xs
xsm
sm
md
lg

“เจ๊สด” โวย ส.ส.-บริษัทไม่ให้ความร่วมมือสอบหุ้นฯ ขู่แฉรายชื่อประณาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สดศรี สัตยธรรม กกต.
“สดศรี” ชี้เหตุที่ต้องเลื่อนสอบ ส.ส.ถือหุ้นเพราะไม่ได้รับความร่วมมือจาก ส.ส. และบางบริษัท วอนมาให้ปากคำ กกต.ภายใน 15 วัน ขู่ไม่มาจะประกาศรายชื่อไม่ให้ความร่วมมือ ลั่นอย่ามาโวยวาย กกต.ไม่ทำตามหลักเกณฑ์ ซัดกลับ “สุนัย” เด็กเลี้ยงแกะ เรื่องไม่จริงอย่าพูด ท้าเอาหลักฐานมายันไม่ให้เข้าชี้แจง ขณะที่ “อภิชาต” ปัดไม่ได้ดึงเรื่องคำร้องปชป.ยันขาดข้อมูลข้อเท็จจริง

วันนี้ (24 มิ.ย.) นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงเหตุผลการเลื่อนพิจารณาวินิจฉัยกรณีการขาดคุณสมบัติความเป็น ส.ส.เนื่องจากถือหุ้นสื่อและหุ้นสัมปทานรัฐของ กกต.ว่า ที่ต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือจากบางบริษัท และ ส.ส.อีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้มาให้ปากคำต่อ กกต.ตามที่คณะอนุกรรมการสอบสวนได้เชิญไป จึงอยากขอความร่วมมือกับบุคคลเหล่านี้มาให้ปากคำภายใน 15 วัน ตามที่ กกต.ได้ขยายเวลาออกไป

“หากไม่มา กกต.ก็จะใช้สิทธิประกาศรายชื่อบริษัท และรายชื่อ ส.ส.ที่ไม่ให้ความร่วมมือ เพราะเราอยากพิจารณาด้วยหลักฐานที่ครบถ้วน ชัดเจนไม่อยากให้ใครมาว่า กกต.พิจารณาโดยไม่มีหลักฐานครบถ้วนและจะมาโวยวายว่า กกต.ไม่ทำตามหลักเกณฑ์ไม่สอบปากคำ ทั้งนี้ กกต.จะเร่งคณะอนุกรรมการฯให้ทำงานโดยเร็วที่สุด และเราจะทำอย่างรอบคอบไม่ทำตามกระแส”

ส่วนกรณีที่ นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ระบุว่าเพิ่งได้รับหนังสือเรียกไปชี้แจง และมี ส.ส.บางคนระบุว่าได้ขอเข้ามาชี้แจง แต่เจ้าหน้าที่ กกต.ไม่อนุญาตและไล่กลับนั้น คิดว่าไม่เป็นความจริง การพูดอย่างนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ กกต.เสียหาย จะพูดอะไรก็ควรเอาหลักฐานมาแสดง กกต.จะพิจารณาว่ามีการทำเช่นนั้นหรือไม่ และหากเป็นเรื่องจริงจะดำเนินการทันที เพราะการกระทำเช่นนั้นจะทำให้ กกต.เกิดความเสียหาย แต่หากไม่จริงก็อย่าพูด

อย่างไรก็ตาม หากเป็นไปได้อยากขอความร่วมมือกับผู้ที่ยังไม่เข้ามาให้ปากคำให้ความร่วมมือในการชี้แจง เพราะส.ส.เองก็เป็นองค์กรหนึ่งในระบอบประชาธิปไตย ขอความรวมมือไปก็น่าที่จะให้ความร่วมมือ เพราะ กกต.มีหน้าที่ตรวจสอบตามที่มีผู้ร้องเข้ามา ยืนยันว่าไม่ได้จ้องจับผิดใคร เรื่องนี้มีกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งการพิจารณาของ กกต.ไม่ได้ต้องการให้เกิดสูญญากาศ แต่ต้องทำตามหน้าที่ ซึ่งต้องตีความต่อในศาลรัฐธรรมนูญว่า ส.ส. ถือหุ้นไว้ผิดกฎหมายหรือไม่

นางสดศรีกล่าวอีกว่า ขณะนี้อนุกรรมการสอบสวนชุดพรรคประชาธิปัตย์พิจารณาเสร็จแล้ว อยู่ขั้นตอนการทำสรุปผลก่อนเสนอให้ กกต.พิจารณา เมื่อเสนอเข้ามาก็ต้องดูว่า การพิจารณาของอนุกรรมการฯ เหมือนกับที่ผ่านมาหรือไม่ เพราะการพิจารณาของ กกต.ก็เหมือนศาล ต้องดูเอกสารหลักฐานต่างๆ ส่วนที่มีการมองว่าอนุฯ สอบ ส.ส.ทำงานล่าช้าเพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาการได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองนั้น ตนไม่อยากคิดในแง่ร้ายว่ามีการประวิงเวลาหรือดึงเรื่อง และไม่ต้องการให้ใครมาบอกว่า กกต.ใส่เกียร์ว่าง เพราะเรามีหน้าที่ในการตรวจสอบเมื่อร้องเข้ามาก็ต้องดำเนินการ ประกอบกับ กกต.ไม่ได้รับความร่วมมือทำให้การพิจารณาต้องล่าช้าออกไป

“เราไม่เคยมีความขัดแย้งกับใครเลย และไม่เคยคิดจะเอาคืนด้วย การที่มีคนกล่าวหาว่า กกต.เป็นโมฆะ แล้วเราจะมาเอาคืนก็ไม่ใช่ ถ้าจะเอาคืนต้องเอาทั้งสภาและความจริงแล้ว กกต.ก็ไม่ได้ขัดแย้งกับสภามีแต่คณะกรรมการสมานฉันท์กล่าวหาว่า กกต.เป็นโมฆะ ก็น่าจะไปยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญให้มีการตีความว่า กกต.โมฆะจริงหรือไม่”

ด้าน นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า เพราะยังขาดข้อมูลและข้อเท็จจริง โดยเฉพาะข้อมูลของบริษัทต่างๆ ที่ขาดกว่า70 บริษัท จึงไม่อาจด่วนพิจารณา กกต.ต้องการมาตรฐานแนวเดียวกับ ส.ว. และเกิดความเท่าเทียมกัน ทั้งนี้ เมื่อครบ 15 วันของเวลาที่ขยายก็คงต้องพิจารณาอีกครั้ง เบื้องต้นอยากให้ ส.ส.และผู้ที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูล และหากไม่สะดวกมาด้วยตนเองก็ส่งเอกสารมาแทนได้ พร้อมกันนี้ได้ปฏิเสธ ว่าไม่ได้มีการดึงเรื่องการพิจาณาคำร้องของพรรคประชาธิปัตย์แต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น