“อภิสิทธิ์” เข้าชี้แจงเหตุสลายการชุมนุมต่อคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ลั่นทำตามหน้าที่หลังแกนนำปลุกระดมให้ชาวบ้านทำผิดกฏหมาย ด้าน "พร้อมพงษ์" ขอเปิดซีดีบันทึกเหตุการณ์ อ้างจากสื่อต่างประเทศ แต่ถูกกรรมการปฏิเสธ กรรมการแจงจะพิจารณาเอง ขณะที่ “เทพเทือก” แจง เสื้อน้ำเงินที่พัทยา เป็นแค่อาสาสมัครมาช่วยดูแลรับ เจอ “เนวิน” จริง แต่ไม่ได้ไปด้วยกันย้ำ ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วน “พร้อมพงศ์” ยังพยายามโร่พาแม่พลทหารอภินพร้องนายกฯ หวังเอาหน้าสื่อ เจอ “มาร์ค” เบรกเกม เชิญแม่พลทหารคุยส่วนตัว
วันนี้ (18 พ.ค.) ที่รัฐสภา วันนี้(18 พ.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 09.30 น. คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการชุมนุมทางการเมือง ที่มีนายสมศักดิ์ บุญทอง เป็นประธานฯ ได้เชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เข้าชี้แจง โดยในช่วงแรกนั้นประธานในที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนายกฯได้อธิบายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.ว่า เป็นการชุมนุมที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ในวันที่ 12 เม.ย.ที่ตนแถลงข่าวที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น มีความพยายามขว้างปาสิ่งของและพยายามทุบรถ เราก็พยายามใช้ความอดทน และสั่งการอย่างเข้มงวดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐว่า ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ความรุนแรง จนกระทั่งเวลา 04.00 น. ของวันที่ 14 เม.ย. มีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงจนมีผู้บาดเจ็บ แต่ยืนยันว่าไม่มีผู้เสียชีวิต เป็นการดำเนินการสลายการชุมนุมเพื่อคืนสภาพการจราจรเท่านั้น ยืนยันว่ารัฐบาลมีนโยบายใช้ความระมัดระวังมากที่สุดในการดำเนินการเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายไปได้
จากนั้นคณะกรรมการจากพรรคเพื่อไทย อาทิ นาย สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส. เชียงใหม่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส. ชัยภูมิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และนางประทีป อึ้งทรงธรรม แกนนำกลุ่มนปช.รุ่น 2 ได้ซักถาม โดยมีใจความสรุปได้ว่า ภายหลังประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วนายกฯ ได้สั่งการโดยวาจาหรือสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษร รวมทั้งระหว่างการปฎิบัติการสลายการชุมนุมกรณีที่มีคนเสื้อน้ำเงินปะปนอยู่กับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจด้วย จึงอยากทราบว่าเป็นประชาชนทั่วไปหรือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนจริงในการสลายการชุมนุมทั้งๆที่รัฐบาลยืนยันว่า การปฏิบัติการใช้กระสุนปลอมแต่เหตุใดจึงมีผู้ได้รับบาดเจ็บ
นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงว่า หลังประกาศแต่งตั้งกอฉ.แล้ว ได้มอบหมายให้นายสุเทพและพล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นผู้ดูแลสถานการณ์ ซึ่งการสลายการชุมนุมของรัฐบาลนั้นปฏิบัติตามมาตรฐานสากลและมีมาตรฐานเดียวเพื่อให้บ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติ เพราะขณะนั้นแกนนำของกลุ่มคนเสื้อแดงบางคนมีเจตนาที่จะเคลื่อนมวลชนเพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถใช้อำนาจได้ โดยเห็นได้ชัดว่ามีการปลุกระดมส่งเสริมให้ประชาชนทำผิดกฎหมาย
จากนั้นนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ขอให้มีการเปิดซีดีบันทึกเหตุการณ์การสลายการชุมนุมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง โดยอ้างว่ามีพยานหลักฐานและพยานวัตถุอย่างชัดเจน ซึ่งได้มาจากสื่อต่างประเทศ มีความยาว 11 นาที แต่นายสมศักดิ์ไม่อนุญาต เนื่องจากเห็นว่านายกฯ มีเวลาชี้แจงน้อยและเป็นเรื่องที่พิจารณากันเองในที่ประชุมคณะกรรมการฯ ทำให้เกิดการโต้เถียงกันขึ้น โดยนายพร้อมพงศ์ระบุว่า สาเหตุที่ไม่กล้าเปิดซีดีเนื่องจากรัฐบาลกลัวใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์จึงกล่าวตอบโต้ว่า ตนไม่เคยกลัว ถ้ากลัวคงไม่เป็นผู้ขอเปิดประชุมรัฐสภาอภิปรายทั่วไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ และคงไม่ขอให้มีการตั้งคณะกรรมการฯ ชุดนี้ขึ้นมา
ด้านนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก คณะกรรมการฯจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งคำถามว่าภายหลังการแถลงข่าวที่กระทรวงมหาดไทยในวันที่ 12 เม.ย. นายกฯถูกรุมทำร้ายรวมทั้งมีข้อสงสัยอีกว่า นายกฯ อยู่ในรถคันดังกล่าวจริงหรือไม่ และในระหว่างนั้นได้มีการสั่งการให้ดำเนินการกับผู้ชุมนุมอย่างไร ขณะที่นาง นฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ ถามว่า เหตุใดรัฐบาลจึงต้องประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินที่กระทรวงมหาดไทย ทั้งๆ ที่มีสถานที่อื่นอีกมาก นายอภิสิทธิ์ จึงชี้แจงว่า เหตุการณ์ในวันนั้นมีบันทึกของเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุชัดเจนว่าตนเข้าไปอยู่ในรถและเคลื่อนออกจากกระทรวงมหาดไทย แต่เห็นได้ชัดว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาทุบทำร้ายรถ โดยผู้ชุมนุมมีทั้งไม้และอาวุธอื่นๆ ส่วนการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินที่กระทรวงมหาดไทยนั้น เพราะมีผู้ปฎิบัติการด้านนโยบายและบุคคลที่เกี่ยวข้อง อาทิรมว.กลาโหม รมว.มหาดไทย และรมช. มหาดไทย ตั้งศูนย์บัญชาการที่นั่น และเตรียมพร้อมทุกอย่างไว้อยู่แล้ว และคิดว่าเหตุการณ์ชุมนุมจะไม่บานปลาย เนื่องจากกลุ่มคนเสื้อแดงไม่เคยบุกเข้าไปในสถานที่ราชการ จึงไม่ได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ป้องกันเหตุ
คณะกรรมการจากพรรคเพื่อไทยยังได้ซักถามถึงการได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตของผู้ชุมนุมจากอาวุธหนัก รวมทั้งกรณีที่มีผู้สูญหายหลายคนด้วย โดยนายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่าไม่มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บก็ได้รับการรักษาพยายามด้วย ส่วนผู้สูญหายนั้นก็มีหน่วยงานที่รับผิดชอบทำหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้ว
จากนั้นคณะกรรมการจากพรรคเพื่อไทยจึงซักถามนายสุเทพ ถึงการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะกรณีของกลุ่มคนเสื้อน้ำเงินที่เกรงว่านายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งการด้วยหรือไม่ โดยนายสุเทพ ชี้แจงว่า ตนได้เตรียมการจัดประชุมอาเซียนซัมมิทที่พัทยาตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. และเห็นว่าจำนวนเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจไม่เพียงพอ จึงหารือกับผู้ว่าฯจ. ชลบุรี นายกเทศมนตรี และส.ส.ในพื้นที่ เพื่อให้หาอาสาสมัครมาช่วยดูแลเส้นทางที่จะขึ้นไปยังโรงแรมรอยัลคลิฟ บีช ซึ่งมีถึง 7-8 เส้นทาง ซึ่งอาสาสมัครนั้นใส่เสื้อหลายสีไม่ได้ใส่เฉพาะเสื้อสีน้ำเงินอย่างเดียว ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจนั้นใส่เครื่องแบบและมีเพียงกระบองกับโล่เท่านั้น ส่วนในพื้นที่กทม.นั้นรัฐบาลไม่รู้ไม่เห็นว่ามีอาสาสมัครมาช่วยหรือไม่ แต่เท่าที่เห็นมีเพียงเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิต่างๆ เท่านั้น
นายพร้อมพงศ์ ถามขึ้นว่า นายเนวินเข้ามาเกี่ยวข้องได้อย่างไร เพราะสื่อมวลชนมีการรายงานความเคลื่อนไหวของนายเนวินที่ยืนสั่งการคู่กับนายสุเทพพรัอมกับนายทหารระดับสูงที่ดูแลพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ด้วย โดยนายสุเทพ กล่าวว่า ตนพบกับนายเนวินระหว่างที่เดินตรวจเส้นทางจริง และมีส.ส.ที่เป็นห่วงสถานการณ์หลายคน รวมทั้งนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็เข้าไปในพื้นที่เหมือนกัน เพียงแต่สื่อมวลชนไม่ได้ถ่ายรูปไว้ว่ามีใครบ้าง ยืนยันว่าตนไม่ได้เดินทางไปพร้อมกับนายเนวิน และนายเนวินก็ไม่ได้เป็นอาสาสมัคร ส่วนมีนายทหารท่านใดอยู่ที่นั่นบ้างหรือไม่นั้นตนจำไม่ได้ แต่ยืนยันว่าไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐหรืออาสาสมัครถืออาวุธใดๆ ทั้งสิ้น
นอกจากนี้ นายสุเทพ ยังกล่าวด้วยว่า ยืนยันว่าการสลายการชุมนุมทั้งที่กทม.และพัทยานั้น ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ได้รับรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 13 คน ซึ่งไม่ได้เกิดจากอาวุธหนักใดๆ ทั้งสิ้น แต่เกิดจากอาวุธปืน 9 มม. ปืนพกสั้น และปืนลูกซอง ส่วนผู้สูญหายนั้นได้รับแจ้งว่ามี 4 คน และขณะนี้พบแล้ว 1 คน ส่วนอีก 3 คน กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ภายหลังชี้แจงนายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนมาทำหน้าที่ในการชี้แจง เพราะได้ยืนยันตั้งแต่ต้นว่ารัฐบาลจะให้ความร่วมมือในการหาข้อเท็จจริงต่างๆ ของคณะกรรมการ เพราะฉะนั้นตนก็จะได้ชี้แจงทุกคำถาม พยายามให้ครบถ้วนที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนการทำงานของคณะกรรมการก็เป็นดุลพินิจของคณะกรรมการเอง ตนคงไม่ก้าวล่วงตรงนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ภาพที่ออกมาคือคนของตัวเองเป็นตัวแทนเข้ามาทำให้เกิดการโต้เถียงกันมากกว่าที่จะหาข้อเท็จจริง นายกฯ กล่าวว่า ตนพยายามตอบในเรื่องของข้อเท็จจริงให้มากที่สุด และในส่วนของตนคือฝ่ายนโยบายก็ชี้แจงในเรื่องของการกำหนดนโยบายต่างๆ แล้วก็การตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเราได้ทำอะไร
“ถือว่าผมได้ทำหน้าที่ของผมแล้ว แล้วก็ขอให้ทางคณะกรรมการได้พิจารณาและหาข้อสรุปมาเพื่อให้สังคมมีความสบายใจ ส่วนคณะกรรมการจะใช้เวลาในการพิจารณานานหรือไม่ก็ต้องถามคณะกรรมการ เพราะว่าผมไม่ได้เป็นคนกำหนดขั้นตอนในการทำงาน ก็เข้าใจว่าเขาอยู่ในช่วงของการเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง นอกจากผมวันนี้ก็จะมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ส่วนอื่นๆ ครับ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าคณะกรรมการควรจะมีข้อสรุปหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องถามท่านประธานว่าท่านจะมีวิธีการทำงานและข้อสรุปอย่างไร ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์กับสังคมควรเสนอข้อเท็จจริงให้มากที่สุด ถ้ามีข้อเท็จจริงแล้วยังมีข้อสังเกตหาข้อยุติไม่ได้ก็อาจจะว่าไปตามนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 12.30 น. ภายหลังจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เสร็จสิ้นจากการชี้แจงการปฏิบัติต่อกลุ่มคนเสื้อแดง ต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองเมื่อวันที่ 8-13 เม.ย. ปรากฏว่า นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้นำนางศิริมน มาเพชร มารดาของพลทหารอภินพ เครือสุข ที่เสียชีวิตในห้องน้ำบ้านแม่ทัพภาคที่ 1 มายืนรอพบและจะยื่นหนังสือต่อนายอภิสิทธิ์ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้เชิญนางศิริมนไปคุยในห้องของนายกรัฐมนตรีบนชั้น 2 ของอาคารรัฐสภาเป็นการส่วนตัว ซึ่งนายพร้อมพงศ์ได้ถามนายกฯ ว่าจะต้องให้ตนไปด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์บอกว่าไม่ต้อง