xs
xsm
sm
md
lg

“กระบังลม” ออกศึกเดินแผนลับ อ่อนสยบแข็งบุก สอย“มนูญกฤต” เข้าคอกเพื่อไทยสร้างภาพเสริมทัพ

เผยแพร่:   โดย: นกหวีด


ตราบใดที่นักโทษชายยังไร้“สำนึก”รักบ้านเกิดเมืองนอน ตราบนั้นกลุ่มคน“เสื้อแดง”ก็ยังจะ“ดิบ เถื่อน ถ่อย”กันได้อีกหลายรอบ

เวทีที่สนามหลวง ก็อย่างที่ “หัวขวด”ทั้งหลาย ก่นกล่าวประกาศก้องชุมนุมคนเสื้อแดงหนแรกที่ท้าฟ้า-ท้าฝน เป็นเพียงแค่“ชิมลาง”

เช็กเสียงสนับสนุน ปรับจัดทัพกันใหม่ หลังจากคลุ้มคลั่งเผาบ้านผลาญเมืองก่อจลาจลกันมาเมื่อคราวสงกรานต์ทมิฬ โดนชาวบ้านด่ากระจาย จนเตลิดเปิดโปง

เริ่มต้นเดินเกม “ดิบ เถื่อน ถ่อย” ภาคสอง ประเดิม“วางบิล” โชว์“ใบเสร็จ”

ได้“อู้ฟู่”กันอีกหลายยก!

พลังแดงจะสำแดงฤทธิ์เดชกันต่อไป ตามแผนที่เปิดออกมา หนหน้าจะเปิดฉากแอ็กชั่นกันอีกหลายยก ทั้งที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หน้ากองทัพบก และที่ทำเนียบฯ เป็นที่หมายสุดท้าย

งานนี้หัวขวด-หัวกล้วย ไม่รีบร้อน เพราะสู้ช้าๆก็จะยิ่งอิ่มเรื่อยๆ รวยรายรื่น

จะค่อยๆรุกเร้า เติมฟืนสุมไฟ จนกว่าจะถึงจุดเดือด“แดงเพลิง”ก็บุกเผด็จศึกเมื่อนั้น

แผน“ตากสิน2” ทุบหม้อข้าวตีเมืองจันท์!

จะอย่างไรก็ตาม “ทัพแดง”ที่กลับมาฮึกเหิมรอบนี้ สอดคล้องไปกับท่าทีของนักโทษชายทักษิณ ที่กลับมาปลุกกระแส “คนคลั่งเหลี่ยม” จากสนามเลือกตั้งเมืองสกลนคร

ชัยชนะด้วยคะแนนเสียงอย่างถล่มทลายเหนือพรรคของอดีตมือขวา เนวิน ชิดชอบ ที่แปรพักตร์ ไปนำทัพสีน้ำเงิน ในขั้วรัฐบาลประชาธิปัตย์

การดับซ่าสางแค้นสำเร็จ กลายเป็นการเพิ่มพลัง“ห้าวเป้ง” ให้“น.ช.ทักษิณ” และไพร่ทาสสาวกที่ยังหลงใหลได้ปลื้มกับอำนาจเงิน ขนกันไปรุมสกรัม“คนเนรคุณ”จมมิดดิน

โฟนอินพิฆาต เสียงปีศาจยังได้ผล!

ที่น่าสนใจ กับทัพหลวง-ทัพแดง ที่สกลนครประสบความสำเร็จ อีกปัจจัยสำคัญคือ “ทัพหลัง” ทีมส่งกำลังบำรุง

ว่ากันว่า ฝ่ายคลัง-งานบัญชี อยู่ภายใต้การบัญชาการลับ“นายหญิง”

คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ที่หลังจากตี“ทะเบียนหย่า” จากสามี ที่ก็ไม่รู้ว่า หย่าจริง หรือเพียงเพื่ออำพรางเป้าหมาย ซ่อนเร้นเรื่อง“ทรัพย์สิน”

เก็บเนื้อเก็บตัวเงียบมาโดยตลอด โดยเมื่อคราวเกิดเหตุ “สงกรานต์เดือด” มีข่าวว่าหอบลูกๆ เผ่นหนีไปเมืองนอก

มาปรากฏตัวอีกครั้ง เมื่อต้นเดือนมิถุนายน เมื่อนิตยสารไฮโซ รายงานภาพรายงานข่าว พาครอบครัวไปทำบุญ ที่วัดในจังหวัดอยุธยา

ที่เหมือนเดิมสำหรับอดีตนายหญิงพรรคไทยรักไทย ก็คือความนิ่งเรียบเงียบเฉย จะมีรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก ยามถ่ายรูปกับวงศาคณาญาติและเพื่อนพ้อง

ส่วน“ดวงตา” ถูกปกปิดด้วยแว่นกันแดด ยากที่จะอ่านออกว่า ทุกข์สุขเพียงใด สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงคือเรื่อง “ทรงผม”

เกี่ยวกับขนบนหัว ที่ถือว่าสำคัญสำหรับสตรีทุกคน โดยตัวอย่างล่าสุด ที่ทำให้ต้องพูดถึงเรื่องนี้ คือการเสียชีวิตด้วยของดาวค้าฟ้าฮอลลีวูด“นางฟ้าชาลี ”ฟาร์ร่า ฟอว์เซ็ตต

การจากไปด้วยโรคมะเร็งร้ายของเซ็กซิมโบลยุค70 ถูกพูดถึงพร้อมกับ“ทรงผมฟาร์ร่า”

ทรงผมฮอตฮิตในอดีต ที่หากย้อนไปในสมัยคุณป้า คุณแม่ยังสาว ไม่มีใครที่ไม่รู้จักและไม่มีสาวใดในสมัยนั้นที่ไม่อยากแต่สวยด้วย“ทรงฟาร์ร่า”

หันกลับมาว่ากันถึง “คุณหญิงอ้อ” ที่กลับมาพร้อมกับทรงผม “กระบังลม” ทรงผมอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว

แสกข้าง ตั้งเพิง เสริมโครงหน้ารูปไข่และโหนกแกล้มกลมนูน

หลังจากเมื่อต้นปี มีคนเห็นเปลี่ยนรูปลักษณ์ ด้วยผมหวีเสย เปิดหน้าผาก แต่สุดท้าย ก็กลับมาใช้ทรงเก่าเช่นเดิม

ตัดไม่ขาดจากสิ่งที่เคยชอบ เคยรัก อยู่คู่กันมานาน?

เช่นเดียวกับ“ทุกข์”ของอดีตสามี ที่แม้เลิกราทางกฎหมาย แต่เมื่อเธอได้ร่วมรับรู้มาตลอด ถึงอย่างไรเสียก็คงไม่อาจนิ่งดูดายกับเรื่องของคนที่เคยร่วมเตียงเคียงหมอนกันมา30กว่าปี

นั่นก็สอดคล้องกับข้อสังเกต การกลับมาทำหน้าที่ “นายหญิง”

เป็น“ก็อดมาเธอร์”ของระบอบทักษิณอีกครั้ง

ไม่ว่าจะเป็น การเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดสกลนคร ที่ปรากฏคนใกล้ชิด ที่อยู่ในเครือข่ายของคุณหญิง ลงไปช่วยหาเสียงในพื้นที่ ไม่ก็บัญชาการรุกรบอยู่ที่ตึกชินวัตร 3

“วอร์รูม” ยังมีที่ “สายตรงบ้านจันทร์ส่องหล้า”พร้อมหน้าพร้อมตา

ในพื้นที่เลือกตั้ง นอกเหนือจาก คนของ “คุณหญิง”ลงไปช่วยคุมบัญชี ยังเป็นครั้งแรกๆที่ ปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องของทักษิณ คนที่พี่สะใภ้เมตตาและไว้ใจมากที่สุด นำทัพลุยหาเสียงเต็มตัว

รวมทั้งรายสำคัญ “หมอเลี้ยบ”น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ที่ได้เวลากลับบ้าน “จันทร์ส่องหล้า” เป็น “เด็กดี”ของนายหญิงอีกครั้ง หลังระเริงไปกับเนวิน และ“แก๊งออฟโฟร์” ไปพักใหญ่

ดังนั้นถึงคุณหญิงแห่งบ้านจันทร์ส่องหล้าจะไม่ออกหน้าออกตา หรือจะปฏิเสธ แต่ถ้าดูจาก“มืองาน”ก็คงรู้ว่าใครเป็นใคร

รวมทั้งอีกเรื่อง ที่มีกระแสข่าวว่า คุณหญิงพจมาน มีส่วนอยู่ไม่ใช่น้อย ก็คือการหาคนมาเสริมทัพให้กับระบอบทักษิณ ในเกมคัมแบกสู่อำนาจ

โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่ยังไร้“หัว” ขาด “นอมินี”ที่จะมาเป็นแม่ทัพตัวจริง
หลายชื่อที่ปรากฏเป็นแคนดิเดตออกมา ส่วนใหญ่น่าจะเป็นการ “โยนหิน”ของนักโทษชายก็จริง

แต่รายสำคัญล่าสุดที่เพิ่งโผล่ พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร ที่มีข่าวเป็นแคนดิเดตร่างทรงหน้าเหลี่ยมรายล่า

เป็นหนึ่งในสเปก “หัว”พรรคเพื่อไทย ที่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นำเสนอ และน.ช.ทักษิณ รวมทั้ง “คุณหญิงพจมาน” เห็นพ้อง

ว่ากันตามจริง “มนูญกฤต” ที่มีชื่อสร้างความเซอร์ไพรส์ให้วงการ และสังคมการเมืองไทย รวมทั้งประชาชนที่งงๆ ปนสงสัย

เป็นไปได้ไง ไม่อยากเชื่อเลย!

แต่คนในพรรคเพื่อไทย รับรู้กันบ้างมานานแล้ว อดีตนายทหารม้ากระดูกเหล็กแห่ง จปร.รุ่น7 รายนี้ “ใจ”ไปอยู่กับพรรคของนักโทษชาย ตั้งนานแล้ว

จากอดีตประธานวุฒิสภา ที่มีภาพชัดเจนว่าคือขั้วตรงข้าม ศัตรูของฝ่ายทักษิณ เปิดศึกแย่งชิงอำนาจกับ ขั้ว “สุชิน” สุชน ชาลีเครือ เบี้ยของ “ทักษิณ”ในสภาสูง

จากที่เคยขึ้นเวทีพันธมิตรฯ เปิดโปงความเลวร้ายของระบอบทักษิณ ที่รุกคืบแทรกแซงครอบงำวุฒิสภา ให้มวลชนเสื้อเหลืองรับรู้

ที่สำคัญหลังการลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ “มนูญกฤต”ยอมรับ เป็นคนซัพพอร์ตข้อมูลลับให้ “เป็ดเหลิม”ได้ร้องก้าบๆ ซักฟอกพรรคประชาธิปัตย์ด้วยปม เงินบริจาคโรงปูนทีพีไอ

และก็ไม่ใช่เพียง พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่กระซิบนักข่าว แม้แต่คนใกล้ชิดของพล.ต.มนูญกฤต ก็ยอมรับ อดีตนักรบรับจ้างสมรภูมิอินโดจีน รายนี้

เคยบินไปรับจ็อบจากนายใหญ่ ที่เมืองจีน มานานแล้ว

โดยร่วมทริปเดียวกันกับเพื่อนรัก จปร.7 ไปร่วมโต๊ะพูดคุย ในคฤหาสน์ภายใต้สนามกอล์ฟที่ประเทศจีน กับนักโทษชายอย่างชื่นมื่น ทั้งที่อาฆาตมาดร้ายกันมาก่อน

“มนูญ-พัลลภ” กับ ภารกิจพิเศษของนายทหารเฒ่า ที่ไม่รู้จักจบสิ้นงานจ้างรบ!

แม้ว่าบุคลิกของอดีตนายทหารม้ากระดูกเหล็กรายนี้ จะมีความเป็นผู้นำสูง แต่ก็ไม่ใช่สเปกของ น.ช.ทักษิณ อดีตนายกฯเผด็จการในคราบประชาธิปไตย ที่ชมชอบการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเป็นแน่

เพราะคุณสมบัติที่ทักษิณต้องการหลังจากเข็ดกับนอมินีหัวดื้อ สมัคร สุนทรเวช มาแล้ว คือต้องการผู้นำที่จะต้องเป็นเพียง“ร่างทรง”

หัวหน้าพรรคที่ต้องว่านอนสอนง่าย พร้อมรับบัญชา ปฏิบัติตามคำสั่ง

จึงขัดกับความแกร่ง กร้าว เป็นตัวของตัวเองสูง แบบซูเปอร์คอมแมนอย่าง“มนูญกฤต”อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ถึงไม่ได้มีเป้าหมายเลือกมาใช้งานเป็น “ร่างทรง” แต่อย่างน้อยการมีข่าว ได้ตัวฝ่ายศัตรูมาเป็นพวก ก็ถือได้ว่า “หักหน้า” ฝ่ายตรงข้าม และได้ภาพ ใครๆก็ยอมศิโรราบ“หน้าเหลี่ยม”

และอย่างที่บอก เกมดึงตัว“มนูญกฤต” มาอยู่ในเครือข่ายครั้งนี้ ที่ว่า “พจมาน” มีส่วนเป็นอย่างมาก

เพราะถึงแม้ การทาบทามเบื้องต้นของ“ทักษิณ”จะเป็นไปได้ด้วยดี แม้ “มนูญกฤต”จะเคลิ้มคล้อยตามคำชวนของ “เป็ดเหลิม”ที่สนิทสนมกันมา

แต่อย่าลืมว่า ทหารม้าไม่ใช่ทหารราบ คิดอ่านรอบคอบ มีอาการ“ลังเล” อยู่บ้าง

จะด้วยเพราะนึก “อายตัวเอง” หรือเพราะ “หลังบ้าน”ไม่เห็นด้วยกับที่จู่ๆสามีจะพลิกข้างย้ายขั้ว รวมทั้งปัญหาสุขภาพ ที่ยังอยู่ในช่วงพักฟื้น

แต่ผู้ที่ให้เรื่องนี้จบลง ก็คือ “คุณหญิงพจมาน”

ปิดดีลโดยอาศัยลูกถนัด“อ่อนสยบแข็ง” ใช้จริตอิสตรี ที่เคยช่วยสนับสนุนอดีตสามี ทั้งในเรื่องชีวิต ธุรกิจ และการเมือง จนประสบความสำเร็จ

แม้จะมีผิดพลาดบ้าง เมื่อคราวบุกเข้ารังอำมาตย์ใหญ่ ด้วยความนอบน้อม ที่ในที่สุดไม่ได้รับการตอบรับ

ด้วยเจ้าของบ้านไม่วางใจในความอ่อนน้อม ที่อาจแฝงด้วยเล่ห์ ถึงกับเคยออกปากเตือนบริวาร ให้พึงระวัง “ดำอำมหิต”

แต่หนนี้ต่างกัน กับการรุกประชิดเป้าหมาย ถึงขั้นลุยกันไปถึงก้นครัวเลยทีเดียว

การพูดคุยเจรจากับภรรยาของ “มนูญกฤต” ตามประสา “ผู้หญิง” ที่บ้านลาดพร้าว น่าจะประสบความสำเร็จด้วยดี

ปิดดีลช่วยอดีตสามี กับเกมดึงฝ่ายตรงข้ามมาใช้งาน

ดึงศัตรูมาเป็นมิตร!

เปิดแผน นช.ทักษิณชำระแค้น “บิ๊กจิ๋ว-สุเมธ” แคนดิเดตร่างทรง  เดินยุทธศาสตร์ ทหารชนทหาร
เปิดแผน นช.ทักษิณชำระแค้น “บิ๊กจิ๋ว-สุเมธ” แคนดิเดตร่างทรง เดินยุทธศาสตร์ ทหารชนทหาร
ถ้าจำกันได้ ในช่วงการรัฐประหาร19กันยาฯ 2549 ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ที่มีกำลังในมือทั้งกรมอากาศโยธิน กรมทหารราบ และกรมปฏิบัติการพิเศษ คอมมานโด ทอ. ว่ากันว่า สุเมธ เป็นเพื่อน ตท.10 คนสุดท้ายที่ยอมแพ้ สั่งให้คอมมานโด ทอ.“วางอาวุธ” ยุติแผน เคลื่อนกำลังต่อต้านรัฐประหารทีหลังสุด จน “ได้ใจ”ทักษิณ มาตั้งแต่นั้น จนวันนี้ พล.อ.อ.สุเมธ ก็เสนอตัวที่จะเข้ามาช่วยงานเพื่อนในพรรคเพื่อไทย ทันทีที่ได้รับการร้องขอ พร้อมที่จะลาออกจากราชการ ก่อนเกษียณตุลาฯนี้ เพื่อมาทำงานการเมือง
กำลังโหลดความคิดเห็น