xs
xsm
sm
md
lg

เคาะข่าวริมโขง : สวด “ฮุนเซน” ใช้ “กฎกู” สั่งศาลเตี้ยเขมร จำคุก “ศิวรักษ์” ดัน “นช.แม้ว” สมหวังบทพระเอก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เคาะข่าวริมโขง : สวด “ฮุนเซน” ร่ายมนต์ศาลเขมร ใช้ “กฎกู” แทนกฏหมาย สั่งจำคุก “ศิวรักษ์” อย่างไร้ความเป็นธรรม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ วิจารณ์ศาลไทย กลั่นแกล้ง “นช.แม้ว” แต่คดีจารกรรมข้อมูล กลับตั้งตนเป็นศาลเตี้ย ตัดสินไร้มาตรฐาน ปิดคดี ดัน “นช.แม้ว” สมหวังโชว์ภาพพระเอก



 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "เคาะข่าวริมโขง" 

รายการ “เคาะข่าวริมโขง” ออกอากาศทาง “อีสานทีวี” ช่วงเวลา 18.30-20.30 น. วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม มี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย และ น.ส.วรรษมน ช่างปรีชา เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยวันนี้ ได้มีการเชิญ นายโสภณ องค์การณ์ อดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และหนึ่งในพิธีกรรายการ NEWS HOUR สุดสัปดาห์ นายประพันธ์ คูณมี กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ มาร่วมพูดคุยถึงประเด็นข่าวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะ การตัดสินคดี นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทย ที่ศาลกัมพูชาสั่งจำคุก 7 ปี พร้อมปรับ 1 แสนบาทในข้อหาจารกรรมข้อมูลลับอันเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงกัมพูชา รวมถึง ขบวนการลิ่วล้อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พากันไปร่วมกับสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อเล่นละครปาหี่ทางการเมือง

นอกจากนี้ยังมีการวิเคราะห์ถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่จะมีขึ้นในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ โดยแกนนำคนเสื้อแดง ระบุว่าหากมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น จะชุมนุมยืดเยื้อทันที

นายประพันธ์ กล่าวเปิดประเด็นถึงกรณีศาลกัมพูชาตัดสินคดีนายศิวรักษ์ว่า เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ถึงโทษทัณฑ์ที่วิศวกรไทยพึ่งจะได้รับ โดยเกมนี้ถูกกำหนดไว้ตั้งแรกแล้วว่า ผลจะออกมาเป็นอย่างไร เพื่อเดินหน้าเข้าสู่เกมขอพระราชทานอภัยโทษ ทั้งที่เรื่องนี้ ที่ผ่านมาทางกระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้พยายามอย่างเต็มที่แล้วในการให้การช่วยเหลือ แต่สิ่งที่ตรงกันข้าม คือ พฤติกรรมของรัฐบาลกัมพูชา รวมทั้งพรรคเพื่อไทย และมารดา นายศิวรักษ์ที่เหมือนเป็นขบวนการร่วมเล่นละครเรื่องนี้ โดยแท้จริงแล้วมีความผิดปกติหรือพิรุธให้จับได้หลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นการตั้งข้อหาจารกรรมข้อมูลลับแก่ นายศิวรักษ์ ทั้งที่เป็นแค่ตารางการบินเท่านั้น ซึ่งไม่ได้เป็นความลับที่ไม่สามารถเปิดเผยได้แต่อย่างใด

“ไม่เข้าใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นบุคคลหรือประมุขประเทศหรืออย่างไร ทำไมกัมพูชาต้องออกมาปกป้องเช่นนั้น โดยกล่าวหาวิศวกรไทยว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของกัมพูชา ซึ่งจริงๆ แล้วสถานะ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่แท้จริง คือ นักโทษหนีคดีจากประเทศไทย” นายประพันธ์กล่าว

นายประพันธ์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นตนไม่แปลกใจว่าทำไม สมเด็จฯ ฮุนเซน ถึงไม่ดำเนินการในสิ่งที่สมควรกระทำ คือ การเริ่มตั้งแต่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ทางรัฐบาลไทย แต่ที่ผ่านมา สิ่งที่ สมเด็จฯ ฮุนเซน ทำหรือแสดงออกเป็นความรู้สึกไม่ญาติดีต่อรัฐบาลไทย อีกทั้งยังเคยประกาศว่าจะไม่มีวันมีความสุขหากยังมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ

“สมเด็จฯ ฮุนเซน เคยวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมไทยว่ากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย และไม่ให้ความเป็นธรรม พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เวลานี้ อยากให้ย้อนดูตัวเองถึงคดีนายศิวรักษ์ว่า ทางกัมพูชาให้ความเป็นธรรมกับคนไทยคนดังกล่าวหรือไม่ มันแสดงได้ชัดว่า แท้จริงกระบวนการยุติธรรมของกัมพูชาเป็นเช่นไร ตั้งข้อหานายศิวรักษ์เช่นนี้ถือเป็นการโยนบาปให้แก่วิศวกรไทยชัดๆ” นายประพันธ์ กล่าว

นายประพันธ์กล่าวต่อว่า ศาลกัมพูชาตัดสินความผิด จำคุก 7 ปี พร้อมปรับเงิน 1 แสนบาท ในข้อหาวิศวกรไทยทำการจารกรรมข้อมูลลับ แต่เรื่องนี้ใครๆก็ทราบว่าท้ายที่สุดแล้ว ถึงอย่างไรกัมพูชาก็ต้องปล่อยตัว เพราะเป็นเกมการเมืองระหว่างประเทศที่ถูกขีดหรือเขียนบทไว้แล้ว ซึ่งถือเป็นการเมืองถ่อยในแบบฉบับของสมเด็จฯ ฮุนเซน ที่ร่วมมือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อย่ำยีประเทศไทยอีกครั้ง โดยที่ศาลกัมพูชาตัดสินเช่นนี้ ถือเป็นการใช้อำนาจตามอำเภอของผู้นำกัมพูชา ที่เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมประเทศตัวเอง

นายประพันธ์กล่าวอีกว่า ส่วนทางด้านพรรคเพื่อไทย ก็เล่นเกมทำลายเกียรติภูมิของประเทศตัวเองเช่นกัน โดยถ้าหาก นายศิวรักษ์ ทำการจารกรรมข้อมูลเพื่อหมายนำไปสู่การลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ จริง เหตุใดพรรคเพื่อไทยต้องให้การช่วยเหลือ มารดา นายศิวรักษ์ อย่างเต็มที่ ทั้งจัดแจงเรื่องต่างๆ และพาไปพบหน้าลูกชายถึงกัมพูชา นอกจากนี้ มันยังสอดคล้องกับทาง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาประกาศก่อนที่ศาลกัมพูชาจะตัดสินความผิด นายศิวรักษ์ ว่าทางกัมพูชาต้องให้พระราชทานอภัยโทษแน่นอน เป็นได้อย่างไรที่ พล.อ.ชวลิต ล่วงรู้ใจศาลกัมพูชาเช่นนั้น

น.ส.วรรษมน กล่าวเสริมว่า ตุลาการที่ร่วมพิจารณาคดีนี้เป็นคนที่สมเด็จฯ ฮุนเซน แต่งตั้งขึ้น

นายโสภณกล่าวว่า เท่าที่ตนติดตามการนำเสนอข่าวของสื่อต่างประเทศ ได้รายงานว่า ศาลที่ตัดสินนายศิวรักษ์วันนี้ เป็นเพียงแค่ศาลเทศบาล ดังนั้น ไม่ใช่ศาลระดับสูงแน่นอน ซึ่งขัดแย้งกับข้อหาความมั่นคงระดับประเทศ ที่ทางกัมพูชาตั้งข้อกล่าวหาแก่วิศวกรไทย ตนจึงถือว่าเรื่องนี้เป็นเกมที่ถูกกำหนดขึ้น เพื่อเปิดทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเข้ามายังเวทีคนเสื้อแดง ที่จะนัดชุมนุมวันที่ 10 ธ.ค.นี้ แล้วบอกว่าจะคุยกับ สมเด็จฯ ฮุนเซน เพื่อยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ นายศิวรักษ์ ซึ่งมันสอดคล้องกับคำพูดของ พล.อ.ชวลิต ที่ระบุว่า วันที่ 10 ธ.ค.นี้ จะมีข่าวดีเรื่องวิศวกรไทย

นายชัชวาลย์กล่าวเสริมว่า ละครเรื่องนี้น่าตลก เพราะอยู่ดีๆ ผู้นำกัมพูชา ออกมาตั้งข้อกล่าวหาคนไทยว่าเป็นสายลับจารกรรมข้อมูลที่เป็นภัยต่อความมั่นคง จนนำมาสู่คำตัดสินวันนี้ที่ นายศิวรักษ์ มีโทษต้องจำคุกถึง 7 ปี และปรับเงิน 1 แสนบาท แต่สุดท้ายไม่มีกี่วันต่อจากนี้ ก็จะเห็นขบวนการปล่อยตัววิศวกรไทย ซึ่งแบบนี้หากไม่เรียกว่าละคร จะเรียกเช่นไร มันแสดงได้ชัดว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน ต้องการแสดงอำนาจทั้งในและนอกสภากัมพูชา

นายโสภณกล่าวเสริมว่า การที่ศาลกัมพูชา เห็นด้วยกับข้อกล่าวหาที่อัยการกัมพูชาระบุว่า นายศิวรักษ์ ทำการจารกรรมข้อมูลลับ ก็แสดงว่าเครื่องบิน พ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นเที่ยวบินปกปิด ไม่สามารถแสดงสถานะที่ชัดเจนได้ ซึ่งถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ เครื่องบินดังกล่าวมีนักโทษชายที่หลบหนีคดีจากประเทศไทยอาศัยอยู่ในลำนั้น ถือว่าเป็นเครื่องบินผิดกฏหมาย เพราะให้นักโทษมีความผิดโดยสาร

นายชัชวาลย์กล่าวว่า การตัดสินของศาลกัมพูชา ตนเชื่อว่าขานสายตาชาวโลกแน่นอน เพราะคงรับไม่ได้กับคำตัดสินที่ไม่มีมาตรฐานเช่นนี้ ดังนั้น ละครเรื่องนี้ถือว่าคนที่ร่วมขบวนการไม่ว่าจะเป็นสมเด็จฯ ฮุนเซน หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ และคนในพรรคเพื่อไทย ตนถือว่า คนพวกนี้ไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ไม่สนใจว่าประเทศไทยจะเป็นเช่นไรถึงทำเช่นนี้ ทั้งที่จริงแล้ว คนเหล่านี้รู้จักกันหมด ไม่ว่าจะเป็น บิดานายศิวรักษ์ กับพ.ต.ท.ทักษิณ หรือมารดานายศิวรักษ์ และคนในพรรคเพื่อไทย ที่ปฏิเสธการช่วยเหลือกระทรวงการต่างประเทศของไทย และรับการช่วยเหลือทุกอย่างทางฝั่งพรรคฝ่ายค้าน

นายโสภณกล่าวว่า เวลานี้ตนถือว่ากัมพูชากำลังถูกปกครองประเทศด้วยโจรเรียกไถ่ เพราะสมัยก่อนใครก็ทราบว่าสมเด็จฯ ฮุนเซน ก่อนหน้าที่จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ทำมาหากินธุรกิจจับคนไทยเรียกค่าไถ่มาก่อน

น.ส.วรรษมน กล่าวว่า ได้มีระเบิดเอ็ม 26 ชนิดแบบขว้าง หายไปจากกองทัพภาคที่ 2 จำนวน 50 ลูก ซึ่ง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ยังคงยืนยันว่าจะไม่ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ในช่วงที่กลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในวันที่ 10 ธ.ค.นี้

นายโสภณกล่าวว่า เวลานี้กลุ่มคนเสื้อแดงไม่มีเหตุผลการชุมนุมอะไร นอกจากต้องการช่วยให้แกนนำคนเสื้อแดงวางใบเบิกบิลให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และช่วยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ทรัพย์สินที่ถูกยึดคืน พร้อมทั้งหลุดพ้นจากความผิดคดีทุกอย่าง

นายประพันธ์กล่าวปิดท้ายว่า วันนี้ทางด้านทหารพรานก็ได้ออกมายืนยันแล้วว่าจะไม่มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างที่ เสธ.แดง กล่าวก่อนหน้านี้ เพราะหน้าที่ทหารคือการดูแลความสงบของบ้านเมืองและดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชน ไม่ใช่ไปก่อเหตุความวุ่นวาย ซึ่งตรงนี้ ตนอยากให้กองทัพเร่งจัดการ เสธ.แดง ด้วยความเด็ดขาด โดยอย่ามาอ้างว่าไม่มีกฏหมายลงโทษนายทหารชั้นนายพล เพราะที่ผ่านมา ก็มีนายทหารยศสูงเช่นนี้ ถูกสอบสวนทางวินัยเช่นกัน หากมีพฤติกรรมที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องไม่เหมาะสม ดังนั้น ถ้าหากกองทัพ ยังปล่อย เสธ.แดง ลอยนวล เท่ากับนายทหารนอกรีตผู้นี้ใช้กฏหมายที่มีอยู่ตบหน้ากองทัพ
กำลังโหลดความคิดเห็น