"ไกรศักดิ์" เชื่อละครปาหี่ จับ "ศิวรักษ์" เป็นเกมการเมือง "ฮุนเซน" อาศัยความขัดแย้งรบ.ไทย ยัดข้อหาวิศวกรไทย หวังชู "นช.แม้ว"-"จิ๋ว" เป็นฮีโร่ ชี้ คดีน้ำหนักเบา แต่ถูกลงโทษสถานหนัก แค่แจ้งตารางการบิน "นช.แม้ว" ถูกศาลเขมรสั่งจำคุก 7 ปี
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "คนในข่าว"
รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เวลา 20.30-22.00 น. วันที่ 8 ธันวาคม โดยมี นายเติมศักดิ์ จารุปราณ เป็นผู้ดำเนินรายการ วันนี้ได้เชิญ นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนางรุ่งมณี เมฆโสภณ กรรมการบริหารสถาบันอิศรา ในฐานะสื่อมวลชนไทยที่เคยสัมภาษณ์ สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มาร่วมพูดคุยถึงประเด็นศาลกัมพูชา มีคำพิพากษาสั่งจำคุก นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทย ในข้อหาจารกรรมข้อมูลลับอันเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงกัมพูชา โดยขณะนี้ ทำให้ชนวนความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา กลับมาทวีคูณความร้อนแรงอีกครั้ง
นายไกรศักดิ์ กล่าวถึงกรณีนี้ ว่า ตนเสียดายที่ประเทศไทยถูกประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชาทำร้ายเช่นนี้ เพราะในอดีตจนถึงปัจจุบันไทยไม่เคยใช้วิธินี้กับกัมพูชา และไม่เคยทำกับคนกัมพูชาเช่นนี้ ดังนั้น ตนจึงไม่เข้าใจว่าคดีนี้มีความร้ายแรงความผิดอย่างไร ถึงรวบรัดตัดสินคดี ทั้งที่รัฐบาลกัมพูชาระบุมาตลอดว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคง ทำไมไม่ตรวจสอบให้เข้มข้นกว่านี้ อีกทั้ง สิ่งที่ นายศิวรักษ์ ทำ หากดูไปตามหน้าที่ ซึ่งดูแลการขึ้นลงของเครื่องบินอยู่แล้ว ฉะนั้น ข้อมูลตารางการบินจึงเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ความลับหรือข้อมูลต้องปิดบัง ตนจึงรู้สึกเสียใจที่ นายศิวรักษ์ ต้องตกเป็นจำเลยคดีนี้ ที่ตั้งอยู่บนความขัดแย้งของรัฐบาลทั้งสองประเทศ
นายไกรศักดิ์ กล่าวต่อว่า การตั้งข้อหา นายศิวรักษ์ ว่าจารกรรมข้อมูลอันเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงกัมพูชา ตนว่าเป็นการกล่าวหาที่เกินจริง เพราะแค่ข้อมูลตารางการบิน พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้วิศวกรไทยต้องติดคุกถึง 7 ปี นับว่าเป็นข้อกล่าวหาและบทลงโทษที่แรงเกินไป
นางรุ่งมณี กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์ความร้อนแรงทางการเมืองระหว่างไทยกับกัมพูชา ทำให้ทั้งสองประเทศตกอยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลม และมีความเป็นไปได้ที่จะมีการกล่าวหาคนของอีกประเทศว่าเข้ามาเพื่อจารกรรมข้อมูลสำคัญหรือเป็นสายลับให้แก่รัฐบาลฝ่ายตรงข้าม โดยเนื่องจากข้อมูลถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ในความรู้สึกของประเทศที่ไม่ไว้ใจกัน ซึ่งเรื่องนี้ส่วนหนึ่ง ตนคิดว่าคดีนี้ อาจโดนปัญหาการเมืองเข้ามาแทรกแซง โดยผลที่ได้คือ ต้องการตอกย้ำว่า นายศิวรักษ์ ทำผิดจริง ทั้งที่ วิศวกรไทย ยืนยันว่าไม่ทราบว่าเที่ยวบินดังกล่าว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้โดยสาร
นายไกรศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับตนคิดว่าคดีนี้เป็นเกมการเมืองจริงๆ แต่ไม่เข้าใจว่าข้อกล่าวหา นายศิวรักษ์ ที่ว่าจารกรรมข้อมูลทำไมถึงมีความผิดร้ายแรงเช่นนี้
นายเติมศักดิ์ กล่าวว่า นางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดานายศิวรักษ์ ได้โฟนอินมาที่พรรคเพื่อไทย เพื่อขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ช่วยดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษให้ลูกชาย พร้อมทั้งปฏิเสธความช่วยเหลือกระทรวงการต่างประเทศของไทย ต่อไปเป็นไปได้หรือไม่ที่ สมเด็จฯ ฮุนเซน จะนำประเด็นนี้ไปพูดต่อให้ประเทศอื่นเข้าใจผิดรัฐบาลไทย ว่าส่ง นายศิวรักษ์ มาเป็นสายลับจารกรรมข้อมูลสำคัญ
นายไกรศักดิ์ กล่าวว่า ทางกัมพูชาจะใช้หลักฐานใดนำเรื่องนี้ไปพูดต่อ โดยตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่มากนัก เพราะการแจ้งข้อมูลตารางการบินของ นายศิวรักษ์ ไม่มีผลทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ตกอยู่ในภาวะอันตรายเหมือนอย่างที่กัมพูชากล่าวหาวิศวกรไทย รวมทั้งเรื่องเอฟ 16 ด้วย ทางรัฐบาลไทย ก็ได้ออกมายืนยันเช่นกันว่าไม่มีการส่งเครื่องบินเอฟ 16 ออกไปปฏิบัติการ เพื่อต้องการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ โดยสุดท้ายแล้ว ตนเชื่อว่าเรื่องนี้ สมเด็จฯ ฮุนเซน รู้ดีว่าไม่ควรนำเรื่องนี้ไปพูดต่อ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นเพียงความต้องการสร้างภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ และพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ให้เป็นฮีโร่ในละครเรื่องนี้
นางรุ่งมณี กล่าวว่า ตนอยากให้แยกแยะระหว่างพฤติกรรมของ นางสิมารักษ์ ที่มีความใกล้ชิดเป็นพิเศษกับพรรคเพื่อไทย เป็นคนละส่วนกับคดี นายศิวรักษ์ เพราะเรื่องนี้คนที่น่าสงสารและน่าเห็นใจที่สุด คือ วิศวกรไทยที่ถูกกัมพูชาจับกุมตัว ส่วนเรื่องความกังวลที่ สมเด็จฯ ฮุนเซน อาจจะนำประเด็นนี้ไปพูดป้ายสีรัฐบาลไทย ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่มีน้ำหนักพอ ดังนั้น หากพูดไปก็ไม่น่าเชื่อถือ
นายเติมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศไทย ต้องทำการบ้านหนักขึ้นหรือไม่ ในการช่วยเหลือ นายศิวรักษ์
นายไกรศักดิ์ กล่าวปิดท้ายว่า ตนคิดว่ากระทรวงการต่างประเทศของไทย ไม่ควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากจนเกินไป และไม่ควรโต้ตอบกับฝ่ายกัมพูชา แต่ที่ตนรู้สึกเสียดายมากที่สุด คือ พรรคฝ่ายค้านหรือพรรคเพื่อไทย มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อเรื่องดังกล่าว โดยแทนที่น่าจะเอาเวลาไปทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล กลับไปร่วมสร้างละคร เพื่อสั่นคลอนรัฐบาลประเทศตัวเอง มิหนำซ้ำ ยังไปร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการทำร้ายประเทศไทยอีกด้วย โดยยึดผลประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหลัก ตนจึงรู้สึกเป็นห่วงประเทศชาติในเวลานี้