ถึง...ทหารใหญ่นอกราชการบางคน..ที่อยากเป็นนายกรัฐมนตรี!
จดหมายฉบับที่ 1 ผมได้ยกตัวอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศนี้ เป็นอุทาหรณ์ให้ทหารใหญ่ในและนอกราชการบางคน ที่อยากเป็นนายกรัฐมนตรีได้คิดใหม่-ทำใหม่-ทำสิ่งที่ดีและถูกไงล่ะครับ
ทหารอาชีพในกองทัพไทยส่วนใหญ่..ขอเน้น..ส่วนใหญ่ นั้นล้วนยึดถือชาติ ศาสน์ กษัตริย์อยู่เหนือสิ่งอื่นใด ทหารอาชีพจะไม่มีวันยอมให้ใครหน้าไหน? ยิ่งใหญ่แค่ไหน? บังอาจจาบจ้วงให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท “ในหลวง” พระผู้ทรงเป็น “จอมทัพ” กองทัพไทย
คนชั่วและนักการเมืองเลวหลายคน ที่บังอาจเหิมเกริมล่วงเกินสถาบันเบื้องสูง เคยถูกทหารหาญ-ข้าราชการและพสกนิกรผู้จงรักภักดี ฟ้องร้องดำเนินคดีจนต้องติดตารางมาแล้วไม่น้อย
หนึ่งในตัวอย่างนักการเมืองที่โดนจำคุก เพราะหมิ่นสถาบันเบื้องสูงชื่อ วีระ มุสิกพงศ์ แต่ด้วยเมตตาจิตหวังให้กลับตัวกลับใจ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี จึงได้ยื่นขอให้ “ในหลวง” พระราชทานอภัยโทษ จนพ้นคุกตะรางก่อนกำหนดเวลาต้องโทษทัณฑ์
ทว่า..นายวีระได้ตอบแทนบุญคุณ “ป๋าเปรม” ด้วยการเนรคุณอย่างหน้าตาเฉย..โดยนำคนเสื้อแดง เดินขบวนบุกบ้านสี่เสาฯ..ด่า “ป๋าเปรม” อย่างหยาบช้า
นายวีระ มุสิกพงศ์ คนเดียวกันกับที่นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ให้เป็นหนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง ที่ก่อเหตุรุนแรงเผาบ้านเผาเมือง คราเหตุการณ์ “สงกรานต์เลือด” ปี 2552 ที่เพิ่งผ่านมานี่แหละครับ
ทหารใหญ่บางคนคงรู้นะ เพราะพวกท่านรับผิดชอบด้านความมั่นคงของชาติอยู่ ยกเว้นท่านจะแกล้งโง่..แต่ผมเชื่อว่าพวกท่านรู้กระจ่างใจแล้วล่ะว่า
นับตั้งแต่วันที่พวกท่านบางคนขึ้นปกครองกองทัพ ภายใต้รัฐบาลทักษิณและรัฐบาลนอมินีของตระกูลชินวัตร ประเทศไทยได้เกิดขบวนการทำลายสถาบันเบื้องสูงอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง มีเหตุการณ์หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ให้ร้ายป้ายสีราชวงศ์จักรีกันอย่างชั่วช้าสามานย์นับไม่ถ้วน
ด้วยสื่อสารพัดชนิด..ที่แจกจ่ายเผยแพร่กันแบบไม่อั้น ทั้งลับ-เปิดเผย-ในกรุงเทพฯ และชนบท โดยเฉพาะแถวภาคอีสานและภาคเหนือ ชนิดไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศนี้
นอกจากนั้นการโจมตีพระองค์ท่าน ด้วยข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน ข้อมูลผิดๆ ข้อมูลบิดเบือนข้อมูลโกหกแบบหน้าด้านๆ ที่สำคัญถึงขนาดจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ต่างชาติ และคอลัมนิสต์มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศบางคน ให้เขียนบทความหรือสื่อข้อความโกหกพกลม โจมตีให้ร้ายสถาบันเบื้องสูงอยู่เนืองๆ อีกด้วย
นายทหารใหญ่คงรู้ใช่ไหมว่า คนที่กระทำเรื่องสารเลวแบบนี้ไม่น้อย ทำงานอยู่ข้างตัวและสนิทสนมกับมหาเศรษฐี “หน้าเหลี่ยม” และสตรี “ผมทรงเพิงหมาแหงน” ถึงขนาดบางคนยังได้เป็นเสนาบดีใหญ่ และอีกไม่น้อยอยู่ในตำแหน่งทางการเมืองสำคัญๆ
ตอนนี้..บางคนที่ทำลายสถาบันเบื้องสูง และโดนเปิดโปงการกระทำชั่วต่อสาธารณชน ถูกทางการดำเนินคดี..ได้หลบหนีไปอยู่ยังต่างแดนแล้ว
ทหารใหญ่บางคนท่านรู้อยู่แก่ใจว่า การที่สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกบั่นทอนทำลายนั้นย่อมนำไปสู่ความไม่มั่นคงอย่างร้ายแรงของชาติไทย และนี่เป็นหน้าที่หลักของพวกท่านที่ต้องต่อสู้ในทุกวิถีทาง เพื่อมิให้ใครหน้าไหนมาทำลายสถาบันเบื้องสูงโดยเด็ดขาด
แต่ยุคทักษิณตราบจนยุครัฐบาลนอมินีเรืองอำนาจนั้น นายทหารใหญ่บางคนที่เป็นผู้นำกองทัพ มีทีท่านิ่งเฉย-ทำทองไม่รู้ร้อน-เอาหูไปนาเอาตาไปไร่..จนเกินงาม เรียกว่า..ปล่อยปละละเลย จนทำให้ขบวนการทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์เติบโต-แข็งแรง-ขยายตัว ฯลฯ เกินกว่าประชาชนคนไทยจะทนนิ่งดูดายได้อีกต่อไป
บอกตามตรง..ทหารใหญ่บางคนและกองทัพ ควรจะต้องขอบคุณประชาชนอย่างนายสนธิ ลิ้มทองกุล และบรรดาพันธมิตรฯ ทุกคน เพราะประชาชนเหล่านี้ คือ พลังเงียบ..ที่ทนเงียบต่อไปไม่ไหวแล้ว พวกเขาจึงได้รวมตัวกันออกมาต่อสู้-ชี้เป้า-ชี้ประเด็นให้ความรู้กับประชาชนได้ทราบว่า
มีนักการเมือง “หน้าเหลี่ยม” และพลพรรคกำลังฉ้อฉลโกงกินบ้านเมืองและยังเผยให้รู้อีกว่า มีพวกนักการเมืองกลุ่มและขบวนการคนชั่วจำนวนหนึ่ง กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของชาติไทย
ประชาชนตาดำๆ ในนามพันธมิตรฯ ได้ทำหน้าที่พลเมืองไทยตามกฎหมายรัฐธรรมนูญระบุไว้ ทั้งๆ ที่มีเพียงสองมือเปล่าและสู้ตามแนวทางสันติอหิงสา แต่กลับถูกระบอบทักษิณกับลูกสมุนผู้นิยมความรุนแรง ใช้อำนาจรัฐรังแกและเข่นฆ่าอย่างทารุณ จนต้องบาดเจ็บ-พิการ-ล้มตายไปเป็นจำนวนมาก
แน่นอน..นายทหารใหญ่บางคน พวกท่านทั้งหลายมิได้หูหนวก-ตาบอด ห้วงเวลาและสถานการณ์เช่นนั้น ประชาชนไม่เข้าใจและทำใจไม่ได้จนทุกวันนี้ว่า
“ในหลวง” ที่ปวงชนชาวไทยรักเทิดทูน แถมพระองค์ยังทรงเป็น “จอมทัพ” ของกองทัพไทย ถูกจาบจ้วงอย่างหยาบช้าสามานย์ถึงขนาดนี้ รวมทั้งประชาชนที่ออกมาปกป้องพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อสู้กับอริราชศัตรูถูกเข่นฆ่าอย่างป่าเถื่อนกลางเมืองครั้งแล้วครั้งเล่า
ทว่า..นายทหารใหญ่บางคนที่ดูแลด้านความมั่นคง..กลับนิ่งเฉย ปล่อยให้นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลนอมินีของทักษิณกับนักการเมืองชั่ว รวมทั้งพลพรรคเสื้อแดงทำเรื่องใหญ่โตและเลวร้ายแบบนี้..ในชาตินี้..ได้อย่างไร?
ที่สำคัญ..นายทหารใหญ่บางคนที่เคยทำรัฐประหารรัฐบาลทักษิณ ทำไมจึงปล่อยให้ทักษิณ กลับมายึดอำนาจรัฐได้อีกครั้ง จนทำให้บ้านเมืองปั่นป่วนวุ่นวาย ขบวนการจาบจ้วงและทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ขยายตัวระบาดแพร่หลายมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว ทำให้ความมั่นคงของชาติไทย..ตกอยู่สภาพไร้ซึ่งความมั่นคงอย่างเหลือเชื่อดังทุกวันนี้ได้อย่างไร!
นายทหารใหญ่บางคน ตลอดห้วงเวลาที่พันธมิตรฯ ทุ่มเทชีวิตสู้กับระบอบทักษิณนั้น พวกท่านมีโอกาสทองที่จะสร้างการเมืองใหม่ ซึ่งเงินจะไม่ใช่พระเจ้าต่อคนจนในชนบทได้ เพื่อทำให้การเมืองไทยดีขึ้น สถาบันพระมหากษัตริย์และชาติมั่นคงยิ่งขึ้น แต่พวกนายทหารใหญ่บางคนกลับไม่ยอมทำ ไม่คิดจะทำให้ประเทศชาติและประชาชน อยู่ในสังคมที่ดีมีคุณภาพอย่างถาวร!
ผมถึงบอกไงล่ะครับว่า..ท่านนายทหารใหญ่บางคนนั้น เรื่องควรทำ-ดันไม่ทำ เรื่องไม่ควร และต้องไม่กระทำ-เสือกดันกระทำ!
ความลับไม่มีในโลก..ยิ่งการเมืองด้วยแล้ว..อย่าหวังว่า จะมีหรือเป็นความลับได้ ท่านนายทหารใหญ่บางคน..พวกท่านไม่มีทางเท่าทันเล่ห์นักการเมืองสามานย์หรอกครับ
ขอบอกให้รู้เลยว่า..นักการเมืองบางคนที่ท่านหนุนหลัง ให้เกิดการพลิกขั้วทางการเมืองนั่นแหละ แอบคาบข่าวไปกระซิบข้างหู “ผู้สื่อข่าว” หลายคนว่า ใคร-สีอะไร-เป็นคนบอกว่า หากไม่ยอมมาร่วมกิจกรรมพลิกขั้ว..อาจเกิดเหตุที่นักการเมืองไม่พึงประสงค์ได้นะจะบอกให้..
อย่าสงสัยว่า..ทำไมนักการเมืองบางคนปากโป้งน่ะรึ? ก็เจ้าพวกนักการเมืองสามานย์เขาจะหักหลังกันน่ะ เขาต้องมีเหตุผล (ที่ไร้เหตุผลและไม่ได้เรื่อง) อธิบายต่อสังคมว่า ที่กูต้องหักหลังทักษิณน่ะ..เพราะ“สีเขียวคุณขอมา” และที่ทำทั้งหมดเนี่ย..ทำเพื่อชาตินะโว้ย! แล้วทำไมพวกกูกล้าหักหลังทักษิณน่ะรึ? คำตอบก็คือ..กูจะกลัวใครในใต้หล้านี้อีกล่ะ..วันนี้กูยืนพิงกำแพง “สีเขียว” อยู่นะเฟ้ย ทักษิณจะกล้าทำอะไรกูหรือ..ฮ่าฮ่าฮ่า?!
ที่สำคัญ..นักการเมืองเหล่านั้นยังเผยสถานที่พลิกขั้วการเมืองจน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ขึ้นนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีแทนมิสเตอร์นอมินี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ว่า..เกมพลิกขั้วนี้..เขาทำกันในกองทหารแห่งหนึ่งขอรับกระผม!
ท่านนายทหารใหญ่บางคนครับ มีคนหลายคนรู้กระทั่งว่า..มีบุคคลสำคัญโทรศัพท์ท้วงติงพวกท่านว่า ไม่น่านำกองทหารมาทำเรื่องทางการเมืองเช่นนี้ หากใครรู้เข้า..จะเสียหายต่อกองทัพ แต่ก็มีเสียงตอบในทำนองว่า..ถึงทำที่แอฟริกาใต้..คนเขาก็รู้อยู่ดี!!!
ที่สำคัญ..ไหนๆ บ้านเมืองก็ตกกระไดพลอยโจน จนพลิกเอว..เอ๊ย..พลิกขั้วการเมืองแล้ว ทหารใหญ่บางคนครับ พวกคุณก็ควรช่วยกันคนละไม้คนละมือ ดันก้นนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้เข้มแข็งมั่นคง และเป็นรัฐบาลที่จะไม่คอร์รัปชันกินกันอย่างมูมมาม เหมือนรัฐบาลยุคทักษิณเขาทำกัน
รัฐบาลพลิกขั้วอภิสิทธิ์นี้ ควรเป็นรัฐบาล “พระ” คุม “โจรให้กลับใจ” ต้องเป็นรัฐบาลที่ทำดีให้มาก-ทำชั่วให้น้อยที่สุด..ว่างั้นเหอะ อีกอย่างต้องทำให้พวกเสื้อแดงและนักการเมืองสามานย์ รวมทั้งนักโทษชายทักษิณทำลายรัฐบาล “มาร์ค” ให้ล้มพังพาบลงง่ายๆ เพราะรัฐบาลอภิสิทธิ์มีภารกิจสำคัญ ต้องนำพาประชาชนเดินหน้าฝ่าวิกฤตทั้งปวงให้ได้ไงล่ะครับ
แต่..ประเทศไทยโชคร้ายจริงๆ เพราะดันมีนายทหารใหญ่นอกราชการบางคน เกิดอยากเรียนลัดเป็นนายกรัฐมนตรีก่อนเวลาอันควร แถมยังมีนายทหารใหญ่บางคนในกองทัพหนุนหลังอีกต่างหาก อ้อ..มีนายตำรวจใหญ่อีกโขยงเห็นด้วย ตามด้วยนักการเมือง “หนึ่งห้อย” เข้าร่วมด้วยช่วยส่งเสริม..แบบหวังดีประสงค์ร้ายอีก..
ชาติไทย..จึงเกิดกลเกมการเมืองภาคพิสดารอันเหลือเชื่อ เพราะมีการแอบ “กิ๊ก”ประสานแผนทั้งสีแดง-สีน้ำเงิน-สีกากี-สีเขียว (สีเหลืองเสือกรู้ทัน-เลยไม่ออกมาเกี่ยว)อย่างแยบยลซับซ้อน จนยากที่ “มาร์ค” นักการเมืองซึ่งทักษิณหยามเหยียดเป็น “เด็กอมมือ” จะไหวทันในเบื้องต้น และน้อยนักที่คอการเมืองจะมองทะลุถึงกลอุบายแสนอันตรายนี้ได้
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร? สนธิลิ้ม-มาเกี่ยวอะไรด้วย-ทำไมจึงโดนรุมยิงนับร้อยนัด?
ต้องอ่าน..จดหมายฉบับที่ 3 ครับ อ้อ..ท่านนายทหารใหญ่บางคน..อย่าเพิ่งใช้ลูกน้องมารุมยิงตัดตอนผมตายเสียก่อนล่ะ เดี๋ยวคนอ่านเขาจะอารมณ์ค้างเติ่ง..!!!
จดหมายฉบับที่ 1 ผมได้ยกตัวอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศนี้ เป็นอุทาหรณ์ให้ทหารใหญ่ในและนอกราชการบางคน ที่อยากเป็นนายกรัฐมนตรีได้คิดใหม่-ทำใหม่-ทำสิ่งที่ดีและถูกไงล่ะครับ
ทหารอาชีพในกองทัพไทยส่วนใหญ่..ขอเน้น..ส่วนใหญ่ นั้นล้วนยึดถือชาติ ศาสน์ กษัตริย์อยู่เหนือสิ่งอื่นใด ทหารอาชีพจะไม่มีวันยอมให้ใครหน้าไหน? ยิ่งใหญ่แค่ไหน? บังอาจจาบจ้วงให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท “ในหลวง” พระผู้ทรงเป็น “จอมทัพ” กองทัพไทย
คนชั่วและนักการเมืองเลวหลายคน ที่บังอาจเหิมเกริมล่วงเกินสถาบันเบื้องสูง เคยถูกทหารหาญ-ข้าราชการและพสกนิกรผู้จงรักภักดี ฟ้องร้องดำเนินคดีจนต้องติดตารางมาแล้วไม่น้อย
หนึ่งในตัวอย่างนักการเมืองที่โดนจำคุก เพราะหมิ่นสถาบันเบื้องสูงชื่อ วีระ มุสิกพงศ์ แต่ด้วยเมตตาจิตหวังให้กลับตัวกลับใจ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี จึงได้ยื่นขอให้ “ในหลวง” พระราชทานอภัยโทษ จนพ้นคุกตะรางก่อนกำหนดเวลาต้องโทษทัณฑ์
ทว่า..นายวีระได้ตอบแทนบุญคุณ “ป๋าเปรม” ด้วยการเนรคุณอย่างหน้าตาเฉย..โดยนำคนเสื้อแดง เดินขบวนบุกบ้านสี่เสาฯ..ด่า “ป๋าเปรม” อย่างหยาบช้า
นายวีระ มุสิกพงศ์ คนเดียวกันกับที่นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ให้เป็นหนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง ที่ก่อเหตุรุนแรงเผาบ้านเผาเมือง คราเหตุการณ์ “สงกรานต์เลือด” ปี 2552 ที่เพิ่งผ่านมานี่แหละครับ
ทหารใหญ่บางคนคงรู้นะ เพราะพวกท่านรับผิดชอบด้านความมั่นคงของชาติอยู่ ยกเว้นท่านจะแกล้งโง่..แต่ผมเชื่อว่าพวกท่านรู้กระจ่างใจแล้วล่ะว่า
นับตั้งแต่วันที่พวกท่านบางคนขึ้นปกครองกองทัพ ภายใต้รัฐบาลทักษิณและรัฐบาลนอมินีของตระกูลชินวัตร ประเทศไทยได้เกิดขบวนการทำลายสถาบันเบื้องสูงอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง มีเหตุการณ์หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ให้ร้ายป้ายสีราชวงศ์จักรีกันอย่างชั่วช้าสามานย์นับไม่ถ้วน
ด้วยสื่อสารพัดชนิด..ที่แจกจ่ายเผยแพร่กันแบบไม่อั้น ทั้งลับ-เปิดเผย-ในกรุงเทพฯ และชนบท โดยเฉพาะแถวภาคอีสานและภาคเหนือ ชนิดไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศนี้
นอกจากนั้นการโจมตีพระองค์ท่าน ด้วยข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน ข้อมูลผิดๆ ข้อมูลบิดเบือนข้อมูลโกหกแบบหน้าด้านๆ ที่สำคัญถึงขนาดจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ต่างชาติ และคอลัมนิสต์มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศบางคน ให้เขียนบทความหรือสื่อข้อความโกหกพกลม โจมตีให้ร้ายสถาบันเบื้องสูงอยู่เนืองๆ อีกด้วย
นายทหารใหญ่คงรู้ใช่ไหมว่า คนที่กระทำเรื่องสารเลวแบบนี้ไม่น้อย ทำงานอยู่ข้างตัวและสนิทสนมกับมหาเศรษฐี “หน้าเหลี่ยม” และสตรี “ผมทรงเพิงหมาแหงน” ถึงขนาดบางคนยังได้เป็นเสนาบดีใหญ่ และอีกไม่น้อยอยู่ในตำแหน่งทางการเมืองสำคัญๆ
ตอนนี้..บางคนที่ทำลายสถาบันเบื้องสูง และโดนเปิดโปงการกระทำชั่วต่อสาธารณชน ถูกทางการดำเนินคดี..ได้หลบหนีไปอยู่ยังต่างแดนแล้ว
ทหารใหญ่บางคนท่านรู้อยู่แก่ใจว่า การที่สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกบั่นทอนทำลายนั้นย่อมนำไปสู่ความไม่มั่นคงอย่างร้ายแรงของชาติไทย และนี่เป็นหน้าที่หลักของพวกท่านที่ต้องต่อสู้ในทุกวิถีทาง เพื่อมิให้ใครหน้าไหนมาทำลายสถาบันเบื้องสูงโดยเด็ดขาด
แต่ยุคทักษิณตราบจนยุครัฐบาลนอมินีเรืองอำนาจนั้น นายทหารใหญ่บางคนที่เป็นผู้นำกองทัพ มีทีท่านิ่งเฉย-ทำทองไม่รู้ร้อน-เอาหูไปนาเอาตาไปไร่..จนเกินงาม เรียกว่า..ปล่อยปละละเลย จนทำให้ขบวนการทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์เติบโต-แข็งแรง-ขยายตัว ฯลฯ เกินกว่าประชาชนคนไทยจะทนนิ่งดูดายได้อีกต่อไป
บอกตามตรง..ทหารใหญ่บางคนและกองทัพ ควรจะต้องขอบคุณประชาชนอย่างนายสนธิ ลิ้มทองกุล และบรรดาพันธมิตรฯ ทุกคน เพราะประชาชนเหล่านี้ คือ พลังเงียบ..ที่ทนเงียบต่อไปไม่ไหวแล้ว พวกเขาจึงได้รวมตัวกันออกมาต่อสู้-ชี้เป้า-ชี้ประเด็นให้ความรู้กับประชาชนได้ทราบว่า
มีนักการเมือง “หน้าเหลี่ยม” และพลพรรคกำลังฉ้อฉลโกงกินบ้านเมืองและยังเผยให้รู้อีกว่า มีพวกนักการเมืองกลุ่มและขบวนการคนชั่วจำนวนหนึ่ง กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของชาติไทย
ประชาชนตาดำๆ ในนามพันธมิตรฯ ได้ทำหน้าที่พลเมืองไทยตามกฎหมายรัฐธรรมนูญระบุไว้ ทั้งๆ ที่มีเพียงสองมือเปล่าและสู้ตามแนวทางสันติอหิงสา แต่กลับถูกระบอบทักษิณกับลูกสมุนผู้นิยมความรุนแรง ใช้อำนาจรัฐรังแกและเข่นฆ่าอย่างทารุณ จนต้องบาดเจ็บ-พิการ-ล้มตายไปเป็นจำนวนมาก
แน่นอน..นายทหารใหญ่บางคน พวกท่านทั้งหลายมิได้หูหนวก-ตาบอด ห้วงเวลาและสถานการณ์เช่นนั้น ประชาชนไม่เข้าใจและทำใจไม่ได้จนทุกวันนี้ว่า
“ในหลวง” ที่ปวงชนชาวไทยรักเทิดทูน แถมพระองค์ยังทรงเป็น “จอมทัพ” ของกองทัพไทย ถูกจาบจ้วงอย่างหยาบช้าสามานย์ถึงขนาดนี้ รวมทั้งประชาชนที่ออกมาปกป้องพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อสู้กับอริราชศัตรูถูกเข่นฆ่าอย่างป่าเถื่อนกลางเมืองครั้งแล้วครั้งเล่า
ทว่า..นายทหารใหญ่บางคนที่ดูแลด้านความมั่นคง..กลับนิ่งเฉย ปล่อยให้นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลนอมินีของทักษิณกับนักการเมืองชั่ว รวมทั้งพลพรรคเสื้อแดงทำเรื่องใหญ่โตและเลวร้ายแบบนี้..ในชาตินี้..ได้อย่างไร?
ที่สำคัญ..นายทหารใหญ่บางคนที่เคยทำรัฐประหารรัฐบาลทักษิณ ทำไมจึงปล่อยให้ทักษิณ กลับมายึดอำนาจรัฐได้อีกครั้ง จนทำให้บ้านเมืองปั่นป่วนวุ่นวาย ขบวนการจาบจ้วงและทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ขยายตัวระบาดแพร่หลายมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว ทำให้ความมั่นคงของชาติไทย..ตกอยู่สภาพไร้ซึ่งความมั่นคงอย่างเหลือเชื่อดังทุกวันนี้ได้อย่างไร!
นายทหารใหญ่บางคน ตลอดห้วงเวลาที่พันธมิตรฯ ทุ่มเทชีวิตสู้กับระบอบทักษิณนั้น พวกท่านมีโอกาสทองที่จะสร้างการเมืองใหม่ ซึ่งเงินจะไม่ใช่พระเจ้าต่อคนจนในชนบทได้ เพื่อทำให้การเมืองไทยดีขึ้น สถาบันพระมหากษัตริย์และชาติมั่นคงยิ่งขึ้น แต่พวกนายทหารใหญ่บางคนกลับไม่ยอมทำ ไม่คิดจะทำให้ประเทศชาติและประชาชน อยู่ในสังคมที่ดีมีคุณภาพอย่างถาวร!
ผมถึงบอกไงล่ะครับว่า..ท่านนายทหารใหญ่บางคนนั้น เรื่องควรทำ-ดันไม่ทำ เรื่องไม่ควร และต้องไม่กระทำ-เสือกดันกระทำ!
ความลับไม่มีในโลก..ยิ่งการเมืองด้วยแล้ว..อย่าหวังว่า จะมีหรือเป็นความลับได้ ท่านนายทหารใหญ่บางคน..พวกท่านไม่มีทางเท่าทันเล่ห์นักการเมืองสามานย์หรอกครับ
ขอบอกให้รู้เลยว่า..นักการเมืองบางคนที่ท่านหนุนหลัง ให้เกิดการพลิกขั้วทางการเมืองนั่นแหละ แอบคาบข่าวไปกระซิบข้างหู “ผู้สื่อข่าว” หลายคนว่า ใคร-สีอะไร-เป็นคนบอกว่า หากไม่ยอมมาร่วมกิจกรรมพลิกขั้ว..อาจเกิดเหตุที่นักการเมืองไม่พึงประสงค์ได้นะจะบอกให้..
อย่าสงสัยว่า..ทำไมนักการเมืองบางคนปากโป้งน่ะรึ? ก็เจ้าพวกนักการเมืองสามานย์เขาจะหักหลังกันน่ะ เขาต้องมีเหตุผล (ที่ไร้เหตุผลและไม่ได้เรื่อง) อธิบายต่อสังคมว่า ที่กูต้องหักหลังทักษิณน่ะ..เพราะ“สีเขียวคุณขอมา” และที่ทำทั้งหมดเนี่ย..ทำเพื่อชาตินะโว้ย! แล้วทำไมพวกกูกล้าหักหลังทักษิณน่ะรึ? คำตอบก็คือ..กูจะกลัวใครในใต้หล้านี้อีกล่ะ..วันนี้กูยืนพิงกำแพง “สีเขียว” อยู่นะเฟ้ย ทักษิณจะกล้าทำอะไรกูหรือ..ฮ่าฮ่าฮ่า?!
ที่สำคัญ..นักการเมืองเหล่านั้นยังเผยสถานที่พลิกขั้วการเมืองจน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ขึ้นนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีแทนมิสเตอร์นอมินี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ว่า..เกมพลิกขั้วนี้..เขาทำกันในกองทหารแห่งหนึ่งขอรับกระผม!
ท่านนายทหารใหญ่บางคนครับ มีคนหลายคนรู้กระทั่งว่า..มีบุคคลสำคัญโทรศัพท์ท้วงติงพวกท่านว่า ไม่น่านำกองทหารมาทำเรื่องทางการเมืองเช่นนี้ หากใครรู้เข้า..จะเสียหายต่อกองทัพ แต่ก็มีเสียงตอบในทำนองว่า..ถึงทำที่แอฟริกาใต้..คนเขาก็รู้อยู่ดี!!!
ที่สำคัญ..ไหนๆ บ้านเมืองก็ตกกระไดพลอยโจน จนพลิกเอว..เอ๊ย..พลิกขั้วการเมืองแล้ว ทหารใหญ่บางคนครับ พวกคุณก็ควรช่วยกันคนละไม้คนละมือ ดันก้นนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้เข้มแข็งมั่นคง และเป็นรัฐบาลที่จะไม่คอร์รัปชันกินกันอย่างมูมมาม เหมือนรัฐบาลยุคทักษิณเขาทำกัน
รัฐบาลพลิกขั้วอภิสิทธิ์นี้ ควรเป็นรัฐบาล “พระ” คุม “โจรให้กลับใจ” ต้องเป็นรัฐบาลที่ทำดีให้มาก-ทำชั่วให้น้อยที่สุด..ว่างั้นเหอะ อีกอย่างต้องทำให้พวกเสื้อแดงและนักการเมืองสามานย์ รวมทั้งนักโทษชายทักษิณทำลายรัฐบาล “มาร์ค” ให้ล้มพังพาบลงง่ายๆ เพราะรัฐบาลอภิสิทธิ์มีภารกิจสำคัญ ต้องนำพาประชาชนเดินหน้าฝ่าวิกฤตทั้งปวงให้ได้ไงล่ะครับ
แต่..ประเทศไทยโชคร้ายจริงๆ เพราะดันมีนายทหารใหญ่นอกราชการบางคน เกิดอยากเรียนลัดเป็นนายกรัฐมนตรีก่อนเวลาอันควร แถมยังมีนายทหารใหญ่บางคนในกองทัพหนุนหลังอีกต่างหาก อ้อ..มีนายตำรวจใหญ่อีกโขยงเห็นด้วย ตามด้วยนักการเมือง “หนึ่งห้อย” เข้าร่วมด้วยช่วยส่งเสริม..แบบหวังดีประสงค์ร้ายอีก..
ชาติไทย..จึงเกิดกลเกมการเมืองภาคพิสดารอันเหลือเชื่อ เพราะมีการแอบ “กิ๊ก”ประสานแผนทั้งสีแดง-สีน้ำเงิน-สีกากี-สีเขียว (สีเหลืองเสือกรู้ทัน-เลยไม่ออกมาเกี่ยว)อย่างแยบยลซับซ้อน จนยากที่ “มาร์ค” นักการเมืองซึ่งทักษิณหยามเหยียดเป็น “เด็กอมมือ” จะไหวทันในเบื้องต้น และน้อยนักที่คอการเมืองจะมองทะลุถึงกลอุบายแสนอันตรายนี้ได้
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร? สนธิลิ้ม-มาเกี่ยวอะไรด้วย-ทำไมจึงโดนรุมยิงนับร้อยนัด?
ต้องอ่าน..จดหมายฉบับที่ 3 ครับ อ้อ..ท่านนายทหารใหญ่บางคน..อย่าเพิ่งใช้ลูกน้องมารุมยิงตัดตอนผมตายเสียก่อนล่ะ เดี๋ยวคนอ่านเขาจะอารมณ์ค้างเติ่ง..!!!
