทั้งโครงการ

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ประธานคณะอนุกรรมาธิการส่งเสริมการมีส่วนร่วม กล่าวว่า ขสมก.ควรจะหยุดเดินรถและให้เอกชนเข้ามาบริการแทน ส่วนการให้บริการประชาชนผู้มีรายได้น้อย ควรตั้งนิติบุคคลพิเศษขึ้นมาทำหน้าที่และใช้รถเมล์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ไม่ต้องติดเครื่องปรับอากาศ และใช้ตั๋ว อี-ทิกเก็ต ที่มีราคาย่อมเยา

ด้าน นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ แสดงความสงสัยถึงโครงการดังกล่าวว่า จำนวนรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันนี้ เป็นจำนวนความต้องการของประชาชนที่ต้องการใช้บริการ หรือเป็นจำนวนที่นักการเมืองตั้งขึ้นมา และที่บอกว่า โครงการดังกล่าวจะลดภาระขาดทุนของ ขสมก.หากตรวจสอบจริงจะพบว่า ขสมก.สามารถเก็บรายได้เพียง 7-8 พันบาทต่อวัน แต่ขณะที่ค่าใช้จ่ายสูงถึง 1 หมื่นบาทต่อวัน เป็นค่าใช้จ่ายมากกว่ารายรับ สุดท้ายต้องใช้ภาษีของประชาชนมาแก้ปัญหาขาดทุนของ ขสมก.อีก

นายอิทธิบูรณ์ อ้นสา จากมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า จากการตรวจสอบตัวเลขประมาณการผู้โดยสารพบว่า ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ตัวเลขผู้โดยสารของ ขสมก.ลดจำนวนลงโดยตลอด ส่วนหนึ่งมาจากมีรถโดยสารร่วมหรือรถตู้ ที่เข้ามาแบ่งลูกค้าของ ขสมก.ไป ขณะที่มีตัวเลขขาดทุนมาโดยตลอด หากมีรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันเข้ามาสู่ระบบอีก จำนวนรถจะมากขึ้น แต่ผู้โดยสารยังคงเท่าเดิมหรือลดลง แต่จะมีค่าใช่จ่ายมากขึ้น ที่สำคัญพนักงาน ขสมก.จะต้องตกงานจากผลของโครงการดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าการจัดสัมมนาดังกล่าว คณะกรรมาธิการไม่ได้เชิญตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงคมนาคม คณะกรรมการที่ปรึกษาสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ตัวแทนจากรัฐบาล มาร่วมสัมมนา เพียงแต่ส่งตัวแทนในระดับเจ้าหน้าที่มารับฟังความคิดเห็นเท่านั้น เช่น ตัวแทนกรมบัญชีกลาง ดีเอสไอ ขสมก. โดยการร่วมแสดงความคิดเห็นของภาคประชาชนส่วนใหญ่ ต่างไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าวทั้งสิ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น