xs
xsm
sm
md
lg

คำต่อคำ"สนธิ"เผยปมลอบสังหาร เปิดคดีเมื่อไหร่สะเทือนการเมืองแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"สนธิ"เปิดใจครั้งแรก ถึงวินาทีถูกรุมถล่มด้วยอาวุธสงคราม เชื่อปมล่าสังหารเกิดจากกลุ่มอำนาจเก่าที่ถูก "การเมืองใหม่" หลอน และการทำหน้าที่สื่อกระชากหน้ากากผู้ดีจอมปลอม จนต้องวางแผนตัดไฟแต่ต้นลม แต่เชื่อแม้ตัวตายก็ไม่สามารถหยุดยั้ง "ปัญญา"ได้ฝังรากลึก และแผ่ขยายไปในสังคมแล้วได้ เผยรอดชีวิตเพราะ"ความดี" ที่ได้ทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นเกราะคุ้มภัย ยันอโหสิกรรมให้มือปืนและผู้บงการ ปล่อยให้กฎแห่งกรรม และกฎหมายจัดการ ระบุคดีมีความคืบหน้า เมื่อเปิดออกมาเมื่อไร สะเทือนวงการแน่ และจะเป็นปัญหาทางการเมืองที่นายกฯ ต้องตัดสินใจ

"สนธิ ลิ้มทองกุล" ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ ในเครือ ASTVผู้จัดการ และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์พิเศษ บัณฑิต จันทศรีคำ หรือ "แคน สาริกา" บรรณาธิการบริหาร "เนชั่นสุดสัปดาห์" และ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเสทีวี -ทีวีของประชาชน เมื่อคืนวานนี้ (1 พ.ค.) ถึงกรณีถูกลอบสังหาร เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา ระหว่างเดินทางไปจัดรายการ "กู๊ดมอร์นิ่ง ไทยแลนด์" ที่สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี แต่รอดตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์

-การถูกลอบยิงครั้งนี้ เป็นเพราะเราเปลี่ยนการเมืองใหม่หรือเปล่า ประเด็นที่เรามุ่งไป ทำให้กลุ่มอำนาจเดิมเดิม มีความคิดเดิมเดิม

ถ้าเรามองย้อนหลังกลับไป จะเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ ตรงที่ว่าคุณทักษิณ มีโอกาสสร้างการเมืองใหม่ ด้วยรัฐธรรมนูญปี 40 ที่ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีสูงสุด ให้คุณค่าความเป็นมนุษย์ มีกฎบัญญัติเยอะมาก แต่เผอิญรัฐธรรมนูญปี 40 นั้นเกิดขึ้นมาบนเงื่อนไขว่า นายกรัฐมนตรี ต้องเป็นคนดี มีจริยธรรม สร้างขึ้นมาโดยตั้งข้อสันนิษฐานว่า ต้องเป็นคนดี ซึ่งมันผิด คุณทักษิณ เลยพลิกผันเอาการเมืองซึ่งเปิดโอกาสให้เขาสามารถสร้างการเมืองขึ้นใหม่เองได้ คือ ถ้าคุณทักษิณเป็นคนมีจริยธรรม ไม่แทรกแซงองค์กรอิสระ เป็นคนที่ทำงานเพื่อส่วนรวมแล้ว การเมืองใหม่ในเมืองไทยเกิดขึ้นได้ เกิดขึ้นในลักษณะที่เรียกว่า การทำงานก็ไม่มีใครรังแก
ขณะเดียวกัน องค์กรอิสระก็สามารถทำงานได้อย่างอิสระ แต่นี่มันผิดฝา ผิดหลักหมดเลย คือการเมืองมีการแทรกแซงได้ การรวมพรรคเป็นพรรคเดียว ก็ทำเพื่อเจตนารมณ์ให้ตัวเองมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอยู่ในมือ คือคุณทักษิณ กำลังมองการเมืองปี 2540 เหมือนการร่วมทุน คือการเทกโอเวอร์พรรค การควบรวมกิจการ และมองการเมืองในเชิงธุรกิจ เหมือนอย่างที่ครอบครัวเขาเป็น มันเลยเกิดภาวะการณ์ที่ทำให้คนมีความรู้สึกว่า การเมือง2540 ซึ่งในสายตาผมแล้ว เป็นความล้มเหลว
เมื่อเกิดการรัฐประหาร วันที่ 19 กันยายน 49 มันเลยเกิดภาวะการณ์ตีกลับไปหมด ถ้าสังเกตให้ดีๆ คมช.และคุณสุรยุทธ์ จุลานนท์ นั้นคือตัวปัญหา เพราะคนพวกนี้ไปยึดถือกติกาเก่าๆ ว่าถ้าตัวเองมีอำนาจในมือแล้ว มีรัฐบาลแล้ว ใครก็ไม่สามารถปลดได้ นั่นคือที่มาที่เขาไม่พยายามจะพัฒนาการเมืองต่อไป แต่เขากลับย้อนไปเล่นการเมืองเก่า คือ การเมืองประเภทที่เรียกว่า สมบัติผลัดกันชม
ส่วนการเมืองชุดปัจจุบันที่เกิดขึ้น หลังจากคุณทักษิณไป จะเกิดขึ้นยังไง มันก็เกิดขึ้นมาได้ วันที่ทหารตัดสินใจบีบพรรคร่วมรัฐบาลให้ย้ายข้างมาอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ก็ทำให้ผมเห็นภาพชัดเจนว่า นี่คือการเมืองเก่า100 % ที่ทหารยังต้องการให้เป็นอยู่ หรือกลุ่มการเมืองเก่าต้องการให้เป็นอยู่ ไม่มีวันต้องการการเมืองใหม่ เพราะการเมืองใหม่มันโปร่งใส ทำอะไรไม่ได้ แต่การเมืองเก่าแบบนี้ ทำได้ตลอด
สมมติเอา คุณประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้ามาในพรรคภูมิใจไทย แล้วยุบสภาเลือกตั้ง ชู คุณประวิตร เป็นหัวหน้าพรรค แล้วใช้เงินซื้อเสียง ใช้อำนาจรัฐซึ่งเขามีอยู่ กระทรวงมหาดไทย ตำรวจบ้าง น้องชาย คุณประวิตร แต่งตั้ง แล้วคะแนนเสียงเขามาที่หนึ่ง เมื่อคะแนนเสียงที่ 1 ไม่มีใครกล้า เพราะเขาเป็นพรรคทหารไง สมมติคุณประวิตร เป็นนายกฯ คุณอนุพงษ์ เผ่าจินดา ก็รอ จนกระทั่งถึงงวดหน้าคุณอนุพงษ์ ก็เป็นต่อ แบบว่า สมบัติผลัดกันชม
ด้วยเหตุตรงนี้ พวกนี้ถึงเกลียดการเมืองใหม่ เพราะการเมืองใหม่ เรียกร้องความโปร่งใสในการทำงาน เพราะผมเห็นว่า ชาติบ้านเมืองมันไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ยกตัวอย่างง่ายๆ การบินไทยขาดทุน 2 หมื่นกว่าล้าน ยังไม่ทันไร รัฐมนตรีชุดคุณเนวิน เพิ่งมีมติว่า จะสั่งซื้อเครื่องบิน 40 ลำ ถามว่าซื้อทำไม 40 ลำ ลำละพันล้าน ก็ 4 หมื่นล้าน ส่วนแบ่ง 3% ก็ 1,200 ล้าน ก็ซื้อมากินค่าคอมมิชชั่น 1,200 ล้าน และเงิน 1,200 ล้าน ทำไม ก็เพื่อเอาไปเล่นการเมืองต่อ เอาเงินไปซื้ออำนาจเข้ามา
ตรงนี้มันเป็นวงจรอุบาทว์ ตัดไม่ขาด และคนซึ่งสามารถตัดขาดได้ คือ ทหาร แต่ทหารมีคนบางคนทะเยอทะยาน ไม่ได้มองระยะยาวว่าชาติบ้านเมืองจริงๆ มันต้องการของใหม่ สังเกตอย่าง กลุ่มทหาร กลุ่มคุณเนวิน ข้อผิดพลาดของกลุ่มเสื้อแดง เพื่อไทย ประชาชน หรือพรรคนอมินีต่างๆ ผิดพลาดคือ การจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์ การมีเจตนาล้มล้างสถาบันกษัตริย์ ก็ตรงนี้เป็นอันตราย สู้ไม่ได้
เพราะฉะนั้นพวกนี้เลยออกแบบการเมืองมาว่า ต้องเทิดทูนสถาบันกษัตริย์ ไม่ต้องไปแตะต้อง แล้วจะไม่มีใครมายุ่งกับเขา เขาก็สามารถเล่นการเมืองน้ำเน่าแบบไหนก็ได้ จะสร้างกี่สนามบิน กี่รันเวย์ ก็ได้
เพราะฉะนั้น การลอบสังหารผมครั้งนี้ แท้จริงคือ เขาเห็นว่า ผมคือ อุปสรรคอันใหญ่ เพราะผมรู้ทันเขาหมด ผมชี้ให้เห็นเลยว่า ตั้งแต่ต้น ผมพูดตั้งแต่ 3-4 วัน ก่อนที่ผมจะถูกยิง และ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถูกลอบสังหาร 2 ครั้ง ครั้งแรกที่ พัทยา ครั้งที่ 2 ที่มหาดไทย เพียงเพื่อเป็นมูลเหตุให้เกิดการปฏิวัติขึ้นมา เพียงแต่ว่า คุณอภิสิทธิ์ รอดอย่างปฏิหารย์ เหมือนที่ผมรอด แต่คุณอภิสิทธิ์รอดแบบไม่เจ็บตัว แต่ผมรอดแบบเจ็บตัว
ฉะนั้น คุณอภิสิทธิ์ ก็เลยเจอปัญหาใหญ่ขณะนี้ว่าจะเลือกเดินอย่างไร การที่ผมรู้ทันเขา ทำให้เขามีความรู้สึก อีกอย่างหนึ่งคือ ผมไปเปิดโปงสุภาพสตรีคนหนึ่ง ซึ่งในภาพแสดงออกว่าเป็นคนใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท เลยเกิดการลงขันกัน คนเขาบอกว่าผมโจทก์เยอะ ผมไม่ปฏิเสธ เพราะสิ่งที่ผมสู้ ผมสู้กับคนเกือบทั้งแผ่นดินที่คิดชั่ว คือเมื่อใดก็ตามคุณยืนบนจุดความโปร่งใส คุณยืนบนความซื่อสัตย์สุจริต และคุณบอกว่าชาติบ้านเมืองต้องทำเพื่อส่วนรวม มันต้องยุติการทำเพื่อส่วนตัว ถ้าไม่ทำเพื่อส่วนรวมแล้ว ชาติบ้านเมืองจะไปไม่รอด ถ้าเมื่อใดคุณคิดแบบนี้ คุณหันซ้ายก็เจอศัตรู หันขวาก็เจอศัตรู แต่จะทำยังไง คุณก็ต้องเดินหน้าต่อไป

- ถ้ามองอย่างนี้ ต้องถามว่า ทหาร กลุ่มอำนาจปัจจุบัน มองว่าการเมืองใหม่เป็นอุปสรรค แสดงว่าสิ่งที่อีกฝ่ายชูประเด็นเรื่องโค่นอำมาตย์ หรือโค่นศักดินา ยังอันตรายน้อยกว่าการเมืองใหม่

ทหารบางคน อยู่ภาวะการณ์น้ำท่วมปาก ด้านหนึ่งแสดงว่าตัวเองจงรักภักดีต่อสถาบันฯ แต่ลึกๆ ไม่สนใจ ขอให้ตัวกูได้ ขอให้กูมีงบประมาณซื้ออาวุธ ขอให้กูยิ่งใหญ่ขึ้นมา สถาบันฯจะมี ไม่มี ไม่เป็นไร แต่ความที่อยู่ในตำแหน่งหน้าที่จำเป็นต้องแสดงออกว่ามีความจงรักภักดี ก็เลยอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้า คายไม่ออก สิ่งที่คุณแคนถามก็ไม่ผิด เพราะจริงๆ แล้ว สำหรับเขาการเมืองใหม่น่ากลัวกว่าระบบเก่า คือ ระบบที่มีอำมาตยาธิปไตย วันนี้เราต้องเคลียร์กันชัด อำมาตยาธิปไตย ที่พวกเสื้อแดงพูดนั้น ผมเชื่อว่ามันไม่มี คุณไปดู มันมีที่ไหน ผมหาไม่เจอ จะมีที่ไหน อำมาตยาธิปไตย คือ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล จะเป็นอำมาตยาธิปไตยได้ยังไง ถ้าท่านเป็นอำมาตยาธิปไตย ทำไมหม่อมหลวงปลื้ม ต้องมาลงรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ทำไม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ต้องลงสมัคร ไม่มีแล้วอำมาตยาธิปไตย แต่ว่าทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บางคนที่มีความทะเยอทะยาน กลัวการเมืองใหม่มาก เพราะเขาจะไม่มีบทบาท ในการแสดงออก ที่สำคัญเขาจะไม่มีบทบาทในเรื่องของชาติบ้านเมือง
ทหาร คนซึ่งขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บัญชาการทหาร โบนัส ข้อแรกคืออะไรรู้ไหม งบลับ งบลับทุกๆ100 บาท ใช้จริง 50 บาท อีก 50 บาทเข้ากระเป๋าตัวเอง อันที่สอง ทหาร งบซื้ออาวุธ ใครได้ ผู้ใหญ่ที่สูงสุดในกองทัพ เป็นคนเคาะเองว่า ล็อตนี้ซื้อกับเจ้าไหน อาวุธก็มีค่าคอมมิชชั่นเหมือนเครื่องบิน เครื่องบิน 3 % อาวุธอาจจะ 5 % หรือ 10% ก็แล้วแต่
ผลประโยชน์ตรงนี้ สำคัญมาก เมื่อผลประโยชน์ตรงนี้สำคัญมากแล้ว เขาจึงไม่ต้องการการเมืองใหม่ จะต้องการไปทำไม เขากลับต้องการมีความสุข คบกับคุณเนวิน เขามีความสุข เพราะรู้ว่า เนวิน ต้องพึ่งเขา พึ่งเขาในการใช้กำลัง หรือพึ่งเขาในการใช้วิถีทางไปข่มขู่พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม เฮ้ย... ถ้าคุณไม่พอใจ คุณทำอย่างนี้ เดี๋ยวผมยึดอำนาจนะ คือใช้วิธีเดิมๆ ในขณะที่เนวิน ก็แฮปปี้ เพราะทหารก็ต้องพึ่งเนวิน เพราะทหารไม่สามารถออกหน้าเต็มตัวได้ ก็เลยต้องให้นักการเมืองแบบนายเนวิน ออกหน้า มันเลยสมกันทั้ง 2 ฝ่าย และประเทศชาติอยู่ตรงไหน และในที่สุดประชาชนก็ถูกสูบเลือดสูบเนื้อไปทีละนิด ทุนสังคมก็แพงขึ้น สนามบินก็แพงขึ้น
การรวมดอนเมืองกับสุวรรณภูมิ ไม่ใช่เพื่อใคร เพื่อนักธุรกิจรายเดียว ที่ทำธุรกิจดิวตี้ฟรี แค่นั้นจริงๆ ไม่ได้สนใจไรเลย รวมเพื่อให้ปริมาณผู้โดยสารมากพอ ตามที่สัมปทานนักธุรกิจ เจ้าของดิวตี้ฟรี เข้าข่ายสัมปทานต่อไป และรวมเพื่อให้ตัวเลขนั้นเป็นความชอบธรรม ในการเสนอสร้างโครงการสนามบินรันเวย์ที่สาม ขึ้นมา อีก 75,000 ล้าน

- ถ้าพูดประเด็นนี้ มีคนที่วิจารณ์พันธมิตรฯว่า ที่จริงแล้ว พันธมิตรฯเองไม่ใช่หรือ ที่เรียกร้องให้ทหารออกมา เรียกร้องให้ทหารมีบทบาทอีกครั้ง

โดยส่วนตัวผมนะ ผมไม่ได้รังเกียจการปฏิวัติรัฐประหาร
เลย แต่ขึ้นอยู่กับจะปฏิวัติรัฐประหารไปเพื่อใคร ถ้าคุณปฏิวัติรัฐประหารเพื่อสมบัติผลัดกันชมอย่างที่คิดจะทำนี้ ผมไม่เอาด้วย หรือเหมือนสมัย คมช.ทำ ผมไม่เห็นด้วย แต่ถ้าคุณปฏิวัติรัฐประหาร เพื่อให้ชาติบ้านเมืองดีขึ้น ผมเอาด้วย คุณมีครอบครัว ถามซิว่าอยู่ในบ้าน มีลูกเมีย คุณเคยคิดปฏิวัติครอบครัวบ้างไหม ลูกนอนดึก ตื่นสาย เมียเอาแต่เล่นหวย เล่นไพ่ แต่งตัว ไม่ดูแลลูก คุณอาจลุกขึ้นมาวันหนึ่ง บอกจากนี้ไป เปลี่ยนใหม่หมดนะ นี่คือการปฏิวัติบ้าน เพื่อให้เมียเลิกเล่นหวย เลิกเล่นการพนัน เพื่อให้ลูกทำการบ้าน อยู่กับบ้านมากขึ้น ไม่ให้นอนดึก ไม่ให้เที่ยวนอกบ้าน เพื่อครอบครัวอยู่ร่วมกัน นี่คือการปฏิวัติที่ดี มีอะไรมั่งในโลกนี้ ไม่มีการปฏิวัติ
ถามว่าพันธมิตรฯ เรียกร้องทหารออกมาหรือเปล่า ใช่ ผมไม่รู้คนอื่นนะ แต่ผมพร้อมเรียกร้องให้ออกมา คุณแคนฟังให้ดีๆ ผมบอกว่า ทหารออกมาผมไม่ขัดข้อง แต่ถ้าทหารปฏิวัติเพื่อตัวเอง ผมจะสู้ แต่ถ้าปฏิวัติเพื่อให้สังคมดีขึ้น ทีนี้สังคมมันดีขึ้น ผมกับเสื้อแดงต่างกันแหละ ต่างกันตรงที่ผมมองเห็นว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ มีความจำเป็นต่อสังคมไทย จุดยืนผมตรงนี้ชัด แต่เสื้อแดงไม่เอาตรงนี้ มันก็เป็นข้อแตกต่าง ปรัชญาที่ว่า คุณเชื่อประเทศไทยจะเดินต่อไปด้วยโครงสร้างสังคมแบบไหน ผมยังเชื่อว่าโครงสร้างสังคม ของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นโครงสร้างที่ดีที่สุด

- ในแง่ที่คุณสนธิบอก กรณีทหารออกมาแล้วการเมืองเปลี่ยนแปลงอย่างที่ว่า สังคมไทยกับสังคมโลก จะมองเราอย่างไร

ข้อผิดพลาดของสังคมไทย คือ หนึ่ง เราแคร์สังคมโลกมากเกินไป สอง เราใช้ทฤษฎีการศึกษาของสังคมโลกมากเกินไป ไอ้ที่เราเจ๊งทุกวันนี้ ไม่ใช่มีเด็กจบ MBA มากเกินไปนะ หรือจบเศรษฐศาสตร์จากอเมริกามากเกินไป ผมคิดว่าประเด็นสำคัญที่สุด เราต้องถามตัวเองก่อน ว่าเราคือใคร ทุกวันนี้ เรายังไม่รู้จักเลยว่า เราคือใคร
ผมเห็นทุกวันนี้เขาคุยกันเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ผมว่าคนไทยเข้าใจผิดนะที่ว่า การมีรัฐธรรมนูญคือ การมีประชาธิปไตย ซึ่งมันไม่ใช่ รัฐธรรมนูญคือวิธีการปกครอง จนวันนี้เรามีรัฐธรรมนูญไปแล้วไม่รู้กี่ฉบับ เป็นประเทศที่มีรัฐธรรมนูญเยอะที่สุด เรายังไม่รู้เลยว่า เรามีหลักการปกครองอยู่ที่ไหน คุณก็รู้หลักการปกครองก่อนซิ ถูกไหม ทำไมพระพุทธเจ้าไม่ร่างพระวินัย ก่อนค่อยทำ ท่านต้องตรัสรู้ก่อน ในพระธรรมคำสั่งสอน พอพระธรรมคำสั่งสอนเสร็จ ค่อยร่างพระวินัย หลักการปกครองต้องเกิดขึ้นก่อนซิ จะปกครองอย่างพาโนรามาหรือเปล่า จะปกครองด้วยการเอื้ออาทรหรือเปล่า จะปกครองอย่างให้สิทธิ์เสรีภาพในการทำมาหากิน แต่ว่าคุณต้องไม่ให้ทุนใหญ่รังแกทุนเล็กนะ เพียงแค่นี้ก็ขยายความได้เต็มไปหมดแล้ว เพียงแค่นี้คุณก็สามารถออกกฎหมายรัฐธรรมนูญได้แล้ว ว่าเพื่อให้คนไทยมีสิทธิเสรีภาพในการทำมาหากินเท่าเทียมกัน เพราะฉะนั้น ใครมีทุนมากกว่า ไม่สามารถมาตั้ง แมคโคร โลตัส ในพื้นที่ที่ชาวบ้านเขาตั้งโชว์ห่วยได้ นี่ยกตัวอย่างให้ฟังแค่ตัวอย่างเดียวนะ

- อย่างที่บอก ถ้ามีเหตุการณ์การเมืองใหม่ ก็ต้องทำตรงนี้ก่อน

ใช่ เราต้องกำหนดหลักการปกครองก่อน แล้วค่อยมาว่าถึงวิธีการปกครอง เราต้องเอาทุกภาคส่วน เสื้อแดงที่รักชาติก็มี ผมไม่ได้เป็นคนเกลียดเสื้อแดงนะ ผมคิดว่าเสื้อแดงเขามีเจตนาดี บางคน เพียงแต่ว่าเขาได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง นั่นข้อที่ 1 ข้อที่ 2 ที่สำคัญคือ เขาไม่เคยรู้ว่า เขาเป็นเครื่องมือ
คุณจำไว้อย่าง พวกพันธมิตรฯ สมาชิกเรา แกนนำไม่เคยใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือ เราโปร่งใสกับพวกเขาทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องไรก็ตาม เราจะทำอะไร บอกเขาหมด ต่างจากเสื้อแดง จะทำอะไร ตกลงเพียงไม่กี่คน และไปจบที่คุณทักษิณ เพราะฉะนั้นคนเสื้อแดงเป็นคนที่ ผมไม่อยากใช้คำว่า น่าสงสาร เขาเข้าไม่ถึงข้อมูลจริงๆ

- แต่ก็มีคนคิดอยู่นะว่า แดง กับ เหลือง เป็นปัญหา

แล้วไง ผมก็อยากถามคนพวกนั้นว่า เมื่อคุณจัดการคนสองสีเสร็จแล้ว คุณคิดว่าบ้านเมืองสงบใช่ไหม สงบเพราะอะไร สงบเพราะไม่มีใครประท้วงใช่ไหม คำว่า ไม่มีใครประท้วง เป็นเรื่องดี หรือไม่ดี

- เขาก็คงคิดว่า เศรษฐกิจจะดีขึ้น

ไม่ใช่เลย เขาเข้าใจผิดหมดทุกอย่าง สิ่งที่เสื้อแดงทำ เสื้อเหลืองทำ จะดีจะชั่ว ถึงแม้เสื้อแดงจะใช้ความรุนแรงอะไรก็ตาม แต่อย่างน้อยที่สุดมันเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนอีกกลุ่มหนึ่ง ออกมาแสดงความคิดเห็นได้ การที่มีสิทธิ์ออกมาแสดงความคิดเห็นนั้น เป็นสิทธิอันชอบธรรม และทุกสังคม ควรมี ควรดำรงไว้ เหตุผลที่เขาไม่อย่างนั้นเพราะว่า มันเป็นวิธีง่ายๆ ที่ปราบทั้ง 2 สี โดยอ้างว่า แดงกับเหลือง คือตัววุ่นวาย ถ้าคุณไปพิจารณาสิ่งที่เสื้อเหลืองทำ เราสู้มากี่เรื่อง เราสู้ไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราสู้ไม่ให้มีการจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์ เราสู้ให้การทำงานโปร่งใส ไม่ให้มีการคอร์รัปชั่น เราสู้ เพื่อไม่ให้มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม 4-5 เรื่อง ที่เราสู้ ผมถามคุณ คุณไม่จำเป็นต้องเป็นสีอะไร สิ่งที่ผมพูด ถ้าถามประชาชนที่มีเหตุ มีผล มีปัญญา เขาย่อมเห็นด้วยทุกคน เมื่อเห็นด้วยแล้ว ถามว่าเขาเห็นด้วยกับเรา เขาก็สีเหลืองซิ เขาบอกไม่ใช่ ผมไม่ใช่สีเหลือง เอ้า ก็สุดแล้วแต่ คุณจะสีอะไรก็ตาม แต่คุณเห็นด้วยกับหลักการที่ผมสู้ไหม ถ้าเห็นด้วยก็จบ เท่านั้นเอง
เพราะฉะนั้น มันไม่ง่ายอย่างที่เขาคิดหรอก การคิดแบบนั้น คิดแบบทหาร คิดแบบคุณสุเทพ คิดแบบคุณอนุพงษ์ เหตุผลเพราะว่า ถ้ามันยังมีสีเหลืองอยู่ เหตุผลเพราะว่า เขาปราบสีแดงง่ายกว่าสีเหลือง เหตุผลคือสีแดง คุณทักษิณคนเดียว แต่สีเหลือง มันคุณสนธิ เต็มไปหมดเลย ปัญญา มันถึงกันหมด

- แต่มีคนพูดกันว่า ถ้าจัดการคุณสนธิคนเดียวก็จบ

เขาคิดโง่โง่ ไง ไม่ฉลาด เพราะปัญญาเมื่อลงสู่ผู้คนแล้ว จัดการใครไม่ได้แล้ว มันต้องจัดการคนรับปัญญาไป เหมือนอินเดีย เหมือน มหาตมะ คานธี ได้ปลุกคนอินเดียจนลุกขึ้นมา เพราะงั้นอังกฤษฆ่า มหาตมะ สมมติฆ่าตอนนั้น จัดการได้ไหม ก็ไม่ได้เหมือนกัน เพราะคนอินเดียเป็นร้อยๆ ล้าน ตื่นแล้วนะ คุณจะจัดการคนที่ตื่นได้ไง นั่นคือที่มาของคำว่า ปัญญา ไง คนซึ่งอยู่ฝ่ายพันธมิตรฯ คือ คนซึ่งรู้จริง ไม่ได้ถูกกิเลส ถูกมายามาปิดบังตา
เพราะฉะนั้น คุณปราบคนพวกนี้ปราบยาก แต่เสื้อแดงปราบง่าย เพราะเสื้อแดง 70-80 % เป็นเรื่องผลประโยชน์ เงินไม่มา กูไม่ออก มันต่างกัน ระหว่างการสู้ด้วยอุดมการณ์ กับการสู้เพียงเพราะตัวเองมีผลประโยชน์ การสู้ด้วยอุดมการณ์นั้น มันยาว ลึกซึ้ง หนักแน่น ลงรากลึก แล้วก็แพร่กระจาย ถึงจะไม่รวดเร็ว แต่ทว่าการแพร่กระจายไปแต่ละหน่วย แต่ละกลุ่ม แต่ละเครือข่ายนั้น มันกว้างขวางมาก และไม่มีวันหยุดยั้ง

- ตอนนี้เหมือนถูกกำราบ เหลือแต่เสื้อเหลือง ตอนนี้เขากำลังจะแก้รัฐธรรมนูญกัน ถ้าเกิดเสื้อเหลืองเคลื่อนไหวคัดค้าน มันก็จะ...

ใช่ๆ ถูกต้อง เรื่องนี้เป็นเรื่องหลักการ ซึ่งแกนนำจะต้องมาคุยกัน ส่วนตัวผมนะไม่เกี่ยวกับแกนนำ ผมคิดว่า การแก้รัฐธรรมนูญ เขาอยากแก้ แก้ไป เหตุผลเพราะ ปัญหามันอยู่ที่ คุณอภิสิทธิ์ ปัญหาอยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ในรัฐบาลนาน แต่ชีวิตพรรคสั้น เข้าใจรึยัง ก็แก้ไป แต่ถ้าเขาต้องการมีชีวิตพรรคที่ยาวนาน ถึงชีวิตรัฐบาลจะสั้น เขาไม่ควรจะแก้ เท่าที่ผมดูเกมแล้ว การแก้คงไม่ง่าย เพราะคุณอภิสิทธิ์พูดถึงขนาดว่า ถ้าจะแก้มันต้องใช้ประชามติ จริงๆแล้วคือ การซื้อเวลานั่นเอง แต่ถ้าถามผม ส่วนตัวผมคิดว่า พันธมิตรฯ ควรจะหันมาสนับสนุนให้คุณอภิสิทธิ์ อยู่ให้ครบวาระ อีก 2 ปี เพราะคุณอภิสิทธิ์ ได้แสดงออกถึงบุคลิกของคนที่เป็นผู้นำ ที่มีคุณธรรม มีจริยธรรม เป็นสุภาพบุรุษ ที่สำคัญที่สุดเป็นคนซึ่งใช้ความเยือกเย็น และใช้ความสงบ สันติ ปราบปราม พวกเสื้อแดง สังเกตให้ดีๆ แกไม่ใช่เป็นคนชอบใช้อำนาจ การจะใช้อำนาจแต่ละครั้ง แกคิดแล้วคิดอีก คุณจำได้ไหม ตอนที่พันธมิตรฯ เรียกร้องให้เขาเปลี่ยนพนักงานสอบสวน เนื่องจากมีความคิดที่เป็นปฏิปักษ์กัน คือ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน แกเงียบ แกปล่อยให้คุณสุเทพจัดการ คุณสุเทพ ไม่ยอมจัดการ แต่มางวดนี้ คดีของผม ที่ พล.ต.อ.พัชรวาท สั่งให้คุณจงรัก จุฑานนท์ เข้ามาดูแล แกสั่งให้เปลี่ยนจากคุณจงรัก มา เป็นคุณธานี สมบูรณ์ทรัพย์ อาจจะมองได้ว่า 1. แกปฏิเสธ คุณสุเทพ ไปเรียบร้อยแล้ว แกไม่ฟัง หรือ 2. แกมีความรู้สึกด้วยจิตใต้สำนึกแกเองว่า ถ้าเอาคุณจงรักมา ย่อมไม่มีความยุติธรรมกับผม เพราะคุณจงรัก กับผมเป็นปฏิปักษ์กันในเรื่องความคิด ซึ่งไม่ผิดเลย เพราะสิ่งแรกที่คุณจงรักพูดทันทีที่รับเรื่องก็คือ ไม่ได้ตัดประเด็นเรื่องส่วนตัวออก คล้ายๆ พูดกันเอาไว้ก่อน จนกระทั่งเมื่อวาน หรือเมื่อวานซืนนี่เอง ที่คุณธานีพูดชัดเจนว่า เรื่องส่วนตัวไม่มี มีแต่เรื่องการเมือง เพราะฉะนั้นผมเลยต้องชม คุณอภิสิทธิ์ แล้วผมคิดว่า นายกรัฐมนตรี ที่ดีๆ อย่างนี้สังคมไทยไม่ได้มีมานานแล้ว จริงๆ แล้วไม่เคยมีมาเลยนะ เพิ่งจะมีครั้งนี้

- คุณสนธิประเมินหรือยังว่า แรงกระแทก คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ กับกลุ่มอำนาจทหาร

ทหาร ตำรวจ มีลักษณะอยู่อย่าง เมื่อมีอำนาจ มีตำแหน่ง ก็ดูยิ่งใหญ่ แต่เมื่อใดหมดอำนาจ หมดตำแหน่ง ก็ไม่มีความหมาย เพราะฉะนั้นแล้วขึ้นอยู่กับคุณอภิสิทธิ์ จะเกาะกุม ฉกฉวยจะเล่นประเด็นนี้ให้เป็นหรือเปล่า เท่านั้นเอง เพราะถ้าคุณอนุพงษ์ ไม่ได้เป็นผบ.ทบ. คุณอนุพงษ์ ก็ไม่มีความหมาย หรือแม้กระทั่ง คุณประวิตร ถ้าไม่ได้เป็น รมว.กลาโหม แล้วคุณอภิสิทธิ์ มานั่งรักษาการแทน เท่ากับเกมการเมืองก็เปลี่ยนไปอีกแบบหนึ่ง เพราะว่า คุณเนวิน ก็ไม่สามารถจะพึ่งทหารได้ คุณเนวิน ก็ไม่สามารถจะเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งทันที เพราะตัวเองอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อม ยังต้องหาเงินทุนอยู่ เพราะฉะนั้น ขึ้นอยู่กับคุณอภิสิทธิ์ จะเล่นเกมแบบไหน

- ตัวผู้นำ ภาวะผู้นำ

ถูกต้อง ภาวะผู้นำ มีหลายคนบอกคุณอภิสิทธิ์อ่อน ผมว่าแกอาจจะดูอ่อน แต่ผมเชื่อว่าเวลาแกตัดสินใจ แกตัดสินใจจริง อย่างเช่นกรณีคดีลอบสังหารผม แกพูดชัดเจนทั้งในที่สาธารณะ ส่วนตัว แกบอกต้องจับคนร้ายให้ได้ ซึ่งมันเป็นนัยที่สำคัญ เพราะว่าแกชูหลักนิติรัฐตลอดเวลา ถ้าขืนปล่อยให้คนใช้อาวุธสงครามมาไล่ฆ่าผมอย่างนี้ แล้วยังหลุดไปได้ ถามว่าตัวนายกฯอภิสิทธิ์ จะรอดพ้นไหม ก็ไม่รอดเหมือนกันใช่ไหม เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่ทำ หรือเกี่ยวข้อง ถ้าตำรวจสาวถึง เขาต้องเล่นงานหมด เขาไม่แคร์แน่

- คุณสนธิ มั่นใจว่าคุณอภิสิทธิ์ จะยึดหลักตรงนี้ แล้วสามารถทำให้เจ้าหน้าที่ตื่น

ผมมั่นใจ ด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้าคุณอภิสิทธิ์ ไม่ยึดหลักอันนี้อนาคตแกก็ไม่มี อนาคตไม่มีในแง่ของกายภาพ มันก็เสี่ยงเหมือนกัน ที่แกจะเป็นอะไรไป อนาคตของแกไม่มีในเชิงปรัชญา เพราะคนบอกว่า แกของปลอม ถูกไม่ถูก เพราะฉะนั้นแล้ว ผมยังเชื่อ และโดยส่วนตัวผมรู้ว่า แกเป็นคนที่ดูเหมือนอ่อน แต่แกกล้าตัดสินใจ ผมยังให้เกียรติแกอยู่ ประเทศจะอยู่ได้ ไม่ได้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแก ในคดีผมนะ เพราะถ้าคดีผมแกตัดสินใจได้เด็ดขาด จะไม่มีใครกล้ากับแกแล้ว เชื่อผมซิ ใครจะไปกล้ากับแกล่ะ คุณอนุพงษ์ จะกล้าหรือ ผบ.ทบ.คนใหม่จะกล้าหรือ รัฐมนตรีกลาโหม คนใหม่จะกล้าหรีอ ผบ.ตร.จะกล้าหรือ เพราะเราก็รู้โดยข้อเท็จจริงตั้งแต่ พัทยา มาจนกระทั่งวันนี้ เป็นปัญหาความมั่นคงเท่านั้นเองที่ไม่ฟังแก แล้วไม่สนับสนุนแก แต่แอบเลื่อยขาเก้าอี้แกตลอดเวลา เพื่อให้กลุ่มตัวเองขึ้นมาเป็นใหญ่

- คดีนี้เมื่อไรจะคลี่คลาย มันจะใกล้จบหรือยัง

ผมคิดว่ามันน่าจะใกล้จบแล้วนะ ผมยังไม่ได้เจอคุณธานี คุณธานี แกจะมาสอบปากคำผม ซึ่งคงจะเป็นการสอบปากคำทั่วๆไป แต่ผมยังไม่ได้คุยอะไรกับคุณธานี เป็นกิจลักษณะ แต่ผมเชื่อมั่น และผมทราบภายในพอสมควรว่า เขาได้ทำงานมาเยอะแล้ว วันนี้มันไม่ใช่ประเด็นเรื่องปลอกกระสุน อีกต่อไปแล้ว มันเกินไปกว่านั้นแล้ว เขารู้ถึงตัวคนยิงหมดแล้ว แล้วเขาเตรียมพร้อมจะจับคนยิงได้ทุกเมื่อ เพราะฉะนั้นแล้วการที่ พ.อ.สรรเสริญ ออกมาแถลงข่าวในฐานะโฆษก ทบ. เรื่องว่า สรรพาวุธ ไม่ได้ลงเลข คือพูดง่ายๆ ปัดความรับผิดชอบ ประเด็นไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว มันเลยไปไกลแล้ว คุณธานีเขาทำงานไปเยอะแล้ว ผมเชื่อว่าวันหนึ่งเมื่อถึงเวลาแล้วแกต้องตัดสินใจที่จะหงาย แล้วแกก็รายงานตรงท่านนายกฯ คดีนี้ไม่ได้ขึ้นกับ ผบ.ตร.นะ เพราะฉะนั้นแล้ว ผมเชื่อว่าคดีผม ถ้าเขาเปิดออกมาจะสะเทือนวงการมาก มันเป็นปัญหาทางการเมือง ที่ท่านนายกฯต้องตัดสินใจ แล้วผมเชื่อว่าท่านต้องกล้าตัดสินใจ เพราะถ้าท่านไม่กล้าตัดสินใจ ประเทศไทย ก็ไม่มีที่ยืนเหมือนกัน คุณก็ไม่มีที่ยืน ผมก็ไม่มีที่ยืน
ผมอยากจะพูดเรื่องนี้สักนิดหนึ่ง ที่น่าเสียใจที่สุดคือ ตั้งแต่มีเรื่องมา ผมยังไม่เคยเห็นกองทัพบก คุณอนุพงษ์ หรือแม้กระทั่งรมว.กลาโหม แสดงจุดยืนต่อเรื่องการลอบสังหารสื่อมวลชนคนหนึ่งด้วยอาวุธสงคราม และมีข้อกล่าวหาว่า เป็นคนมีสี เป็นทหาร ไม่ได้แสดงจุดยืนเลยว่า จุดยืนของตัวเองเป็นอย่างไร มีแต่ออกมาปฏิเสธตลอดเวลา เริ่มด้วยการบอกว่า ใครๆ ก็มีได้ อาวุธสงคราม ต่อมาก็ว่า เป็นคดีอาชญากรรมธรรมดา ต่อไปเรื่อยๆว่า ปลอกกระสุนนั้นไม่ใช่ของกองทัพภาค 1 เกิดข่าวหลุดออกมาว่าเป็นของกองพล 9 ก็มาแก้ตัวว่า อาจไม่ใช่ของกองพล 9 ไม่มีครั้งไหนที่คุณอนุพงษ์ หรือ คุณประวิตร จะออกมาพูดสั้นๆ ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อุกอาจ เหิมเกริม เป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในสังคมไทย ผมในฐานะผู้บัญชาการทหารบก ผมในฐานะรมว.กลาโหม ยอมให้ไม่ได้ ถ้าคนมีสีฝ่ายใดก็ตาม เกี่ยวข้องกับการลอบสังหาร คุณสนธิ ผมต้องจัดการอย่างเด็ดขาด คุณไปดูซิเคยมีพูดไหม ไม่มีเลย นี่คือสิ่งที่เสียใจที่สุด แต่ผมไม่โกรธเขา
ส่วนตัวผม ผมจะเล่าเบื้องหลังให้ฟัง วันที่ผมกลับมาจากโรงพยาบาล ผมเข้าไปในห้องพระ ที่เมื่อกี้ผมรักษาตัวอยู่ ผมกราบพระ ผมกราบหลวงตามหาบัว ผมจุดธูป จุดเทียน กราบด้วยความเมตตาที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผม แล้วผมก็สวดคาถาแผ่เมตตาชุดใหญ่ของพระพุทธเจ้าให้กับคนที่ยิงผม ให้คนที่วางแผนฆ่าผม แล้วผมก็เอาน้ำมนต์ของหลวงตามหาบัว ซึ่งท่านเคยให้ผมไว้ กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เขาหมดทุกคน อโหสิกรรมให้เขาหมด ปล่อยให้กฎแห่งกรรม และกฎหมาย เป็นคนจัดการเรื่องนี้ไป
แต่ว่าคุณแคน ประเด็นนี้เป็นประเด็นสำคัญ มีคนถามผมว่า ผมห้อยพระอะไร ความจริงแล้วผมเป็นคนที่มี พ่อแม่ ครูอาจารย์ ที่ผมเคารพอยู่หลายองค์ ผมเข้ามาที่ออฟฟิศตอนเช้า ทุกวันผมจะบูชาองค์จตุคามรามเทพ ที่อยู่ข้างล่าง ข้างๆ สระน้ำ ผมไหว้พระอุปคุต ผมไหว้พระแม่ธรณี ผมไหว้ศาลพระเจ้าตากสิน แล้วผมไหว้พระภูมิเจ้าที่ แล้วผมก็ขึ้นมาไหว้พระข้างในห้องพระจุดใหญ่ แล้วผมก็ไหว้หลวงตามหาบัว ผมมีหลวงตามหาบัว หลวงปู่มั่น ภูมิทัตโต พระอาจารย์เสาร์ ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงปู่มั่น หลวงปู่ดุลย์ แล้วผมก็ไหว้หลวงปู่ทวด มีหมดทุกองค์ หลวงปู่บุญมี โชติปาโล หลวงพ่อญาท่าน เพราะฉะนั้นพ่อแม่ครูอาจารย์ผมเยอะมากที่ผมบูชา ผมไหว้ แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าการที่ผมอ้างอิงพ่อแม่ครูอาจารย์คือ ทุกครั้ง ผมตั้งจิตอธิษฐานในการไหว้ ผมบอกว่า ข้าพเจ้าขอตั้งใจทำงานรับใช้ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และส่วนรวมจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ตรงนั้นต่างหาก แล้วผมเชื่อ ผมรอดชีวิตได้เพราะคุณงามความดีพระ คุณงามความดีที่ผมทำ เพราะฉะนั้น พระที่ปกป้องผมคือ คุณงามความดี
ซึ่งตรงนี้ ผมต้องการพูดต่อ สำคัญมาก คนมองผมเรื่องปาฎิหาริย์ มองผมเรื่องห้อยพระอะไร แต่อย่างน้อยที่สุด มันเป็นบทพิสูจน์อย่างหนึ่งสำหรับหลายๆ คน ซึ่งเริ่มสูญเสียศรัทธากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เริ่มเห็นว่า คนทำความดี พระคุ้มครองจริงๆ
ถ้าคุณรวมปลอกกระสุนที่อยู่ในรถปิกอัพ ที่เขายิง ที่ตกในรถ และที่อยู่ข้างนอก 100 กว่านัดนะ ทะลุหมด กระสุนอาก้า อย่าว่าแต่เบาะรถเลย ต้นไม้ทั้งต้นยังทะลุได้เลย ทำไมผมรอดมาได้ ที่ผมรอดมาได้ เพราะผมเชื่อว่า สิ่งที่ผมทำนั้นถูกต้อง ด้วยความสัตย์จริง วินาทีนั้นที่สำคัญที่สุด ตอนที่เขายิงผม แล้วผมเห็นหน้าคนยิงด้วย ประทับบ่ายิง ผมคิดในใจนะ ผมกำหนดจิตเลย ผมสวดมนต์ทำสมาธิมานานพอสมควร ผมกำหนดจิตทันที ผมบอกว่า ถ้าลูกต้องสิ้นชีวิตไปเพราะเวรกรรม กรรมชาติก่อนที่ต้องชดใช้ ก็ขอให้สิ้นไป แต่ว่าขอให้สถาบันกษัตริย์ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยังคงอยู่ มั่นคง มีเสถียรภาพก็แล้วกัน ผมตั้งจิตไว้เพียงแค่นี้ คิดถึงพระเจ้าอยู่หัวตลอดเวลา ขอให้พระเจ้าอยู่หัวจงมีสุขภาพดี และขอให้พระเจ้าอยู่หัว ทรงนำชาติให้พ้นภัย ผมคิดแค่นี้ ไม่ได้คิดอะไรมากกว่านั้นเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นแล้วบางคนก็ ช่วยไม่ได้ ไอ้ยาว คือนายวายุภักดิ์ ซึ่งนั่งข้างหน้าผม ห้อยจตุคาม รุ่นปี 48 แล้วมันก็ตลก มันไม่มีแผลเลยนะไม่รู้ครับเหมือนลูกปืนวิ่งรอบๆ ผม

- ตอนคุณสนธิ เดินเข้าโรงพยาบาลคิดแค้นไหม

ไม่มีเลย ตอนนี้ผมไม่ใช่สนธิวันก่อนๆ คุณแคนรู้จักผมมานานแล้ว งานนี้ผมไม่โกรธใคร ด้วยความสัตย์จริง ผมมีความรู้สึกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นจากความไม่รู้ ความอวิชา คนรับงานมาก็คงรับด้วย 1. เป็นลูกน้องนายสั่ง 2.นายให้เงิน 3.ได้ข้อมูลผิดพลาด ไอ้นี่ต้องฆ่ามันนะ ไม่โกรธ ผมไม่รู้สึกโกรธเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าจะโกรธ จะโกรธอยู่อย่างเดียวเท่านั้นเองว่า ชีวิตผมไม่เคยทำอะไรแล้วสะดวกซักเรื่อง ทุกอย่างต้องลำบากหมด การทำสื่อมวลชนของผมก็ลำบากยากเย็น ไม่เหมือนชาวบ้านเขา เงินทอง ก็ไม่ค่อยมี เดือดร้อนแสนสาหัส แต่กัดฟันทำ ถ้าโกรธก็โกรธตรงนี้ว่า ทำไมคนอื่นนึกจะทำอะไรมันก็ทำ มีเงินมีทองมาจ่าย DTV หรือ เครือข่ายของคุณเนวิน มีเงินมีทองมาใช้จ่ายตลอดเวลา แต่ของเราทำให้ปัญญากับคนจริงๆ กลับทำยากทำเย็นเหลือเกิน น้อยเนื้อต่ำใจมาก แต่ไม่คิดโกรธใครเป็นส่วนตัว ผมสงสารคนมากกว่า ผมสงสารคุณอนุพงษ์ ผมสงสารคุณประวิตร ที่เดินมาถึงขนาดนี้แล้ว ยังไม่เข้าใจว่า การเมืองใหม่ให้อะไรกับประเทศไทยได้บ้าง

- ทหารนอกจาก 2-3 คนนี้ คนไหนคิดดี

ผมไม่ได้หมายความว่า คุณอนุพงษ์ กับคุณประวิตร เขาไม่ดี เพียงแต่ว่า เขาคิดไม่ทะลุเท่านั้นเอง ผมจะพูดอย่างว่า คนที่ยิงผมทหารแน่นอน ผสมตำรวจบางส่วน ผมเคยพูดไปตั้งนานแล้ว ถ้าผมจะต้องเป็นอะไรไป แล้วชาติบ้านเมืองจะดีขึ้น ก็ช่างมัน ที่พูดไม่ใช่เพราะตัวเองรอดมานะ ณ วินาทีนั้น ที่เลือดอาบทั้งตัว ไม่ได้โกรธใคร ไม่ได้คิดอะไร แล้วไม่ได้กลัวด้วยนะ ไม่ได้กลัวเหมือนกับตัวเองจะสิ้นใจ เดี๋ยวจะเป็นอะไรไปหรือเปล่า พิการ เพราะว่าพระอาจารย์ชัยณรงค์ ท่านเป็นคนชำนาญเรื่องกระดูก ท่านจับกระดูกผม ท่านบอกอาจารย์ ท่านเรียกผมอาจารย์ โยมอาจารย์เก่งนะ ไม่มีความเครียดในร่างกายเลย เพราะธรรมดาคนโดนแบบนี้จะต้องมีความเครียดในร่างกาย แล้วจะแสดงออกทางข้อกระดูก บอกไม่มีเลยปกติมาก โยมอาจารย์ทำได้อย่างไร ผมบอกว่า พระอาจารย์ครับ สติไงล่ะครับ พระอาจารย์

- แสดงว่าคุณสนธิ ยึดเรื่องสติ เป็นสำคัญ

สติอย่างเดียวเลย ครบทุกอย่าง รู้ตัวหมดตลอดเวลา หมอจะผ่าตัดทันที ผมบอกรอพี่ชายผมก่อนได้ไหม พี่ชายผมซึ่งเขาเคยอยู่โรงพยาบาลจุฬาฯ เขาก็มา รอจนกระทั่งมา แล้วพี่ชายก็โทรคุยกับลูกศิษย์เขา คือ คุณหมอสุรชัย ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ซึ่งเป็นอาจารย์ของคุณหมอที่จะผ่าผม แล้วเขาก็ประสานงานกัน ในที่สุดพี่ชายผมตัดสินใจให้ผ่าเลย เพราะเขาไม่อยากให้รอ เพราะเดี๋ยวเลือดมันจะคั่งมากขึ้น มีสติตลอดเวลา ไม่ขาดหายไปเลยแม้แต่นิดเดียว
อีกอันที่ผมอยากจะฝากพวกวงการสื่อมวลชนไปว่า หลายๆ คนอาจจะมองว่า การฆ่าผมเป็นข่าวชิ้นหนึ่ง เหลืออยู่อย่างเดียวขณะนี้คือ การรอว่าจับได้ ไม่ได้ แต่ประเด็นไม่ใช่การฆ่าผมนะ ประเด็นนี้คือ การคุกคามสื่อ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนะ ถ้าเขาไม่รวมตัวรวมใจกันสู้ในเรื่องนี้ อีกหน่อยใครก็ตาม นั่งรถแล้วไล่ยิง เขาตายก็ไม่มีใครสนใจเขาเหมือนกันนะ อาชีพพวกเราเป็นอาชีพที่ต้องได้รับการปกป้อง พวกเราต้องรวมตัว รวมใจกันปกป้อง เขาจะมาซี้ซั้วคิด ไอ้สนธิ กูหมั่นไส้มึง ไม่ได้ ที่ผมพูดไม่ใช่ผมต้องการ การสนับสนุนจากเขานะ แต่ผมต้องการจะเตือนสติเขา ว่าถ้าคุณไม่ทำอย่างนี้ คุณไม่มีทางจะปกปักรักษาคุณธรรมการเป็นสื่อ

- กรณียิงคุณอารีย์

ผมคิดว่าพอๆ กัน แต่คนละรูปแบบ ยุคพวกนั้นยังเป็นยุคประเภทถูกอุ้มไป แต่ยุคนี้มันยิงกลางแดดเลย ใช้รถ 4 คัน เป็นขบวนการ โชคดีที่เขารู้หมดแล้ว ผมเชื่อว่า อีกไม่นาน ผมคิดว่าไม่เกิน 2 อาทิตย์ เรื่องราวต้องเปิดเผย ผมยังมั่นใจว่าจะเป็นการแถลงข่าว และการจับกุมที่ค่อนข้างจะสะเทือนมาก ถึงแม้จะจับแค่มือปืนได้ แต่มันโยงหมดเลย สมมุติเขาจับมือปืนได้ว่าเป็นทหารกอง พล.ที่ 9 แล้วทีนี้กองทัพบก จะว่ายังไง คุณอนุพงษ์ จะตอบยังไงคราวนี้ ถ้าเขาทำมา แล้วเกิดโยงไปถึงตำรวจบางคน คุณพัชรวาท จะว่ายังไง คุณประวิตร จะว่ายังไง ในฐานะเป็นพี่ชายคุณพัชรวาท คุณสุเทพ จะว่ายังไง ในฐานะที่ดูแลความมั่นคง มันสะเทือนนะ แล้วถ้าพาดพิงไปถึงผู้หญิงบางคน ซึ่งอาจอยู่เบื้องหลังการฆ่าผม แล้วถ้าเกิดพาดพิงถึงได้ ยิ่งยุ่งใหญ่เลย

- จะเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น

ผมไม่รู้จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า แต่ที่ผมรู้แน่ๆ คือว่า ถ้าหากเขาประกาศจับออกมาแล้วเขามีหลักฐาานโยงใยถึง ผมว่าสังคมนี้วุ่นเลย สังคมจะตกอยู่ในสภาวะที่ต้องเลือก ระหว่างความถูกต้องกับสิ่งซึ่งประเทศไทยต้องยืนได้ กับการปกปิด และการช่วยเหลือ สังคมต้องตัดสินใจแล้วตอนนี้ สังคมต้องตัดสินใจจริงๆ ที่สำคัญสังคมต้องตัดสินใจไม่สำคัญเท่ากับท่านนายกฯ ต้องตัดสินใจ อีกครั้งหนึ่ง ในฐานะเป็นผู้นำ

- คงไม่มีคนมายึดประเทศไทย

ยึดอำนาจหรือ ผมคิดว่าวันนี้ทหารไม่กล้ายึดอำนาจหรอก ถ้าเขายึดอำนาจเพราะกรณีของผม ผมเชื่อประชาชนไม่ยอม ถ้าเขายึดอำนาจด้วยเหตุผลต้องการปกปิดความผิดที่พวกเขาทำกัน สมมุตินะ ผมไม่ได้หมายความว่าเขาทำนะ ถ้าเขาทำเช่นนั้นแล้วออกมาในรูปแบบนั้น เขาจะตอบสังคมไทยไม่ได้เป็นอันขาด ที่สำคัญที่สุด เขาจะตอบทหารด้วยกันเองไม่ได้
ที่น่าเสียใจ ผมจะเรียนคุณแคน ตอนผมเลือดหยดสู่พื้น ผมนึกในใจ เลือดนี้ที่ตกสู่พื้นมันไม่ได้ต่างกว่าเลือดของทหารที่อยู่ชายแดนที่ถูกยิงโดยทหารเขมร หรือทหารที่อยู่ทางใต้ ที่ถูกยิงโดยโจรก่อการร้าย ที่ตกลงมาเพื่อปกป้องดินแดนไทย ผมถูกยิงเลือดตกบนพื้นดิน แต่ผมปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แต่กลับถูกยิงโดยคนที่ควรจะไปปกป้องในสิ่งเดียวที่ผมปกป้อง ที่น่าเสียใจที่สุดเสียใจตรงนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น