ปชป.แฉ “เหลิม” ฮึกเหิม! รับบัญชา “นช.แม้ว” ป่วนทั้งในและนอกสภา

โฆษก ปชป.สวดยับ ปธ.ส.ส.พรรคเพื่อไทย ส่งสัญญาณอันตราย-สร้างเงื่อนไขความขัดแย้งรอบใหม่ หลังรับบัญชานายใหม่ป่วนบ้านเมืองทั้งในและนอกสภา วอนทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการเมืองยุคเก่า โต้กลับไม่เคยริลอกนโยบายเศรษฐกิจ เผยภาคเอกชนให้การตอบรับการแก้ปัญหาของ รบ.อย่างดี

วันนี้ (22 พ.ค.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวตอบโต้กรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์หลังจากเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมืองดูไบ ว่าจะเดินหน้าต่อต้านรัฐบาลทั้งในและนอกสภานั้น พรรคมีความกังวลต่อการส่งสัญญาณที่ถือว่าอันตราย บ่งบอกถึงการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งทางการเมืองรอบใหม่ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความพยายามฟื้นวิกฤตของรัฐบาล และสร้างความสมานฉันท์ของรัฐสภา ซึ่งทางพรรคขอเรียกร้องไปยังพรรคเพื่อไทยให้แสดงความชัดเจนต่อการที่จะยุติความขัดแย้ง โดยการขับเคลื่อนการเมืองนอกสภา และอยากให้หันมาร่วมมือกันกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจของชาติ และสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้น โดยการมีส่วนร่วมและแสดงความจริงใจในการเข้าร่วมกระบวนการปฏิรูปการเมือง ขณะเดียวกัน พรรคมีความห่วงใยต่อแนวทางการเมืองแบบเก่าที่ทางพรรคเพื่อไทยส่งสัญญาณออกมา และสอดรับกับการเคลื่อนไหวของเครือข่ายที่เปลี่ยนรูปแบบโดยมีการเพิ่มการตั้งสถาบันวิชาการเทียมออกมานอกเหนือจากการสร้างสื่อเทียมขึ้นมาในรูปแบบที่แตกต่างจากในอดีต จึงอยากให้ทุกฝ่ายขับเคลื่อนการเมือง ให้อยู่บนพื้นฐานข้อมูลและความจริง หลีกเลี่ยงการทำการเมืองแบบเก่า ที่ปลุกระดมให้เกิดความขัดแย้ง

นพ.บุรณัชย์ กล่าวถึงการสัมมนาของพรรคเพื่อไทยที่พูดถึงเรื่องนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ โดยอดีตทีมเศรษฐกิจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พูดในลักษณะว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ลอกนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณมาว่า พรรคขอชี้แจงว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยผ่านการกระตุ้นเศรษฐกิจมีลักษณะที่สอดคล้องกับความพยายามในการสร้างกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ ทั้งระดับภูมิภาค และระดับโลก ซึ่งทิศทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลได้รับเสียงตอบรับอย่างดีทั้งจากเอกชนในประเทศและประชาคมโลก

นพ.บุรณัชย์ กล่าวอีกว่า อยากถามกลับไปยังนายโอฬาร ไชยประวัติ และนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช ว่านโยบายปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 1 ผ่านโครงการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เช็คช่วยชาติ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หรือโครงการเรียนฟรี การสร้างงานในชุมชน โดยผ่านโครงการชุมขนพอเพียงนั้น โครงการเหล่านี้ในสมัยของ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ไหน มีหรือไม่ ขอยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้เป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และบอบช้ำมาจากความขัดแย้งทางการเมือง

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายประวัติ และนายโอฬารที่กล่าวหาว่าภาษีบางประเภทในขณะที่เพิ่มรายจ่ายภาครัฐโดยใช้คำว่า เป็นนโยบายอุตรินั้น ตนอยากถามกลับนายโอฬารว่า การขึ้นภาษีบางตัวเพื่อมาทดแทนรายรับที่ขาดไปของรัฐบาล และเป็นการใช้จ่ายเพื่การลงทุนนั้น สมัยรัฐบาลในอดีตเป็นแนวทางที่ทำตรงกันข้าม เช่น การออก พ.ร.ก.ภาษีสรรพสามิตโทรคมนาคม ทำให้รัฐสูญเสียรายได้มหาศาล และเป็นการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทพวกพ้อง ในขณะที่รายได้ลดลงกลับทดแทนด้วยการออก พ.ร.ก.เงินกู้ และเป็นการกู้เงินจากต่างชาติมาทดแทน โดยการออกพันธบัตรนั้นถือว่าเป็นนโยบายที่สร้างภาระให้คนไทยทั้งประเทศเป็นหนี้ต่างประเทศ เพื่อทดแทนรายได้ที่ขาดไป แต่นโยบายของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ผ่านการออก พ.ร.ก.เป็นนโยบาย ที่สร้างการลงทุนในภาครัฐ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจภาคชนบทและให้เกิดการจ้างงาน โดยเป็นการกู้จากในประเทศ ส่วนการขึ้นภาษีรัฐบาลก็ทำอย่างรอบคอบ ดังนั้น อยากถามว่าถ้าพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับโครงการไหนก็ขอให้แสดงจุดยืนออกมาให้ชัดเจน