ทหารส่วนใหญ่หรือกองทัพ..รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์..คนไทยเชื่อ..เชื่อสนิทใจเลยครับ
ทหารใหญ่นอกและในราชการบางคน แม้นพอจะเชื่อว่า..รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ แต่ก็มีการกระทำมากมายที่ผ่านมาบ่งบอกว่า เอาตัวเองเอาประโยชน์เข้าพกเข้าห่อตนกับพวกพ้องไม่กี่คนก่อนเสมอมา ยิ่งยามกระสันอยากได้อำนาจใหญ่โตทางการเมืองด้วยแล้ว ความคิดและการกระทำยิ่งน่าเกลียดน่าชังพิลึก
ทหารใหญ่นอกและในราชการบางคนนั้น ไม่ชอบนักโทษชาย ทักษิณ ชินวัตร กับ “คนเสื้อแดง” แต่ก็แอบไม่ชอบ สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ และ “คนเสื้อเหลือง” ด้วย โดยจัดคนทั้งสองกลุ่มนี้อยู่ในฐานะเป็นภัยต่อความมั่นคงชาติและของพวกกูด้วยเลย!
ถูกอย่างยิ่ง-เพราะนักโทษชายทักษิณกับพวก รวมทั้ง “คนเสื้อแดง” บางส่วน มีพฤติกรรมมุ่งล้มล้างสถาบันสำคัญของชาติและรัฐบาลอภิสิทธิ์ ด้วยความรุนแรงที่ส่งผลต่อความมั่นคงของชาติจริงๆ
ผิดอย่างยิ่ง-เพราะนายสนธิ ลิ้มทองกุล กับแกนนำพันธมิตรฯ คนเสื้อเหลืองนั้น วจีกรรมและกรรมแห่งการกระทำทั้งปวง ล้วนมุ่งมั่นเพื่อต่อสู้กับพวกทำลายชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ถึงขนาดยอมพลีชีพเพื่อปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ ซึ่งตรงกับภารกิจหลักของกองทัพไทย หรือเป็นภารกิจที่กองทัพต้องเป็นกองหน้าในเชิงปฏิบัติด้วยซ้ำไป!
แต่ทำไมทหารใหญ่นอกและในราชการบางคน ที่เคยเป็นและกำลังเป็นข้าราชการทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดันวางเฉยไม่ทำอะไรเลย? จนประชาชนที่เสียภาษีให้รัฐ..และมิได้กินเงินเดือนของรัฐสักบาท กลับต้องออกมาต่อสู้แทนทหารและกองทัพของชาติไปเสียฉิบ
ปรากฏการณ์การต่อสู้ของ สนธิ ลิ้มทองกุล ตามด้วยการผสานพลังของแกนนำพันธมิตรฯ ได้นำกองทัพ “คนเสื้อเหลือง” อันไพศาล เดินหน้าออกมาต่อกรกับรัฐบาลทักษิณ และรัฐบาลนอมินีสมัคร สุนทรเวช รวมทั้ง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ด้วยวิธีการสันติอหิงสาอย่างต่อเนื่อง
แม้นรัฐบาลทักษิณกับพลพรรคจะใช้แผน “ไทยฆ่าไทย” ด้วยการนำเอากลุ่มอันธพาล “คนเสื้อแดง” ถืออาวุธนานาชนิดยกพลจากสนามหลวงมุ่งหน้ามาบุกยังสถานที่ชุมนุมอย่างสันติของพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานฯ และทำเนียบรัฐบาล หวังทำร้ายเข่นฆ่าคนเสื้อเหลืองโดยไม่แยแสต่อตัวบทกฎหมาย ท่ามกลางตำรวจและสื่อมวลชนมากมายนับไม่ถ้วน
แถมรัฐบาลนอมินี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้สั่งการให้ตำรวจสลายการชุมนุมอย่างป่าเถื่อนโดยผิดขั้นตอนด้วยอาวุธสงครามนานาชนิด จนประชาชนบาดเจ็บ-พิการ-ล้มตายหลายร้อยคน รวมทั้งใช้ผู้มีอิทธิพลในเครื่องแบบบางกลุ่ม ลักลอบยิงและปาระเบิดใส่ผู้ชุมนุมกลางกรุงเทพฯ จนบาดเจ็บล้มตายไปหลายคน โดยตำรวจยุคทักษิณไม่เคยจับคนร้ายได้แม้นเพียงคนเดียว
ตลอดเวลาที่มีการเข่นฆ่าปราบปรามประชาชนกลุ่มพันธมิตรฯ ครั้งแล้วครั้งเล่า โดยรัฐบาลนอมินีสมชายได้แสดงพฤติกรรมเสมือนรู้เห็นเป็นใจ แต่นายทหารใหญ่นอกและในราชการบางคน ก็มิได้กระทำการใดๆ ในอันที่จะปกป้องชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์เท่าที่ควรเลย
ว่าไปแล้ว..ทหารใหญ่นอกและในราชการ รวมทั้งกองทัพควรจะขอบคุณ สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ และกองทัพ “คนเสื้อเหลือง” ที่ได้เสี่ยงตายทำหน้าที่แทนทหารในการปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่างกล้าหาญ
ทว่า..นอกจากไม่มีคำขอบคุณใดๆ ทั้งสิ้นแล้ว ทหารใหญ่นอกและในราชการบางคน กลับดันมีทัศนะมองการต่อสู้ของพันธมิตรฯ ไปในทางลบ สุดท้ายยังหลับหูหลับตาเอาพฤติกรรมคนป่วนเมือง อย่างนักโทษชายทักษิณและ “คนเสื้อแดง” มาโมเมเปรียบเทียบเสมอเหมือนกับคนรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่างนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ และกองทัพ “คนเสื้อเหลือง” ว่า
เหลือง-แดง-ล้วนเป็นภัยต่อความมั่นคง (ของพวกกู) ทั้งคู่!!!
เฮ้อ..ข้อสรุปที่ไม่ถูกต้องทั้งเหตุผลและความเป็นจริงนี้เอง ที่ทำให้คนทั่วทุกทิศเกิดคำถามตรงไปตรงมาว่า นักการเมืองที่ดูแลด้านความมั่นคง และทหารใหญ่นอกและในราชการบางคน เกิดต่อมฉลาดในสมองฝ่อกะทันหันหรือไร? จึงไม่มีปัญญาแยกอะไรดี-ชั่ว-ถูก-ผิด อะไรที่ควรหนุนเสริมและอะไรควรขจัดให้หมดไป เพื่อจะได้คืนความสงบมั่นคงสู่ผืนแผ่นดินไทยอีกครา
หากจะให้ผมโทษว่าใครผิด...ผมจะโทษสื่อมวลชนไทยที่ไร้จรรยาบรรณเป็นลำดับแรก ตามมาด้วยนักการเมืองสามานย์เป็นลำดับสอง ส่วนสามนั้นก็ข้าราชการ..โดยเฉพาะกองทัพครับ
บุคคลสามกลุ่มอาชีพดังกล่าว ได้ร่วมกันทั้งจงใจและไม่จงใจในการทำให้ชาติและประชาชนคนไทย ต้องจมปลักอยู่ในสภาพพายเรือในอ่าง-วนไปมาอยู่ในวงจรอุบาทว์อันชั่วช้า จากอดีตตราบปัจจุบันจนชาติใกล้จะล่มจมแล้วครับ
การที่นายทหารใหญ่นอกและในราชการบางคน ไม่ชอบสนธิ ลิ้มทองกุลและแกนนำพันธมิตรฯ นั้น เหตุผลไม่มีอะไรมากไปกว่า..สนธิลิ้ม และบรรดาพันธมิตรฯ “คนเสื้อเหลือง” เป็นมนุษย์อิสระ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รักความเป็นธรรม ชอบความถูกต้อง ที่สำคัญดันรู้ทันกลุ่มการเมืองที่กำลังช่วงชิงอำนาจรัฐกันอยู่ในปัจจุบันอย่างหมดเปลือกครับ
ทุกกลุ่มการเมืองทั้งลับและเปิดเผยประเมินแล้วว่า คนแบบ สนธิ ลิ้มทองกุล และพันธมิตรฯ นั้น ไม่ยินยอมประนีประนอมกับความชั่ว และจะใช้สื่อเอเอสทีวีอันทรงพลังเป็นหัวหอกแฉโพยความสามานย์ ของกลุ่มการเมืองต่างๆ อย่างชนิดถึงลูกถึงคน ที่สำคัญสนธิลิ้มกับแกนนำพันธมิตรฯ ยังพร้อมจะนำมวลชนคนเสื้อเหลืองออกมาต่อสู้ กับบรรดาพวกมักใหญ่ใฝ่สูงทางการเมือง ที่ชอบใช้อำนาจรัฐฉ้อโกงชาติและปล้นประชาชนไงล่ะครับ
พวกนักการเมืองขี้โกงจึงมองสนธิลิ้มและพันธมิตรฯ ทั้งปวง เป็น “ก้างขวางคอ”ทางการเมืองทั้งปัจจุบันและในอนาคต โดยเฉพาะกลุ่มการเมืองใหม่ที่มีนายทหารใหญ่นอกราชการ ซึ่งโหราจารย์หรือ “หมอดูแม่นๆ” ดูดวงไว้ว่า จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีแห่งไทยแลนด์แดนสยาม ต่อจากนายกฯ รูปหล่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในเวลาอันไม่ไกลนี้แหละครับ
ว่าไปแล้ว..การที่ทหารใหญ่นอกราชการบางคน อยากเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น..เป็นเรื่องตัวใครตัวมันที่จะฝันให้ไกล-ไปให้ถึงครับ ไม่มีใครเขาว่าหรืออิจฉาริษยาอะไรด้วยเลย โดยเฉพาะสนธิ ลิ้มทองกุลและพันธมิตรฯ ก็ไม่มีสิทธิไปว่ากล่าวอะไรได้ทั้งสิ้น ขอเพียงนายทหารใหญ่นอกราชการคนนั้น ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกฯ ด้วยความชอบธรรมเท่านั้นเป็นพอ
แต่สนธิลิ้มและแกนนำพันธมิตรฯ ดันทะลึ่งรู้ว่า กลุ่มการเมืองใหม่มีการกระทำอะไรบางเรื่องบางราวไม่ถูกต้อง และหากมีอำนาจทางการเมืองไว้ในกำมือเมื่อไหร่ คนเหล่านี้จะแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัวเองและพวกพ้องอย่างไร้ยางอายอีกด้วย
เรื่องสามานย์เหล่านี้เลยโดนเปิดโปง-แฉโพยโดยเอเอสทีวีว่า มีนายทหารนอกและในราชการบางคน ได้แอบวางกลยุทธ์อันแยบยลหวังจะเตะ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้หล่นตุ๊บจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ด้วยข้ออ้างเป็นรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพ ในการแก้ปัญหาสำคัญๆ ของชาติบ้านเมืองครับ
หรือหากถีบอภิสิทธิ์ลงจากเก้าอี้นายกฯ ไม่ได้ ก็มีอีกแผนที่โหดแต่ไม่ฮา..นั่นคือ..นายกฯ รูปหล่ออาจเผชิญเหตุที่ไม่คาดฝัน จนต้องร่วงจากเก้าอี้นายกฯ แบบฉับพลัน ส่วนนายกฯ จะร่วงโดยยังมีชีวิตอยู่หรือไม่นั้น..ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า
เหตุการณ์รถนายกฯ โดนล้อมกรอบที่พัทยา เหตุการณ์นายกฯ เฉียดตายที่กระทรวงมหาดไทย เหตุการณ์สงกรานต์เลือดในเดือนเมษายน ที่พลพรรคคนเสื้อแดงกับทักษิณอาละวาดป่วนบ้านเผาเมืองนั้น จึงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นแบบเหนือความคาดฝัน และเต็มไปด้วยปมเงื่อนอันสลับซับซ้อนเลือดเย็นที่ไม่ชอบมาพากลหรือผิดปกติอย่างเหลือคณานับ
แถมมีเรื่องตลกโปกฮาแบบเหลือเชื่อ ชนิดทหารหาญของชาติในอดีตที่เคยทำรัฐประหารมาแล้ว ต้องงงและเซ็งหัวใจจนทุกวันนี้ว่า ไอ้เจ้ารถสายพานหุ้มเกราะ 2 คัน มันโผล่มาทำลิงอะไรที่สี่แยกราชประสงค์? แล้วทำไมจึงปล่อยให้คนเสื้อแดงยึดเอาไปขี่เล่นง่ายๆ แบบนั้น? ที่สำคัญในวันนั้น..มันมีรถทำนองนี้ออกมาแค่สองคันหรือห้าสิบกว่าคัน???
แต่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ..ทำไมนายกฯ อภิสิทธิ์ใช้นายทหารใหญ่ ที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายและไม่ได้อยู่ในสายคุมกำลัง มาจัดการกับม็อบอันธพาลการเมืองคนเสื้อแดง โดยปล่อยให้นายทหารใหญ่บางคนที่ดูแลด้านความมั่นคงโดยตรง นั่งหน้าจ๋อย..ไร้สง่าราศี..เคร่งเครียดจนผิดปกติ ที่สำคัญได้แต่นั่งเงียบ..เงียบ..และเงียบเป็นเป่าสาก..???
การที่สีเขียวบางคน..ใช้คนชื่อพม่าหน้าเขมร เป็นทั้งหุ้นส่วนทั้งลับและเปิดเผย เพื่อสร้างกลุ่มการเมืองใหม่และขุมกำลังคนสีน้ำเงิน เป็นบันไดก้าวขึ้นยึดครองอำนาจรัฐ และมุ่งทำลายคนเสื้อแดงและคนเสื้อเหลืองอย่างย่ามใจนั้น
ถือได้ว่า..ทหารใหญ่นอกและในราชการบางคน ได้ตกลงใจที่จะใช้ “น้ำเน่า” มาสร้างตนและพวกพ้องให้ขึ้นเป็นใหญ่เป็นโต ในน้ำเน่าของการเมืองเก่าอันเน่าเฟะนั่นเอง..โอ้..พระเจ้าจอร์จเชิญตามสบายเลยขอรับกระผม
ขณะนี้..จึงไม่น่าแปลกใจอะไรเลย ที่คนไทยจะได้เห็น “ห้อย ณ อีสานใต้” ใหญ่คับฟ้า จนบางคนมองออกว่านายกรัฐมนตรีตัวจริงนั้น มิได้ชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หากแต่เป็นชายไทยชื่อพม่าหน้าเขมรคนหนึ่งต่างหาก
ชายไทยชื่อพม่าหน้าเขมรคนนี้กับพรรคพวก กำลังฉวยโอกาสสวาปามเงินงบประมาณชาติด้วยสารพัดโครงการของรัฐอย่างมูมมาม โดยมีชาวประชาธิปัตย์บางคนกระทำทั้งหลิ่วตาและให้ท้าย รวมทั้งร่วมกันแบ่งปัน “กระสุนดินดำ” เข้ากระเป๋า เพื่อเก็บไว้สู้ศึกเลือกตั้งคราหน้า โดยไม่แยแสต่อการเปิดโปงของสื่อมวลชน และเสียงคัดค้านจากประชาชนคนไทยแม้นแต่น้อย
สุดท้ายเลยจนตรอก..เสียงปืนร้อยกว่านัด จึงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น กระสุนจากอาวุธสงครามทุกนัด..มุ่งฆ่า สนธิ ลิ้มทองกุล ให้ดับดิ้นกลางท้องถนน แต่ฟ้ามีตา..ปาฏิหาริย์จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง คนทำดีอย่าง สนธิ ลิ้มทองกุล จึงรอดชีวิตในวินาทีแห่งความตายมาเยือนอยู่ต่อหน้าต่อตา!
ฆ่า-สนธิลิ้มทำไมน่ะหรือ? คำตอบของคนสั่งฆ่าสนธิ..เชื่อว่า สนธิตาย-พันธมิตรฯ ตาย-พรรคพันธมิตรฯ ตาย-เอเอสทีวีตาย-ก้างขวางคอตาย!
คนลงมือยิงสนธิลิ้ม-คือใคร? คนสั่งยิงสนธิลิ้ม-คือใคร? ต้องดู..สนธิลิ้มตาย..ใครได้ประโยชน์มากที่สุด..???
ทั้งหมดเป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ เพราะคำตอบมันตอบโต้งๆ อยู่แล้วครับ!!!
ทหารใหญ่นอกและในราชการบางคน แม้นพอจะเชื่อว่า..รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ แต่ก็มีการกระทำมากมายที่ผ่านมาบ่งบอกว่า เอาตัวเองเอาประโยชน์เข้าพกเข้าห่อตนกับพวกพ้องไม่กี่คนก่อนเสมอมา ยิ่งยามกระสันอยากได้อำนาจใหญ่โตทางการเมืองด้วยแล้ว ความคิดและการกระทำยิ่งน่าเกลียดน่าชังพิลึก
ทหารใหญ่นอกและในราชการบางคนนั้น ไม่ชอบนักโทษชาย ทักษิณ ชินวัตร กับ “คนเสื้อแดง” แต่ก็แอบไม่ชอบ สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ และ “คนเสื้อเหลือง” ด้วย โดยจัดคนทั้งสองกลุ่มนี้อยู่ในฐานะเป็นภัยต่อความมั่นคงชาติและของพวกกูด้วยเลย!
ถูกอย่างยิ่ง-เพราะนักโทษชายทักษิณกับพวก รวมทั้ง “คนเสื้อแดง” บางส่วน มีพฤติกรรมมุ่งล้มล้างสถาบันสำคัญของชาติและรัฐบาลอภิสิทธิ์ ด้วยความรุนแรงที่ส่งผลต่อความมั่นคงของชาติจริงๆ
ผิดอย่างยิ่ง-เพราะนายสนธิ ลิ้มทองกุล กับแกนนำพันธมิตรฯ คนเสื้อเหลืองนั้น วจีกรรมและกรรมแห่งการกระทำทั้งปวง ล้วนมุ่งมั่นเพื่อต่อสู้กับพวกทำลายชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ถึงขนาดยอมพลีชีพเพื่อปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ ซึ่งตรงกับภารกิจหลักของกองทัพไทย หรือเป็นภารกิจที่กองทัพต้องเป็นกองหน้าในเชิงปฏิบัติด้วยซ้ำไป!
แต่ทำไมทหารใหญ่นอกและในราชการบางคน ที่เคยเป็นและกำลังเป็นข้าราชการทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดันวางเฉยไม่ทำอะไรเลย? จนประชาชนที่เสียภาษีให้รัฐ..และมิได้กินเงินเดือนของรัฐสักบาท กลับต้องออกมาต่อสู้แทนทหารและกองทัพของชาติไปเสียฉิบ
ปรากฏการณ์การต่อสู้ของ สนธิ ลิ้มทองกุล ตามด้วยการผสานพลังของแกนนำพันธมิตรฯ ได้นำกองทัพ “คนเสื้อเหลือง” อันไพศาล เดินหน้าออกมาต่อกรกับรัฐบาลทักษิณ และรัฐบาลนอมินีสมัคร สุนทรเวช รวมทั้ง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ด้วยวิธีการสันติอหิงสาอย่างต่อเนื่อง
แม้นรัฐบาลทักษิณกับพลพรรคจะใช้แผน “ไทยฆ่าไทย” ด้วยการนำเอากลุ่มอันธพาล “คนเสื้อแดง” ถืออาวุธนานาชนิดยกพลจากสนามหลวงมุ่งหน้ามาบุกยังสถานที่ชุมนุมอย่างสันติของพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานฯ และทำเนียบรัฐบาล หวังทำร้ายเข่นฆ่าคนเสื้อเหลืองโดยไม่แยแสต่อตัวบทกฎหมาย ท่ามกลางตำรวจและสื่อมวลชนมากมายนับไม่ถ้วน
แถมรัฐบาลนอมินี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้สั่งการให้ตำรวจสลายการชุมนุมอย่างป่าเถื่อนโดยผิดขั้นตอนด้วยอาวุธสงครามนานาชนิด จนประชาชนบาดเจ็บ-พิการ-ล้มตายหลายร้อยคน รวมทั้งใช้ผู้มีอิทธิพลในเครื่องแบบบางกลุ่ม ลักลอบยิงและปาระเบิดใส่ผู้ชุมนุมกลางกรุงเทพฯ จนบาดเจ็บล้มตายไปหลายคน โดยตำรวจยุคทักษิณไม่เคยจับคนร้ายได้แม้นเพียงคนเดียว
ตลอดเวลาที่มีการเข่นฆ่าปราบปรามประชาชนกลุ่มพันธมิตรฯ ครั้งแล้วครั้งเล่า โดยรัฐบาลนอมินีสมชายได้แสดงพฤติกรรมเสมือนรู้เห็นเป็นใจ แต่นายทหารใหญ่นอกและในราชการบางคน ก็มิได้กระทำการใดๆ ในอันที่จะปกป้องชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์เท่าที่ควรเลย
ว่าไปแล้ว..ทหารใหญ่นอกและในราชการ รวมทั้งกองทัพควรจะขอบคุณ สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ และกองทัพ “คนเสื้อเหลือง” ที่ได้เสี่ยงตายทำหน้าที่แทนทหารในการปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่างกล้าหาญ
ทว่า..นอกจากไม่มีคำขอบคุณใดๆ ทั้งสิ้นแล้ว ทหารใหญ่นอกและในราชการบางคน กลับดันมีทัศนะมองการต่อสู้ของพันธมิตรฯ ไปในทางลบ สุดท้ายยังหลับหูหลับตาเอาพฤติกรรมคนป่วนเมือง อย่างนักโทษชายทักษิณและ “คนเสื้อแดง” มาโมเมเปรียบเทียบเสมอเหมือนกับคนรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่างนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ และกองทัพ “คนเสื้อเหลือง” ว่า
เหลือง-แดง-ล้วนเป็นภัยต่อความมั่นคง (ของพวกกู) ทั้งคู่!!!
เฮ้อ..ข้อสรุปที่ไม่ถูกต้องทั้งเหตุผลและความเป็นจริงนี้เอง ที่ทำให้คนทั่วทุกทิศเกิดคำถามตรงไปตรงมาว่า นักการเมืองที่ดูแลด้านความมั่นคง และทหารใหญ่นอกและในราชการบางคน เกิดต่อมฉลาดในสมองฝ่อกะทันหันหรือไร? จึงไม่มีปัญญาแยกอะไรดี-ชั่ว-ถูก-ผิด อะไรที่ควรหนุนเสริมและอะไรควรขจัดให้หมดไป เพื่อจะได้คืนความสงบมั่นคงสู่ผืนแผ่นดินไทยอีกครา
หากจะให้ผมโทษว่าใครผิด...ผมจะโทษสื่อมวลชนไทยที่ไร้จรรยาบรรณเป็นลำดับแรก ตามมาด้วยนักการเมืองสามานย์เป็นลำดับสอง ส่วนสามนั้นก็ข้าราชการ..โดยเฉพาะกองทัพครับ
บุคคลสามกลุ่มอาชีพดังกล่าว ได้ร่วมกันทั้งจงใจและไม่จงใจในการทำให้ชาติและประชาชนคนไทย ต้องจมปลักอยู่ในสภาพพายเรือในอ่าง-วนไปมาอยู่ในวงจรอุบาทว์อันชั่วช้า จากอดีตตราบปัจจุบันจนชาติใกล้จะล่มจมแล้วครับ
การที่นายทหารใหญ่นอกและในราชการบางคน ไม่ชอบสนธิ ลิ้มทองกุลและแกนนำพันธมิตรฯ นั้น เหตุผลไม่มีอะไรมากไปกว่า..สนธิลิ้ม และบรรดาพันธมิตรฯ “คนเสื้อเหลือง” เป็นมนุษย์อิสระ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รักความเป็นธรรม ชอบความถูกต้อง ที่สำคัญดันรู้ทันกลุ่มการเมืองที่กำลังช่วงชิงอำนาจรัฐกันอยู่ในปัจจุบันอย่างหมดเปลือกครับ
ทุกกลุ่มการเมืองทั้งลับและเปิดเผยประเมินแล้วว่า คนแบบ สนธิ ลิ้มทองกุล และพันธมิตรฯ นั้น ไม่ยินยอมประนีประนอมกับความชั่ว และจะใช้สื่อเอเอสทีวีอันทรงพลังเป็นหัวหอกแฉโพยความสามานย์ ของกลุ่มการเมืองต่างๆ อย่างชนิดถึงลูกถึงคน ที่สำคัญสนธิลิ้มกับแกนนำพันธมิตรฯ ยังพร้อมจะนำมวลชนคนเสื้อเหลืองออกมาต่อสู้ กับบรรดาพวกมักใหญ่ใฝ่สูงทางการเมือง ที่ชอบใช้อำนาจรัฐฉ้อโกงชาติและปล้นประชาชนไงล่ะครับ
พวกนักการเมืองขี้โกงจึงมองสนธิลิ้มและพันธมิตรฯ ทั้งปวง เป็น “ก้างขวางคอ”ทางการเมืองทั้งปัจจุบันและในอนาคต โดยเฉพาะกลุ่มการเมืองใหม่ที่มีนายทหารใหญ่นอกราชการ ซึ่งโหราจารย์หรือ “หมอดูแม่นๆ” ดูดวงไว้ว่า จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีแห่งไทยแลนด์แดนสยาม ต่อจากนายกฯ รูปหล่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในเวลาอันไม่ไกลนี้แหละครับ
ว่าไปแล้ว..การที่ทหารใหญ่นอกราชการบางคน อยากเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น..เป็นเรื่องตัวใครตัวมันที่จะฝันให้ไกล-ไปให้ถึงครับ ไม่มีใครเขาว่าหรืออิจฉาริษยาอะไรด้วยเลย โดยเฉพาะสนธิ ลิ้มทองกุลและพันธมิตรฯ ก็ไม่มีสิทธิไปว่ากล่าวอะไรได้ทั้งสิ้น ขอเพียงนายทหารใหญ่นอกราชการคนนั้น ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกฯ ด้วยความชอบธรรมเท่านั้นเป็นพอ
แต่สนธิลิ้มและแกนนำพันธมิตรฯ ดันทะลึ่งรู้ว่า กลุ่มการเมืองใหม่มีการกระทำอะไรบางเรื่องบางราวไม่ถูกต้อง และหากมีอำนาจทางการเมืองไว้ในกำมือเมื่อไหร่ คนเหล่านี้จะแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัวเองและพวกพ้องอย่างไร้ยางอายอีกด้วย
เรื่องสามานย์เหล่านี้เลยโดนเปิดโปง-แฉโพยโดยเอเอสทีวีว่า มีนายทหารนอกและในราชการบางคน ได้แอบวางกลยุทธ์อันแยบยลหวังจะเตะ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้หล่นตุ๊บจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ด้วยข้ออ้างเป็นรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพ ในการแก้ปัญหาสำคัญๆ ของชาติบ้านเมืองครับ
หรือหากถีบอภิสิทธิ์ลงจากเก้าอี้นายกฯ ไม่ได้ ก็มีอีกแผนที่โหดแต่ไม่ฮา..นั่นคือ..นายกฯ รูปหล่ออาจเผชิญเหตุที่ไม่คาดฝัน จนต้องร่วงจากเก้าอี้นายกฯ แบบฉับพลัน ส่วนนายกฯ จะร่วงโดยยังมีชีวิตอยู่หรือไม่นั้น..ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า
เหตุการณ์รถนายกฯ โดนล้อมกรอบที่พัทยา เหตุการณ์นายกฯ เฉียดตายที่กระทรวงมหาดไทย เหตุการณ์สงกรานต์เลือดในเดือนเมษายน ที่พลพรรคคนเสื้อแดงกับทักษิณอาละวาดป่วนบ้านเผาเมืองนั้น จึงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นแบบเหนือความคาดฝัน และเต็มไปด้วยปมเงื่อนอันสลับซับซ้อนเลือดเย็นที่ไม่ชอบมาพากลหรือผิดปกติอย่างเหลือคณานับ
แถมมีเรื่องตลกโปกฮาแบบเหลือเชื่อ ชนิดทหารหาญของชาติในอดีตที่เคยทำรัฐประหารมาแล้ว ต้องงงและเซ็งหัวใจจนทุกวันนี้ว่า ไอ้เจ้ารถสายพานหุ้มเกราะ 2 คัน มันโผล่มาทำลิงอะไรที่สี่แยกราชประสงค์? แล้วทำไมจึงปล่อยให้คนเสื้อแดงยึดเอาไปขี่เล่นง่ายๆ แบบนั้น? ที่สำคัญในวันนั้น..มันมีรถทำนองนี้ออกมาแค่สองคันหรือห้าสิบกว่าคัน???
แต่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ..ทำไมนายกฯ อภิสิทธิ์ใช้นายทหารใหญ่ ที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายและไม่ได้อยู่ในสายคุมกำลัง มาจัดการกับม็อบอันธพาลการเมืองคนเสื้อแดง โดยปล่อยให้นายทหารใหญ่บางคนที่ดูแลด้านความมั่นคงโดยตรง นั่งหน้าจ๋อย..ไร้สง่าราศี..เคร่งเครียดจนผิดปกติ ที่สำคัญได้แต่นั่งเงียบ..เงียบ..และเงียบเป็นเป่าสาก..???
การที่สีเขียวบางคน..ใช้คนชื่อพม่าหน้าเขมร เป็นทั้งหุ้นส่วนทั้งลับและเปิดเผย เพื่อสร้างกลุ่มการเมืองใหม่และขุมกำลังคนสีน้ำเงิน เป็นบันไดก้าวขึ้นยึดครองอำนาจรัฐ และมุ่งทำลายคนเสื้อแดงและคนเสื้อเหลืองอย่างย่ามใจนั้น
ถือได้ว่า..ทหารใหญ่นอกและในราชการบางคน ได้ตกลงใจที่จะใช้ “น้ำเน่า” มาสร้างตนและพวกพ้องให้ขึ้นเป็นใหญ่เป็นโต ในน้ำเน่าของการเมืองเก่าอันเน่าเฟะนั่นเอง..โอ้..พระเจ้าจอร์จเชิญตามสบายเลยขอรับกระผม
ขณะนี้..จึงไม่น่าแปลกใจอะไรเลย ที่คนไทยจะได้เห็น “ห้อย ณ อีสานใต้” ใหญ่คับฟ้า จนบางคนมองออกว่านายกรัฐมนตรีตัวจริงนั้น มิได้ชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หากแต่เป็นชายไทยชื่อพม่าหน้าเขมรคนหนึ่งต่างหาก
ชายไทยชื่อพม่าหน้าเขมรคนนี้กับพรรคพวก กำลังฉวยโอกาสสวาปามเงินงบประมาณชาติด้วยสารพัดโครงการของรัฐอย่างมูมมาม โดยมีชาวประชาธิปัตย์บางคนกระทำทั้งหลิ่วตาและให้ท้าย รวมทั้งร่วมกันแบ่งปัน “กระสุนดินดำ” เข้ากระเป๋า เพื่อเก็บไว้สู้ศึกเลือกตั้งคราหน้า โดยไม่แยแสต่อการเปิดโปงของสื่อมวลชน และเสียงคัดค้านจากประชาชนคนไทยแม้นแต่น้อย
สุดท้ายเลยจนตรอก..เสียงปืนร้อยกว่านัด จึงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น กระสุนจากอาวุธสงครามทุกนัด..มุ่งฆ่า สนธิ ลิ้มทองกุล ให้ดับดิ้นกลางท้องถนน แต่ฟ้ามีตา..ปาฏิหาริย์จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง คนทำดีอย่าง สนธิ ลิ้มทองกุล จึงรอดชีวิตในวินาทีแห่งความตายมาเยือนอยู่ต่อหน้าต่อตา!
ฆ่า-สนธิลิ้มทำไมน่ะหรือ? คำตอบของคนสั่งฆ่าสนธิ..เชื่อว่า สนธิตาย-พันธมิตรฯ ตาย-พรรคพันธมิตรฯ ตาย-เอเอสทีวีตาย-ก้างขวางคอตาย!
คนลงมือยิงสนธิลิ้ม-คือใคร? คนสั่งยิงสนธิลิ้ม-คือใคร? ต้องดู..สนธิลิ้มตาย..ใครได้ประโยชน์มากที่สุด..???
ทั้งหมดเป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ เพราะคำตอบมันตอบโต้งๆ อยู่แล้วครับ!!!
