คนรู้ทันชำแหละ “นช.แม้ว” ยังอันตราย-มีเงินจ้างคนป่วนชาติได้

เวทีคนรู้ทัน “ทักษิณ” ชำแหละ “นช.แม้ว” ยังอันตราย แม้เป็นนักโทษหนีคุก แต่มีเงินจ้างคนป่วนชาติได้ แถมมีปัญหาทางจิต ไม่หยุดทำร้ายประเทศแน่ หากคนไทยไม่รู้ทัน ด้าน ส.ศิวรักษ์ เปรียบเทียบ “ปรีดี” กับ “แม้ว” ความฉลาดไม่ต่างกัน แต่รัฐบุรุษอาวุโสใช้ความเก่งทำงานเพื่อชาติ แต่อดีตนายกฯ หน้าเหลี่ยมกลับฉลาดแกมโกง เอาสถาบันหลักของชาติไปหาประโยชน์เข้าตัว ใช้วิธีฉ้อฉลหลอกให้คนจนหลงรัก

วันที่ 23 มิ.ย. สำนักพิมพ์ขอคิดด้วยคน ได้จัดงานเปิดตัวหนังสือ “รู้ทันทักษิณ 5 สงครามกลางเมือง” รวมถึงจัดงานเสวนาในหัวข้อ “แม้ไม่มีแผ่นดินอยู่ ก็ต้องรู้ทัน” ที่โรงแรมอิมพีเรียลธารา สุขุมวิท 26 มีผู้เข้าร่วมเสวนาหลายท่าน อาทิ นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ นักคิดนักเขียน น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ ซึ่งร่วมเขียนหนังสือเล่มนี้

ในงานครั้งนี้ นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ได้ปาฐกถาเปรียบเทียบชีวิตและอุดมการณ์นายปรีดี พนมยงค์ อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐบุรุษอาวุโส กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่กำลังหลบหนีคดีทุจริตอยู่ต่างประเทศ ว่าในด้านความสามารถไม่แตกต่างกันนัก แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนที่ฉลาดแกมโกง ทำทุกอย่างเพื่อตนเองและพวกพ้อง มีเล่ห์เหลี่ยม จึงทำให้ต้องพบกับจุดจบ และชีวิตกำลังเข้าสู่หายนะ รวมถึงเชื่อว่าตัวเองต้องให้เป็นใหญ่กว่าคนทั้งหมด จึงค่อยทำเพื่อผู้อื่น ซึ่งการทำเช่นนี้ทำให้ขาดกัลยาณมิตรที่คอยแนะนำตักเตือนให้มีคุณธรรมและจริยธรรม อย่างไรก็ตาม อยากให้คนไทยรู้ทันทักษิณ เพื่อเป็นแนวทางให้มีปัญญาในการเลือกผู้นำ ซึ่งขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้เป็นผู้นำที่ดี เป็นพวกเอาตัวรอด และไม่ต้องการลงไปแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็เป็นกลุ่มเดียวกับที่มีอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร

นายสุลักษณ์กล่าวว่า นายปรีดีนั้นเป็นผู้นำเสรีไทย ทำให้ไทยมีเอกราชและเข้าร่วมกับคณะราษฎรในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทำให้ประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย จึงสมควรได้รับการยกย่อง ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ตนไม่ได้เกลียด แต่รักและสงสารเหมือนหมาที่บ้าน ตนเลือกพรรคไทยรักไทยเพราะเอือมระอาพรรคประชาธิปัตย์ที่เก่งแต่ตีฝีปาก ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณประกาศยืนอยู่ข้างประชาชน ผลักดันนโยบายดีๆ ออกมาช่วยเหลือคนยากจน แต่หลังจากนั้นเพียงปีเดียว พ.ต.ท.ทักษิณก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าราษฎร

“สิ่งที่ผมทนไม่ได้ คือ อ้างว่าจะปราบปรามยาบ้า ยาม้า แล้วเอาคนดีๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดไปฆ่าเป็นพันๆ คน แล้วอ้างชาตินิยมในการนำคนใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ฆ่า เพราะว่าเขาเป็นแขก เป็นมลายู เป็นมุสลิม ต้องเอาไปฆ่า จนเกิดปัญหาลุกลาม” นายสุลักษณ์กล่าว

นายสุลักษณ์กล่าวต่อว่า นายปรีดีนั้นเป็นคนฉลาดและเก่งกฎหมาย และใช้กฎหมายเพื่อช่วยเหลือคนยากคนจน นายปรีดีไม่เคยคิดใช้กฎหมายเพื่อประโยชน์ของตนเอง เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่เคยใช้ชื่อหรือนามสกุลของตัวเองไปตั้งเป็นสถานที่ต่างๆ แตกต่างจาก พ.ต.ท.ทักษิณที่เป็นคนฉลาดแกมโกง นำสถาบันหลักของชาติมาสร้างประโยชน์ให้กับพรรคพวกและครอบครัว นำเงินแผ่นดินมาใช้สร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง ทำให้ทุกวันนี้ยังมีคนคิดถึง พ.ต.ท.ทักษิณในฐานะเป็นนักการเมืองคนแรกที่ทุ่มเทให้เขา ซึ่งถือเป็นการฉ้อฉลที่เลวร้าย ตราบใดที่คนไทยไม่ตื่นจากความเลวร้ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ประเทศไทยจะไปไม่รอด

นายสุลักษณ์บอกอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณเอาเงินภาษีไปทุ่มที่ลาว ที่พม่า ที่จีน ที่กัมพูชา แต่ประเทศเหล่านั้นรู้ทันเลยซื้อเขาไม่ได้ แต่ในฐานะนายกรัฐมนตรี ในทางกลับกันนายปรีดีได้แก้ไขสัญญา ทำให้ไทยไม่เสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณแก้สัญญาไม่เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมือง เช่น การลงนามเอฟทีเอ ซึ่งประเทศไทยไม่ได้ประโยชน์ เพราะหลักการค้าเสรี ประเทศใหญ่ได้ประโยชน์จากประเทศเล็ก ส่วนระบอบประชาธิปไตย พ.ต.ท.ทักษิณก็ยึดติดแต่รูปแบบ ขอให้ชนะเสียงในสภา ส่วนประเทศชาติจะเป็นยังไง ช่างมัน

นายสุลักษณ์กล่าวถึงจุดจบในชีวิตของนายปรีดาว่า เสียชีวิตในต่างแดน แต่หลังจากนั้นได้รับการยกย่องจากยูเนสโก้ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก แต่คิดว่าจุดจบของ พ.ต.ท.ทักษิณคงสงบเพราะไม่ใช่คนโง่ เพียงแต่ขาดกัลยาณมิตรคอยตักเตือน

ต่อมาในช่วงการเสวนาหัวข้อ “แม้ไม่มีแผ่นดินอยู่ ก็ต้องรู้ทัน” ผู้เขียนหนังสือ “รู้ทันทักษิณ 5 สงครามการเมือง” ส่วนใหญ่เห็นว่ายังจำเป็นต้องรู้ทัน แม้จะไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้ว เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นปัญหาต่อแผ่นดิน ทำให้ประชาชนแตกแยกไปทั่วประเทศ เพียงเพื่อให้เป้าหมายของตนเองบรรลุ

น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ หนึ่งในผู้เขียนหนังสือเล่มนี้กล่าวว่า แม้ พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่มีแผ่นดินอยู่ แต่เป็นนักโทษหนีคุกที่อันตราย เพราะยังมีเงินจ้างผีโม่แป้ง นอกจากนั้นยังป่วยทางจิต ถ้าเราไม่รู้ทันเขาจะไม่หยุดทำร้ายประเทศ นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ และเจตนาทำลายระบอบกษัตริย์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคนไทยอีกด้วย

ส่วน พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติการณ์ที่เป็นอันตรายต่อชาติบ้านเมือง ที่ปรากฏแล้วหลายคดีและยังไม่ตัดสินรอการพิสูจน์อีกหลายคดี แต่ที่ร้ายแรงที่สุดคือการจาบจ้วงดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย ส่วนตัวเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณกำลังทำลายระบอบพระมหากษัตริย์ จึงเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่ต้องต่อสู้เพื่อปกป้องไม่ให้มีการล้มล้างระบอบการปกครองโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข นอกจากนี้ยังจัดงบประมาณอย่างฉลาดโดยเอาเงินงบประมาณไปแจกรากหญ้าจนเป็นบุญคุณ จึงต้องช่วยกันอธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่าเงินดังกล่าวมาจากใด