กกต.ยังให้ความชัดเจนไม่ได้ กรณี “ทักษิณ” มอบรูปถ่ายพร้อมข้อความ ให้ ส.ส.ภาคอีสาน นำไปทำสำเนาแจกจ่ายให้ ปชช.ในพื้นที่เลือกตั้งซ่อม จ.สกลนคร เข้าข่ายผิด กม.เลือกตั้งหรือไม่ แต่ยกตัวอย่างการแจก VCD ในพื้นที่ภาคอีสาน เมื่อการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา โดย กกต.และศาลฎีกาเคยวินิจฉัยแล้วว่าไม่ผิด
วันนี้ (12 มิ.ย.) นางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง ปฏิเสธที่จะให้ความชัดเจนกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบรูปถ่ายพร้อมข้อความ จำนวน 5 ใบ ให้ ส.ส.ภาคอีสานนำไปทำสำเนาแล้วแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่เลือกตั้งซ่อม จ.สกลนคร เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ แต่ได้ยกตัวอย่างกรณีก่อนหน้านี้เรื่องการแจก VCD ให้กับประชาชนในพื้นที่ภาคอีสาน เมื่อการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา ซึ่ง กกต.และศาลฎีกาเคยวินิจฉัยแล้วว่าไม่ผิด
ทั้งนี้ นางสดศรียืนยันว่า กกต.จะพิจารณากรณีการร้องเรียนทั้งของพรรคเพื่อไทย และภูมิใจไทย อย่างเป็นธรรม ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยได้ส่งเรื่องไปให้อนุกรรมการพิจารณา และให้แถลงต่อคณะกรรมการภายใน 10 วันแล้ว คาดว่าจะทราบผลก่อนวันที่ 28 มิถุนายนนี้ ในการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สกลนคร
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยร้องให้ตรวจสอบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แจกเงินให้คนพิการ 2,000 บาท ขณะที่พรรคภูมิใจไทยได้ร้องให้สอบพรรคเพื่อไทย ฐานใส่ร้ายว่าแจกเงิน
นอกจากนี้ นางสดศรีกล่าวด้วยว่า ไม่รู้สึกกังวลต่อกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ยื่นตรวจสอบ กกต.ในการนำงบไปใช้ในการจัดอบรมหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง เพราะถือว่าเป็นการทำตามกรอบที่กฎหมาย กำหนดให้ กกต.มีหน้าที่ในการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยให้กับประชาชนและนักการเมือง โดย กกต.ได้ใช้งบจำนวน 5.8 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นงบประมาณที่จำกัดและการส่งเสริมสถาบันความรู้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีและเป็นประโยชน์ ทำให้ไม่มีการแบ่งแยกสี ซึ่งน่าจะดีกว่าการเดินทางไปดูงานต่างประเทศ
นางสดศรียังกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะมีมติขับ ส.ส.ออกจากพรรคว่า เป็นเรื่องของข้อกฎหมายที่กำหนดไว้ โดยเมื่ออยู่ร่วมกันไม่ได้ก็มีสิทธิ์ที่จะออกไป แต่การที่จะย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นตอนที่สภาผู้แทนราษฎรยังไม่มีการยุบนั้นไม่สามารถทำได้ และจะทำให้สิ้นสุดความเป็น ส.ส.ไปด้วย นอกจากจะไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้วินิจฉัย
