xs
xsm
sm
md
lg

จนท.เพนตากอนเตรียมเข้าซังเต ฐานขายข้อมูลลับให้จีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพถ่ายมุมสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือเพนตากอน แสดงให้เห็นแม่น้ำตรงประตูทางเข้าตึกเพนตากอน โดยรายงานข่าวเมื่อวันพุธ (13 พ.ค.) ระบุว่า เจ้าหน้าที่เพนตากอนถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ฐานขายข้อมูลลับให้แก่สายลับจากจีน – ภาพเอเอฟพี
เอเอฟพี – นายทหารนอกราชการของสหรัฐฯ ถูกฟ้องดำเนินคดีฐานขายข้อมูลลับให้แก่สายลับจีน อัยการระบุ เป็นความผิดรุนแรง และยังถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติอย่างยิ่ง คาดโทษถึงขั้นติดคุก 5 ปี โดนปรับอีก 2.5 แสนเหรียญ

พันอากาศโทเจมส์ วิลเบอร์ ฟอนเดรน นายทหารนอกราชการวัย 62 ปี ซึ่งตำแหน่งล่าสุดเป็น รองผู้อำนวยการฝ่ายติดต่อประสานงานกองบัญชาการแปซิฟิกของสหรัฐฯ และได้รับมอบหมายให้เป็นคนเคลียร์ข้อมูลลับสุดยอดออกจากระบบคอมพิวเตอร์ ถือเป็นบุคคลที่ 4 ที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี หลังจากแผนจารกรรมข้อมูลของจีนถูกเปิดเผยเมื่อปีที่แล้ว

“ข้อกล่าวหาในคดีนี้ได้สร้างความกังวลใจอย่างมาก เพราะการส่งข้อมูลลับทางราชการไปให้สายลับชาวจีน ถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศสหรัฐฯ อย่างยิ่ง” นายดาน่า บอนต์เต้ รักษาการอัยการของสหรัฐฯ ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ฝั่งตะวันออกของรัฐเวอร์จิเนียร์ ระบุ และว่า ผู้ที่สามารถเข้าถึงความลับของทางราชการได้ ถือเป็นบุคคลที่รัฐบาลไว้วางใจ และเราต้องดำเนินคดีกับบุคคลที่ทำลายความไว้วางใจนั้น

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐฯ เคยกล่าวหาจีน ว่ามีพฤติกรรมก้าวร้าวในความพยายามล้วงความลับของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็ได้สั่งให้ยกเครื่องระบบป้องกันทางไซเบอร์ หลังจากรายงานหลายชิ้นได้ระบุว่า จีนคือต้นทางของการแฮคข้อมูลทางคอมพิวเตอร์

รายงานจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า หลังจากที่ พ.อ.ท.ฟอนเดรนเกษียณอายุราชการได้ 2 ปี ในเดือนกุมภาพันธ์ 2541 เขาก็เริ่มทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจให้แก่ นาย กัว ไท่เซิน ชาวอเมริกันเชื้อสายไต้หวัน

หลังจากที่เขาถูกว่าจ้างจากกองบัญชาการแปซิฟิค ให้มาเคลียร์ข้อมูลลับทางราชการด้วยคอมพิวเตอร์ลับในห้องทำงานเล็กๆ ของเขาเมื่อปี 2544 เขาก็ยังคงติดต่อกับเพื่อนชาวไต้หวันรายนั้นอยู่

ในบันทึกการให้ปากคำระบุว่า พ.อ.ท.ฟอนเดรนไม่รู้มาก่อนว่านายกัว ทำงานให้เจ้าหน้าที่ของจีน และในเดือนมีนาคม 2542 นายกัว ก็ได้แนะนำให้เขารู้จักกับเจ้าหน้าที่จีน โดยเจ้าหน้าที่รายนั้นได้ชักจูงให้พ.อ.ท.ฟอนเดรนเข้าใจว่า ข้อมูลที่เขาส่งให้นั้นจะถูกส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่ทหารของไต้หวัน

นายโรเบิร์ต กิ๊บส์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของเอฟบีไอ ระบุว่า การที่ข้อมูลนั้นจะถูกส่งไปที่ไหนไม่สำคัญ แต่ที่แน่ๆ คือพ.อ.ท.ฟอนเดรนละเมิดกฎหมายสหรัฐฯ ด้วยการส่งข้อมูลลับไปให้แก่ตัวแทนของรัฐบาลต่างประเทศ

ในบันทึกการให้ปากคำซึ่งมีความยาว 17 หน้า ระบุอีกว่า ระหว่างเดือนพ.ย. 2547 จนถึงเดือนก.พ. 2551 พ.อ.ท.ฟอนเดรนได้ขายข้อมูลลับในรูปแบบรายงานการวิเคราะห์ไปให้แก่นายกัวรวม 8 ฉบับ โดยได้ค่าเงินตอบแทนชิ้นละ 350-800 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 12,600-28,800 บาท)

โดยเอกสารเหล่านั้น มีอาทิ โทรเลขของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของฝ่ายจีนที่เดินทางมาเยือนสหรัฐฯ ข้อมูลเกี่ยวกับการร่วมซ้อมรบทางทะเลระหว่างสหรัฐฯ-จีน และข้อมูลเกี่ยวกับการเจรจาทางทหารระหว่างสหรัฐฯ-จีน

อีกตัวอย่างหนึ่งที่นายกิ๊บ ระบุก็คือ พ.อ.ท.ฟอนเดรนได้ส่งรายงานของเพนตากอนเรื่องกองกำลังทหารจีนให้แก่นายกัว และได้บอกแก่เขาว่า “ผมไม่ต้องการพูดถึงรายงานนี้ทางโทรศัพท์ เพราะถ้ามีคนมาพบเข้า ก็อาจสร้างความเสียหายต่อหน้าที่การงานของผมได้”

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว นายกัวได้ถูกจับกุม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของเพนตากอน นายเกรก วิลเลียม เบอร์เกอร์เซ่น และผู้สมรู้ร่วมคิดชาวจีนที่อยู่ในนิว ออลีนส์ นายอวี๋ ซินคัง โดยนายกัวถูกจับกุมขณะอยู่ที่บ้านพักของ พ.อ.ท.ฟอนเดรนที่รัฐเวอร์จิเนีย ในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว นายกัวถูกศาลตัดสินให้จำคุกเป็นเวลากว่า 15 ปี ขณะที่นายเบอร์เกอร์เซ่นและนายกัง ก็ถูกตัดสินให้จำคุกเช่นกัน

พ.อ.ท.ฟอนเดรนถูกสั่งให้พักงานตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว อาจถูกจำคุกเป็นเวลา 5 ปีและถูกปรับอีก 2.5 แสนเหรียญสหรัฐฯ หากถูกศาลตัดสินว่ากระทำความผิดจริง

นายเดวิด คริส ผู้ช่วยอัยการสูงสุดสหรัฐฯ ฝ่ายความมั่นคง ชี้ให้เห็นว่า กรณีนี้ถือเป็นข้อเตือนใจสำหรับเจ้าหน้าที่รัฐรายอื่นๆ ที่ทำงานเกี่ยวกับข้อมูลลับทางราชการ ว่าจะได้รับผลอย่างไรหากทรยศต่อความไว้วางใจที่ชาวอเมริกันมีให้แก่พวกเขา
กำลังโหลดความคิดเห็น