รัฐสภาถกปัญหาวิกฤตชาติไร้ทางออก แค่เปิดเวทีโยนความผิดใส่กัน เสื้อแดงใส่สูท ป้ายสีรัฐบาล-ทหารร่วมมือทำร้ายเสื้อแดงมือเปล่า อ้างสองมาตรฐาน ระบุเป็นรัฐบาลอุ้มมือทหาร มือเปื้อนเลือด ด้าน อภิสิทธิ์-สุเทพ จับมือโต้ทันควัน " เทพเทือก" ป้อง "เนวิน" ไม่เกี่ยวเหตุการณ์สลายม็อบ ด้าน ส.ว.แนะดึงประชาคมร่วมแก้วิกฤตสมานฉันฑ์
การประชุมร่วมของรัฐสภา เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับวิกฤตการเมืองที่กำลังเกิดขึ้น วานน (22 เม.ย.) เริ่มเวลา 10.00 น. โดยมีนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน ขอเปิดอภิปรายทั่วไป ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ตามมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาร์คแจงสถานการณ์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงต่อที่ประชุม โดยลำดับเหตุการณ์การชุมนุมเรียกร้องทางการเมือง ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จนถึงมีการใช้ความรุนแรงมากขึ้นในการชุมนุม วันที่ 7 เม.ย. จนต้องมีการประกาศภาวะฉุกเฉิน ที่เมืองพัทยา และวันที่ 9 เม.ย. ที่มีการปิดเส้นทางการจราจร หลายเส้นทางใน กทม. ต่อมามีการกระทำผิดกฎหมาย มีการตั้งค่าหัว ล่าคนในรัฐบาล และใช้ความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินใน กทม. และปริมณฑล
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันที่ 12 เม.ย. ได้ไปแถลงการประกาศภาวะฉุกเฉินที่กระทรวงมหาดไทย เมื่อแถลงเสร็จ กำลังจะเดินทางกลับก็มีกลุ่มผู้ชุมนุม จำนวนหนึ่งเข้าทำทำร้าย หรือพยายามฆ่าตน แต่ในที่สุดตนก็สามารถออกมาได้ แล้วมาประชุมกับฝ่ายความมั่นคงร่างๆ
ตลอดคืนวันที่ 12 เม.ย. ได้ประเมินกันว่าผู้ชุมนุมจะออกปฏิบัติการณ์ในพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพฯ ผมได้ทำความเข้าใจกับผู้ปฏิบัติทุกคนว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง หรือความขัดแย้งทางการเมือง แต่มีจุหมายเพื่อนำบ้านเมืองกลุ่มสู่ภาวะปกติ เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องปฏิบัติอย่างโปร่งใส และต้องทำทุกวิถีทางไม่ให้เกิดความสูญเสีย โดยเฉพาะต่อร่างกายพี่น้องประชาชน และทรัพย์สิน และให้สื่อทั้งในและต่างประเทศเข้าสังเกตุการณ์ได้ หากมีปัญหาปะทะ บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปดูแลทุกคนทุกฝ่าย ฉะนั้นจะเห็นว่าการปฏิบัติการที่เริ่มตั้งแต่เข้ามืดวันที่ 13 เม.ย. บริเวณแยกดินแดงต่อเนื่องตลอดทั้งวันหลายจุดในกรุงเทพฯ ผู้เกี่ยวข้องได้รายงานข้อเท็จจริงทั้งหมด จนในที่สุดสถานการณ์ก็คลี่คลาย เหลือเพียงผู้ชุมนุมบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คืนวันที่ 13 เม.ย.มีการประชุมฝ่ายความมั่นคง เพื่อตัดสินใจว่าจะดำเนินการอะไรต่อไป ที่สุดจึงตัดสินใจว่าจะไม่สลายการชุมนุมบริเวณ รอบทำเนียบฯ เนื่องจากกังวลว่าอาจนำไปสู่ความสูญเสีย โดยให้ตรึงสถานการณ์รอบๆทำเนียบฯไว้ แล้วเคลื่อนกำลังพลและบุคลากรต่างๆ เข้าไปประชาสัมพันธ์เพื่อขอให้ผู้ชุมนุมสลายการชุมนุม ต่อมาผู้ชุมนุมจึงยอมยุติ แต่ก็ยังมีส่วนหนึ่งที่ยังชุมนุมต่อเนื่องในบางพื้นที่ เช่นที่สนามหลวง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ไปพูดคุยให้ทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ
ยันดำเนินการอย่างโปร่งใส
ผมยืนยันว่าเหตุการณ์ทั้งหมดดำเนินไปอย่างโปร่งใส และเป็นไปตาม นโยบายที่ผมได้มอบไว้กับฝ่ายปฏิบัติ เหตุการณ์ทั้งหมดมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งเกิดขึ้นจากการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับประชาชนในชุมชนนางเลิ้ง ไม่ใช่เกิดจากการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ซึ่งพวกเราทุกคนกรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนผู้บาดเจ็บจากกระสุนปืนนั้น มีทหาร 4 นาย ประชาชน 2 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบกระสุนพบว่าไม่ใช่เป็นของเจ้าหน้าที่ที่ใช่ในการปฏิบัติการ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนที่มีการพบศพ 2 ศพ ลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา จากการตรวจสอบทั้ง 2 ยังมีชีวิตอยู่ในคืนวันที่ 13 เม.ย. และจากการสืบสวนพบว่า บุคคลทั้ง 2 ในช่วงสุดท้ายก่อนเสียชีวิตนั้น ไม่ได้เข้าไปร่วมชุมนุมแต่ประการใด
อย่าง ไรก็ตาม ตนทราบดีว่าอาจจะมีข้อสงสัย อาจจะมีข้อมูลจากส่วนต่าง ๆ ซึ่งย่อมจะเป็นสิทธิของพี่น้องประชาชนหรือเพื่อนสมาชิกในการที่จะสอบถามได้ ดังนั้นส่วนหนึ่งของการขอเปิดประชุมตาม มาตรา 179 ในวันนี้ ก็เป็นการเปิดโอกาส ให้ท่านนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ มาสอบถามเพื่อที่เราจะได้ช่วยกันตรวจสอบและก็หาข้อเท็จจริงเพื่อชี้แจงประชาชนต่อไป
ระบุมีการตัดต่อภาพหวังปลุกระดม
จากนี้ไปผมก็ได้ให้นโยบายชัดเจนครับ นับตั้งแต่การปฏิบัติการต่าง ๆ สิ้นสุดลง ผมบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีฝ่ายใดทางการเมืองชนะ แต่เป็นเรื่องของการนำ ความสงบสุขกลับคืนมาเพื่อที่จะเอาเวลา มาพูดคุยกันถึงทางออกในการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ในสังคมของเราต่อ ไป
นายอภิสิทธิ์ อภิปรายแสดงความเป็นห่วงว่าในช่วง 2-3 วันมานี้มีการ เคลื่อนไหวของคนบางกลุ่มอ้างอิงภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว ซึ่งต่อมาปรากฏชัดเจนตามที่สถานีโทรทัศน์บางช่องเสนอไปก็คือว่าไม่ได้ตรงกับความเป็นจริง ลักษณะอย่างนี้อันตราย เพราะมีความพยายามของคนบางกลุ่มที่จะอาศัยเงื่อนไขนี้ เพื่อ ปลุกระดมให้สภาพของบ้านเมืองเราย้อนกลับไปเหมือนกับในช่วงก่อนวันสงกรานต์ ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าคนที่มีจิตใจเป็นประชาธิปไตยนั้นย่อมไม่คิดอ่านที่จะทำ เช่นนั้น และจะไม่เป็นผลดีกับฝ่ายใด และยิ่งจะมีความสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียเลือดเนื้อของพี่น้องประชาชนคนไทย ด้วยกัน และที่สำคัญคือสุ่มเสี่ยงต่อการที่เราจะสูญเสียประชาธิปไตย
ห่วงให้สัมภาษณ์จาบจ้วงสถาบัน
ยิ่งไปกว่านั้น การให้สัมภาษณ์ของบุคคลต่อสื่อต่างประเทศบางส่วน ได้พยายามที่จะขยายวงความขัดแย้งตรงนี้ออกไปเพิ่มเติม เมื่อวานนี้ (21 เม.ย.) มีกรณีการให้สัมภาษณ์ที่ไม่เหมาะสมไม่บังควรอย่างยิ่ง จวบจ้วงถึงสถาบันและองค์พระมหากษัตริย์ ซึ่งผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราทุกคนจะช่วยกันยุติการกระทำเช่นนั้น เพราะสถาบันดังกล่าวอยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง
นอกจากนี้ยังมีแกนนำผู้ชุมนุมคนหนึ่งที่ให้สัมภาษณ์ว่า ต่อไปการชุมนุมจะเปลี่ยนรูปแบบ พูดถึงการใช้อาวุธและการใช้ความรุนแรง จึงขอเชิญชวนผู้แทนปวงชนชาไทยทุกคน ช่วยกันปฏิเสธแนวทางนี้ และหวังว่าการที่รัฐบาลใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญ ช่องทางตามระบบรัฐสภานี้จะทำให้เพื่อนสมาชิก ทุกคนที่เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยนั้น ได้ช่วยกันหาทางออกให้บ้านเมือง รัฐบาลพร้อมรับฟัง และชี้แจงข้อเท็จจริงต่าง ๆ ต่อไป
พท.เรียงหน้าอัด รัฐบาลมือเปื้อนเลือด
จากนั้นสมาชิกทั้งสองสภาต่างลุกขึ้นอภิปรายแสดงความคิดเห็นกันกว้างขวาง โดยในส่วนของพรรคฝ่ายค้านพุ่งเป้าไปในเชิงตำหนิการปฏิบัติงานของรัฐบาลต่อการ สลายการชุมนุม โดยพยายามให้เห็นว่า กลุ่มเสื้อแดงที่ทำการประท้วงครั้งนี้เป็นผู้บริสุทธิ์ และ ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ แต่รัฐบาลได้ทำการกระทำอย่างรุนแรงจนทำให้มีประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุม ของทหาร และตำหนิต่อการตัดสินใจใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศเป็นอย่างมาก กล่าวหารัฐบาลปฏิบัติสองมาตรฐาน และนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวินร่วมมือในการสลายกลุ่มเสื้อแดงด้วย
ทวงถามมีคนนอก ครม.มีเอี่ยว
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย อภิปรายว่าเหตุใด จึงไม่คิดใช้เวทีสภาฯในการแก้ไขปัญหาก่อนที่จะเกิดความรุนแรง ทั้งที่ฝ่ายค้านได้พยายามเสนอญัตติแต่ประธานสภาฯก็ชิงปิดสภาฯหนี ที่สำคัญกลับมี ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ตะโกนหลายครั้งในสภาฯว่าฝ่ายค้านเป็นพวกล้มล้างสถาบัน การกล่าวหาเช่นนี้เป็นสิ่งที่พวกตนยอมรับไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีความพยายามระดมประชาชนให้ใส่เสื้อสีน้ำเงินมาร่วมงานในวันฉัตรมงคล ปัญหาจึงยังมีอยู่ ดังนั้น ขอนายกรัฐมนตรีว่ามีบุคคลนอกคณะรัฐมนตรีคนหนึ่ง ที่ไม่ได้อยู่ในรัฐบาลเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยมีภาพ ปรากฎอยู่ในคลิปวิดีโอ จนเป็นเหตุการณ์ให้เกิดวิกฤตทางการเมืองตามมา และนายสุเทพ ที่เป็นรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง นำหลักฐานอะไรมาแถลงผ่านโทรทัศน์ว่ าคนที่ยิง เอ็ม79ใส่ ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นฝีมือของกลุ่ม นปช.เพราะการพูดเช่นนี้ เป็นการเติมน้ำมันบนลงกองไฟ
อ้างรัฐบาลจัดฉากดึงเสื้อแดงรับแพะ
นาย สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอประณามนายกฯ ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายขึ้น เพราะนายกฯ ได้แถลงและมีเอกสารลงนามโดยยอมรับว่า มีกลุ่มอาสาสมัครมาร่วมในเหตุการณ์ด้วย ขณะที่มีภาพคนเสื้อแดงเข้ามาช่วยอุ้มนายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ เลขาธิการนายกฯ ออกจากรถ ข่าวว่าซี่โครงหัก แต่พอวันที่ 17 เม.ย. นายนิพนธ์กลับวิ่งขึ้นบันไดตึกไทยคู่ฟ้า เนียบรัฐบาลได้อย่างคล่องแคล่ว ส่วนกลุ่มโจรที่อ้างว่าเตรียมก่อวินาศกรรมที่ตึกซีพีและธนาคารกรุงเทพ ถนนสีลมนั้น รับสารภาพว่ารับค่าจ้างเพียง 5 พันบาท ต้องเรียกว่าเป็นโจรกระจอก และรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุก็ทะเบียนบุรีรัมย์ สำหรับรถเมล์ที่เอาออกมา 30-40 คัน ไม่ทราบวิ่งเข้ามาในเมืองได้อย่างไร เพราะมีด่านทหารและตำรวจตรวจตราอย่างเข้มงวด ส่วนคนขับรถแก๊สนั้นแดงปลอม เพราะคนเสื้อแดงขับรถแก๊สไม่เป็น “ถ้าเป็นผมจะระเบิดแม่ง ไม่เอาไว้ มันเป็นการจัดฉากทั้งนั้น รัฐบาลสั่งสลายการชุมนุมทำให้มีคนตายจำนวนมาก แต่วันนี้ถูกทหารนำศพไปเผาหมดแล้ว นายกฯ และรัฐบาลสั่งฆ่าประชาชนอย่างโหดเหี้ยม ดังนั้นขอให้นายกฯ ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน”
พ.ต.ท สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส. นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลกับทหาร รู้เห็นเป็นใจ ต่างเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะการจัดสรรงบประมาณล่าสุด 53,990 ล้านบาท ทางกองทัพไม่มีการประมูลแข่งขันกันเลย บางบริษัทไม่เคยยื่นประมูล ทั้งนี้หากรัฐบาลยังอยู่ใต้กลุ่มอำนาจทหารบางกลุ่มคงไม่ได้ เพราะอาวุธบางอย่างกองทัพไม่ต้องการ แต่เป็นความต้องการของผู้นำกองทัพบางคน วันนี้รัฐบาลทำอะไรไม่ได้เลย เพราะท่านมาจากทหาร นายกฯคือจ๊อกกี้ กองทัพคือม้า
สำหรับการสลายการชุมนุมกำลังทหารที่ขนมายิ่งกว่าการปฏิวัติ อาวุธครบมือ กระสุนจริง เพราะดูจากสภาพบาดแผล เหวอะหวะ และปลอกกระสุนที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ไม่ใช่เป็นกระสุนลูกกระดาษ แบบที่พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก หรือ โฆษกม้าตัวเมียกล่าวอ้าง ตนไม่อยากประณามนายกฯว่ามือเปื้อนเลือด ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้ทหารกลับกรม กอง ปล่อยให้การเมืองเจรจากับการเมืองเอง
นอกจากนี้ ยังกล่าวได้ตั้งคำถามถึงรัฐบาลว่ารู้เห็นเป็นใจกับกลุ่มเสื้อสีน้ำเงิน ที่พัทยา หรือไม่ เพราะมีคนเห็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับฝ่ายความมั่นคง ไปร่วมประชุมกับนายตำรวจ ที่ศาลากลางเมืองพัทยา และอยากถามว่ามีการขว้างระเบิดควัน เข้าไปในกลุ่มเสื้อแดง โดยอาวุธชนิดนี้ใช้ในราชการเท่านั้น ถือเป็นยุทธภัณฑ์ คนเสื้อน้ำเงินเอามาจากไหน
เป็ดเหลิมตั้งฉายา รัฐบาลลาขึ้นรถ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า นายกฯได้อำนาจมาโดยไม่ชอบธรรมไม่อายบ้างหรือ วันนี้ต้องรู้สำนึกได้แล้วว่า ได้มาเป็นนายกฯเพราะใคร ที่วันนี้ตนต้องเรียงลำดับย้อนเหจตุการณ์เพราะต้องการให้ทุกฝ่ายรู้สำนึกซึ่งกันและกัน เท่าที่เห็น มาตรฐานการสั่งดำเนินคดีกับคนเสื้อแดงทั้งนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ และนายวีระ มุสิกพงษ์ แต่ไม่มีการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตร ฯ อีกทั้งการดำเนินการภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องมีหลักการคือ ต้องขอศาลก่อนคุมตัวขัง และมีกำหนดระยะเวลาในการกักขังไม่เกิน 30 วัน กักขังครั้งละ 7 วัน หากไม่มีข้อกล่าวหาอื่นก็ต้องปล่อยตัวภายใน 7 วัน แต่มาครั้งนี้ผิดปกติคือ ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาและไม่มีการปล่อยตัว รวมทั้ง เมื่อมีการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉบับนี้แล้ว ภายใน 15 วัน นายอภิสิทธิ์ ก็ยังไม่นำเข้ามายังครม.และไม่ได้ยกเลิก แสดงให้เห็นว่า เป็นเหมือนลักษณะการใช้อำนาจของคณะปฏิวัติ ในอดีต ที่เที่ยวนำคนมาขัง และ การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใจกลางเมือง อยากถามไปยังนายกฯ ว่าใช้ส่วนไหนคิด เพราะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของไทยเป็นอย่างมาก ขอท้าไปยังนายอภิสิทธิ์ว่า แน่จริงอย่าเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้คงไว้ ประเทศจะได้ฉิบหาย ฉะนั้นจึงขอตั้งฉายารัฐบาลนี้ว่า รัฐบาล ลาขึ้นรถ ที่จะดึงที่หัว ก็ถอยหลัง หรือถ้าดึงที่ก้น ก็เดินหน้า ซึ่งเสมือนกับว่า เป็นการไม่ฟังใคร
อัดรัฐบาลปั้นสถานการณ์ยิงมัสยิด
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า กรณีการชุมนุมของคนเสื้อแดง ที่มีทั้งการยิงมัสยิด การเผารถเมล์ การนำรถแก๊สเช้ามา ขอเรียนว่า เรื่องนี้ เป็นการสร้างสถานการณ์ เพื่อสร้างความชอบธรรมในการสลายการชุมนุม เพราะต้องเข้าใจว่า การใส่เสื้อสีแดงนั้นง่ายมาก แค่ใส่แล้วก็ถอดออก นอกจากนี้ อยากทวงถามไปยังรัฐบาลว่า จะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านชี้แจงที่ ช่อง 11 เมื่อไหร่ เพราะตอนตั้งรัฐบาลใหม่ๆ ก็มีการสัญญาไว้ หรือขอท้านาย อภิสิทธิ์ มาดีเบตด้วยกัน จะให้เวลาตนกี่นาทีก็ได้ ไม่มีปัญหา
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า กรณีแกนนำกลุ่มเสื้อแดง 19 คน ที่ถูกจับตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไปให้มาที่พรรคเพื่อไทย โดยทางพรรคจะให้ทีมกฏหมายพรรค ทำการฟ้องรัฐบาลให้หมด และที่ตำรวจอ้างว่า ที่จับกุม เนื่องจากจับตามประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น ถามว่า การจับกุมตอนตี 4 แล้วไปขออนุญาตหมายศาลตอนไหน เพราะที่ทำการศาลปิดอยู่ และอยากถามว่า เอาอำนาจอะไร มาทำ หรือว่า นายอภิสิทธิ์ มีอำนาจจะทำอะไรก็ได้ หรือหากใช้การจับกุมโดยกฏหมาย ป.วิอาญา ม.80 ก็จะต้องแจ้งให้ผู้ต้องหาทราบก่อน แต่ก็ไม่มี การแจ้งมาก่อน กลับจับไปกักขังที่จ.สระบุรี เลย ถือว่า เป็นการกระทำที่อัปยศที่สุด
ส.ว.ตำหนิไม่ใช้สื่อในมือทำปชช.สับสน
ด้านสมาชิกวุฒิสภา เช่น นายตวง อันทะไชย ส.ว.สัดส่วน เสนอทางออกว่า ควรจะใช้วิกฤติการเมืองขณะนี้เป็นโอกาสกอบกู้ฟื้นฟูประเทศ ทั้งการทบทวนการทำงานของหน่วยงานด้านความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็น สตช นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าสังเกตว่าหน่วยข่าวกรองยังไม่มีประสิทธิภาพหรือ รัฐบาลไม่ได้ใช้ข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองจึงทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น ซึ่งควรปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยผู้นำประเทศให้เป็นมืออาชีพเพิ่มมากขึ้นเพราะที่เหตุการณ์ที่ผ่านมาสร้างความอับอายไปทั่วโลก
นอกจากนี้ควรเสริมสร้างสังคมสันติสุข โดยใช้เครือข่ายภาคประชาสังคมที่รัฐบาลมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรเอกชนที่ทำงานอยู่แล้ว เช่น สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา สำนักสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และตั้งกองทุนสร้างเสริมสมานฉันท์ให้เสร็จภายใน 6 เดือนเพื่อให้มีงบประมาณนำไปใช้จ่ายในการแก้ปัญหาให้สำเร็จลุล่วง รวมไปถึง ยังต้องปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ใหม่ เพราะประชาธิปไตยไม่สามารถเรียนรู้ได้ในห้องเรียน
น.ส.สุวิมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว. จันทบุรี กล่าวตำหนิการใส้สื่อของรัฐ ว่ารัฐบาลอาจไม่ต้องใช้กำลังพลจำนวนมากเลย เพียงแต่ใช้สื่อของรัฐที่มีอยู่ให้ประชาชนได้รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่จริงจึงขอ ติติงว่าทำงานล่าช้า ประชาชนจะตัดสินใจเองว่าอะไรคืออะไร แต่รัฐบาลไม่ได้ทำ หรือทำแต่ล่าช้า จนทำให้ประชาชนรับข้อมูลคลาดเคลื่อนและ นำไปสู่ความแตกแยกของประเทศ รัฐบาลต้องหันกลับไปทบทวนบทบาทการบริหารของสื่อรัฐทำอย่างไรให้ขับเคลื่อนรวดเร็ว เพิ่มพื้นที่ข่าวให้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ และนาย สุเทพ ได้ลุกขึ้นชี้แจงสมาชิกรัฐสภาแบบ คนต่อคน โดยนาย อภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า เรื่องสองมาตรฐาน หลายเรื่องไม่ได้เกิดในสมัยที่ตนเป็นรัฐบาล และไม่ควรจะให้เกิดสีอื่นขึ้นมาอีกในสังคมไทย ส่วนเรื่องที่มีบุคคล นอกครม.เข้ามาเกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาด้านความมั่นคงนั้น นายสุเทพ เป็นผู้ดูแลและจะเป็นผู้ตอบคำถามนี้เอง ตนมารับผิดชอบด้านความมั่นคงภายหลังจากมีการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว รัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดกลุ่มมวลชนเพื่อทำให้สถานการณ์ยุ่งยากมากขึ้น จนถึงวันนี้ยังไม่มีผู้ป่วยรายใดได้รับบาดเจ็บจากอาวุธสงคราม
เทพเทือกยันใช้กระสุนปลอม
นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจง พร้อมฉายภาพ วีทีอาร์ถึงข้อแตกต่างระหว่างกระสุนจริงและกระสุนซ้อม โดยระบุว่ากำลังพลของทหารส่วนใหญ่ใช้กระสุนซ้อม ซึ่งในวีดีโอได้แสดงให้เห็นถึงการใช้กระสุนซ้อมกับปืนเอ็ม16 ที่จะมีทั้งการใส่อแดปเตอร์และที่ไม่ใส่อแดปเตอร์ แต่บางหน่วยงานจะได้นำพานท้ายปลอกกระสุนมาสวมไว้บริเวณปลายกระบอกปืนเพื่อแทนอแดปเตอร์ เพื่อให้การยิงต่อเนื่องโดยไม่ต้องสับไกปืน และได้ฉายตัวอย่างงการยิงกระสุนปลอม เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่สามารถทำให้เป้ากระดาษให้ขาดได้มีแต่เสียงดังเท่านั้น
นายสุเทพยืนยันว่ากลุ่มเสื้อแดงมีอาวุธโดยตรวจพบระเบิดมือ และที่กล่าวหาว่ารัฐบาลจัดฉากที่กระทรวงมหาดไทยภาพชัดเจนว่าเสื้อแดงทำร้ายรถนายกฯและนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลไม่สามารถจัดฉากได้ ส่วนเหตุการณ์ที่พัทยาตนเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถยับยั้งกลุ่มเสื้อแดงที่จะบุกรุกเข้าที่ประชุมอาเซียน จึงได้มีการปรึกษาหารือ โดยหน่วยงานในจังหวัดและนายกเมืองพัทยาบอกว่าจะชักชวนประชาชนที่ต้องการเห็นความเรียบร้อยและความสำเร็จของการประชุมมายืนเป็นเพื่อนตำรวจและทหารเท่านั้น
นาย สุเทพ ยังโต้ ร.ต.อ.เฉลิมกรณี การใช้พ.ร.ก.ว่า มีความจำเป็นที่ต้องใช้ เพราะ.มีกลุ่มผู้ชุมนุมไปบีบบังคับศาลอาญาให้ปล่อยตัวนายอริสมันต์ และยังมีการ ปิดการจราจรที่บริเวณสี่แยกดินแดงและอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ชุมนุม ก็ได้บุกไปใช้ความรุนแรงที่พัทยามาแล้ว ผู้ที่บุกรุกเข้าไปในโรงแรม ไม่ได้เข้าไปแล้วถอยกลับแต่ยังควบคุมการเข้าออกของโรงแรมจนถึงช่วงเย็นวันที่ 11 เม.ย.จนทำให้ผู้นำของหลายประเทศต้องขึ้นดาดฟ้าเพื่อขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ออกจากโรงแรม ขณะที่อีกหลายประเทศต้องรอจนค่ำจึงจะออกจากโรงแรมได้ เหตุการณ์ทั้งหมดจึงไม่ได้เป็นดังที่ร.ต.อ.เฉลิมเสียดสี
ถือเป็นครั้งแรกที่การประชุมระดับนานาชาติต้องล้มเหลวไม่เป็นท่า เมื่อศาลอนุมัติออกหมายจับนายอริสมันต์และเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวแล้วนายอริสมันต์ยังใช้มือล็อคคอนักบินจนต้องนำเครื่องลงฉุกเฉิน กรณีการจับกุมผู้ต้องหาตอนตี4 เจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้วว่าเป็นความผิดซึ่งหน้าจับได้ทันที เหตุที่ต้องนำไปขังไว้ที่สระบุรีเพราะไม่ต้องการให้ชิงตัวผู้ต้องหา ได้ทำทุกอย่างตามที่กฎหมายได้ให้อำนาจไว้
การประชุมร่วมของรัฐสภา เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับวิกฤตการเมืองที่กำลังเกิดขึ้น วานน (22 เม.ย.) เริ่มเวลา 10.00 น. โดยมีนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน ขอเปิดอภิปรายทั่วไป ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ตามมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาร์คแจงสถานการณ์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงต่อที่ประชุม โดยลำดับเหตุการณ์การชุมนุมเรียกร้องทางการเมือง ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จนถึงมีการใช้ความรุนแรงมากขึ้นในการชุมนุม วันที่ 7 เม.ย. จนต้องมีการประกาศภาวะฉุกเฉิน ที่เมืองพัทยา และวันที่ 9 เม.ย. ที่มีการปิดเส้นทางการจราจร หลายเส้นทางใน กทม. ต่อมามีการกระทำผิดกฎหมาย มีการตั้งค่าหัว ล่าคนในรัฐบาล และใช้ความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินใน กทม. และปริมณฑล
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันที่ 12 เม.ย. ได้ไปแถลงการประกาศภาวะฉุกเฉินที่กระทรวงมหาดไทย เมื่อแถลงเสร็จ กำลังจะเดินทางกลับก็มีกลุ่มผู้ชุมนุม จำนวนหนึ่งเข้าทำทำร้าย หรือพยายามฆ่าตน แต่ในที่สุดตนก็สามารถออกมาได้ แล้วมาประชุมกับฝ่ายความมั่นคงร่างๆ
ตลอดคืนวันที่ 12 เม.ย. ได้ประเมินกันว่าผู้ชุมนุมจะออกปฏิบัติการณ์ในพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพฯ ผมได้ทำความเข้าใจกับผู้ปฏิบัติทุกคนว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง หรือความขัดแย้งทางการเมือง แต่มีจุหมายเพื่อนำบ้านเมืองกลุ่มสู่ภาวะปกติ เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องปฏิบัติอย่างโปร่งใส และต้องทำทุกวิถีทางไม่ให้เกิดความสูญเสีย โดยเฉพาะต่อร่างกายพี่น้องประชาชน และทรัพย์สิน และให้สื่อทั้งในและต่างประเทศเข้าสังเกตุการณ์ได้ หากมีปัญหาปะทะ บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปดูแลทุกคนทุกฝ่าย ฉะนั้นจะเห็นว่าการปฏิบัติการที่เริ่มตั้งแต่เข้ามืดวันที่ 13 เม.ย. บริเวณแยกดินแดงต่อเนื่องตลอดทั้งวันหลายจุดในกรุงเทพฯ ผู้เกี่ยวข้องได้รายงานข้อเท็จจริงทั้งหมด จนในที่สุดสถานการณ์ก็คลี่คลาย เหลือเพียงผู้ชุมนุมบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คืนวันที่ 13 เม.ย.มีการประชุมฝ่ายความมั่นคง เพื่อตัดสินใจว่าจะดำเนินการอะไรต่อไป ที่สุดจึงตัดสินใจว่าจะไม่สลายการชุมนุมบริเวณ รอบทำเนียบฯ เนื่องจากกังวลว่าอาจนำไปสู่ความสูญเสีย โดยให้ตรึงสถานการณ์รอบๆทำเนียบฯไว้ แล้วเคลื่อนกำลังพลและบุคลากรต่างๆ เข้าไปประชาสัมพันธ์เพื่อขอให้ผู้ชุมนุมสลายการชุมนุม ต่อมาผู้ชุมนุมจึงยอมยุติ แต่ก็ยังมีส่วนหนึ่งที่ยังชุมนุมต่อเนื่องในบางพื้นที่ เช่นที่สนามหลวง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ไปพูดคุยให้ทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ
ยันดำเนินการอย่างโปร่งใส
ผมยืนยันว่าเหตุการณ์ทั้งหมดดำเนินไปอย่างโปร่งใส และเป็นไปตาม นโยบายที่ผมได้มอบไว้กับฝ่ายปฏิบัติ เหตุการณ์ทั้งหมดมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งเกิดขึ้นจากการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับประชาชนในชุมชนนางเลิ้ง ไม่ใช่เกิดจากการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ซึ่งพวกเราทุกคนกรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนผู้บาดเจ็บจากกระสุนปืนนั้น มีทหาร 4 นาย ประชาชน 2 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบกระสุนพบว่าไม่ใช่เป็นของเจ้าหน้าที่ที่ใช่ในการปฏิบัติการ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนที่มีการพบศพ 2 ศพ ลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา จากการตรวจสอบทั้ง 2 ยังมีชีวิตอยู่ในคืนวันที่ 13 เม.ย. และจากการสืบสวนพบว่า บุคคลทั้ง 2 ในช่วงสุดท้ายก่อนเสียชีวิตนั้น ไม่ได้เข้าไปร่วมชุมนุมแต่ประการใด
อย่าง ไรก็ตาม ตนทราบดีว่าอาจจะมีข้อสงสัย อาจจะมีข้อมูลจากส่วนต่าง ๆ ซึ่งย่อมจะเป็นสิทธิของพี่น้องประชาชนหรือเพื่อนสมาชิกในการที่จะสอบถามได้ ดังนั้นส่วนหนึ่งของการขอเปิดประชุมตาม มาตรา 179 ในวันนี้ ก็เป็นการเปิดโอกาส ให้ท่านนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ มาสอบถามเพื่อที่เราจะได้ช่วยกันตรวจสอบและก็หาข้อเท็จจริงเพื่อชี้แจงประชาชนต่อไป
ระบุมีการตัดต่อภาพหวังปลุกระดม
จากนี้ไปผมก็ได้ให้นโยบายชัดเจนครับ นับตั้งแต่การปฏิบัติการต่าง ๆ สิ้นสุดลง ผมบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีฝ่ายใดทางการเมืองชนะ แต่เป็นเรื่องของการนำ ความสงบสุขกลับคืนมาเพื่อที่จะเอาเวลา มาพูดคุยกันถึงทางออกในการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ในสังคมของเราต่อ ไป
นายอภิสิทธิ์ อภิปรายแสดงความเป็นห่วงว่าในช่วง 2-3 วันมานี้มีการ เคลื่อนไหวของคนบางกลุ่มอ้างอิงภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว ซึ่งต่อมาปรากฏชัดเจนตามที่สถานีโทรทัศน์บางช่องเสนอไปก็คือว่าไม่ได้ตรงกับความเป็นจริง ลักษณะอย่างนี้อันตราย เพราะมีความพยายามของคนบางกลุ่มที่จะอาศัยเงื่อนไขนี้ เพื่อ ปลุกระดมให้สภาพของบ้านเมืองเราย้อนกลับไปเหมือนกับในช่วงก่อนวันสงกรานต์ ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าคนที่มีจิตใจเป็นประชาธิปไตยนั้นย่อมไม่คิดอ่านที่จะทำ เช่นนั้น และจะไม่เป็นผลดีกับฝ่ายใด และยิ่งจะมีความสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียเลือดเนื้อของพี่น้องประชาชนคนไทย ด้วยกัน และที่สำคัญคือสุ่มเสี่ยงต่อการที่เราจะสูญเสียประชาธิปไตย
ห่วงให้สัมภาษณ์จาบจ้วงสถาบัน
ยิ่งไปกว่านั้น การให้สัมภาษณ์ของบุคคลต่อสื่อต่างประเทศบางส่วน ได้พยายามที่จะขยายวงความขัดแย้งตรงนี้ออกไปเพิ่มเติม เมื่อวานนี้ (21 เม.ย.) มีกรณีการให้สัมภาษณ์ที่ไม่เหมาะสมไม่บังควรอย่างยิ่ง จวบจ้วงถึงสถาบันและองค์พระมหากษัตริย์ ซึ่งผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราทุกคนจะช่วยกันยุติการกระทำเช่นนั้น เพราะสถาบันดังกล่าวอยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง
นอกจากนี้ยังมีแกนนำผู้ชุมนุมคนหนึ่งที่ให้สัมภาษณ์ว่า ต่อไปการชุมนุมจะเปลี่ยนรูปแบบ พูดถึงการใช้อาวุธและการใช้ความรุนแรง จึงขอเชิญชวนผู้แทนปวงชนชาไทยทุกคน ช่วยกันปฏิเสธแนวทางนี้ และหวังว่าการที่รัฐบาลใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญ ช่องทางตามระบบรัฐสภานี้จะทำให้เพื่อนสมาชิก ทุกคนที่เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยนั้น ได้ช่วยกันหาทางออกให้บ้านเมือง รัฐบาลพร้อมรับฟัง และชี้แจงข้อเท็จจริงต่าง ๆ ต่อไป
พท.เรียงหน้าอัด รัฐบาลมือเปื้อนเลือด
จากนั้นสมาชิกทั้งสองสภาต่างลุกขึ้นอภิปรายแสดงความคิดเห็นกันกว้างขวาง โดยในส่วนของพรรคฝ่ายค้านพุ่งเป้าไปในเชิงตำหนิการปฏิบัติงานของรัฐบาลต่อการ สลายการชุมนุม โดยพยายามให้เห็นว่า กลุ่มเสื้อแดงที่ทำการประท้วงครั้งนี้เป็นผู้บริสุทธิ์ และ ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ แต่รัฐบาลได้ทำการกระทำอย่างรุนแรงจนทำให้มีประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุม ของทหาร และตำหนิต่อการตัดสินใจใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศเป็นอย่างมาก กล่าวหารัฐบาลปฏิบัติสองมาตรฐาน และนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวินร่วมมือในการสลายกลุ่มเสื้อแดงด้วย
ทวงถามมีคนนอก ครม.มีเอี่ยว
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย อภิปรายว่าเหตุใด จึงไม่คิดใช้เวทีสภาฯในการแก้ไขปัญหาก่อนที่จะเกิดความรุนแรง ทั้งที่ฝ่ายค้านได้พยายามเสนอญัตติแต่ประธานสภาฯก็ชิงปิดสภาฯหนี ที่สำคัญกลับมี ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ตะโกนหลายครั้งในสภาฯว่าฝ่ายค้านเป็นพวกล้มล้างสถาบัน การกล่าวหาเช่นนี้เป็นสิ่งที่พวกตนยอมรับไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีความพยายามระดมประชาชนให้ใส่เสื้อสีน้ำเงินมาร่วมงานในวันฉัตรมงคล ปัญหาจึงยังมีอยู่ ดังนั้น ขอนายกรัฐมนตรีว่ามีบุคคลนอกคณะรัฐมนตรีคนหนึ่ง ที่ไม่ได้อยู่ในรัฐบาลเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยมีภาพ ปรากฎอยู่ในคลิปวิดีโอ จนเป็นเหตุการณ์ให้เกิดวิกฤตทางการเมืองตามมา และนายสุเทพ ที่เป็นรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง นำหลักฐานอะไรมาแถลงผ่านโทรทัศน์ว่ าคนที่ยิง เอ็ม79ใส่ ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นฝีมือของกลุ่ม นปช.เพราะการพูดเช่นนี้ เป็นการเติมน้ำมันบนลงกองไฟ
อ้างรัฐบาลจัดฉากดึงเสื้อแดงรับแพะ
นาย สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอประณามนายกฯ ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายขึ้น เพราะนายกฯ ได้แถลงและมีเอกสารลงนามโดยยอมรับว่า มีกลุ่มอาสาสมัครมาร่วมในเหตุการณ์ด้วย ขณะที่มีภาพคนเสื้อแดงเข้ามาช่วยอุ้มนายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ เลขาธิการนายกฯ ออกจากรถ ข่าวว่าซี่โครงหัก แต่พอวันที่ 17 เม.ย. นายนิพนธ์กลับวิ่งขึ้นบันไดตึกไทยคู่ฟ้า เนียบรัฐบาลได้อย่างคล่องแคล่ว ส่วนกลุ่มโจรที่อ้างว่าเตรียมก่อวินาศกรรมที่ตึกซีพีและธนาคารกรุงเทพ ถนนสีลมนั้น รับสารภาพว่ารับค่าจ้างเพียง 5 พันบาท ต้องเรียกว่าเป็นโจรกระจอก และรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุก็ทะเบียนบุรีรัมย์ สำหรับรถเมล์ที่เอาออกมา 30-40 คัน ไม่ทราบวิ่งเข้ามาในเมืองได้อย่างไร เพราะมีด่านทหารและตำรวจตรวจตราอย่างเข้มงวด ส่วนคนขับรถแก๊สนั้นแดงปลอม เพราะคนเสื้อแดงขับรถแก๊สไม่เป็น “ถ้าเป็นผมจะระเบิดแม่ง ไม่เอาไว้ มันเป็นการจัดฉากทั้งนั้น รัฐบาลสั่งสลายการชุมนุมทำให้มีคนตายจำนวนมาก แต่วันนี้ถูกทหารนำศพไปเผาหมดแล้ว นายกฯ และรัฐบาลสั่งฆ่าประชาชนอย่างโหดเหี้ยม ดังนั้นขอให้นายกฯ ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน”
พ.ต.ท สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส. นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลกับทหาร รู้เห็นเป็นใจ ต่างเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะการจัดสรรงบประมาณล่าสุด 53,990 ล้านบาท ทางกองทัพไม่มีการประมูลแข่งขันกันเลย บางบริษัทไม่เคยยื่นประมูล ทั้งนี้หากรัฐบาลยังอยู่ใต้กลุ่มอำนาจทหารบางกลุ่มคงไม่ได้ เพราะอาวุธบางอย่างกองทัพไม่ต้องการ แต่เป็นความต้องการของผู้นำกองทัพบางคน วันนี้รัฐบาลทำอะไรไม่ได้เลย เพราะท่านมาจากทหาร นายกฯคือจ๊อกกี้ กองทัพคือม้า
สำหรับการสลายการชุมนุมกำลังทหารที่ขนมายิ่งกว่าการปฏิวัติ อาวุธครบมือ กระสุนจริง เพราะดูจากสภาพบาดแผล เหวอะหวะ และปลอกกระสุนที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ไม่ใช่เป็นกระสุนลูกกระดาษ แบบที่พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก หรือ โฆษกม้าตัวเมียกล่าวอ้าง ตนไม่อยากประณามนายกฯว่ามือเปื้อนเลือด ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้ทหารกลับกรม กอง ปล่อยให้การเมืองเจรจากับการเมืองเอง
นอกจากนี้ ยังกล่าวได้ตั้งคำถามถึงรัฐบาลว่ารู้เห็นเป็นใจกับกลุ่มเสื้อสีน้ำเงิน ที่พัทยา หรือไม่ เพราะมีคนเห็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับฝ่ายความมั่นคง ไปร่วมประชุมกับนายตำรวจ ที่ศาลากลางเมืองพัทยา และอยากถามว่ามีการขว้างระเบิดควัน เข้าไปในกลุ่มเสื้อแดง โดยอาวุธชนิดนี้ใช้ในราชการเท่านั้น ถือเป็นยุทธภัณฑ์ คนเสื้อน้ำเงินเอามาจากไหน
เป็ดเหลิมตั้งฉายา รัฐบาลลาขึ้นรถ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า นายกฯได้อำนาจมาโดยไม่ชอบธรรมไม่อายบ้างหรือ วันนี้ต้องรู้สำนึกได้แล้วว่า ได้มาเป็นนายกฯเพราะใคร ที่วันนี้ตนต้องเรียงลำดับย้อนเหจตุการณ์เพราะต้องการให้ทุกฝ่ายรู้สำนึกซึ่งกันและกัน เท่าที่เห็น มาตรฐานการสั่งดำเนินคดีกับคนเสื้อแดงทั้งนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ และนายวีระ มุสิกพงษ์ แต่ไม่มีการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตร ฯ อีกทั้งการดำเนินการภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องมีหลักการคือ ต้องขอศาลก่อนคุมตัวขัง และมีกำหนดระยะเวลาในการกักขังไม่เกิน 30 วัน กักขังครั้งละ 7 วัน หากไม่มีข้อกล่าวหาอื่นก็ต้องปล่อยตัวภายใน 7 วัน แต่มาครั้งนี้ผิดปกติคือ ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาและไม่มีการปล่อยตัว รวมทั้ง เมื่อมีการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉบับนี้แล้ว ภายใน 15 วัน นายอภิสิทธิ์ ก็ยังไม่นำเข้ามายังครม.และไม่ได้ยกเลิก แสดงให้เห็นว่า เป็นเหมือนลักษณะการใช้อำนาจของคณะปฏิวัติ ในอดีต ที่เที่ยวนำคนมาขัง และ การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใจกลางเมือง อยากถามไปยังนายกฯ ว่าใช้ส่วนไหนคิด เพราะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของไทยเป็นอย่างมาก ขอท้าไปยังนายอภิสิทธิ์ว่า แน่จริงอย่าเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้คงไว้ ประเทศจะได้ฉิบหาย ฉะนั้นจึงขอตั้งฉายารัฐบาลนี้ว่า รัฐบาล ลาขึ้นรถ ที่จะดึงที่หัว ก็ถอยหลัง หรือถ้าดึงที่ก้น ก็เดินหน้า ซึ่งเสมือนกับว่า เป็นการไม่ฟังใคร
อัดรัฐบาลปั้นสถานการณ์ยิงมัสยิด
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า กรณีการชุมนุมของคนเสื้อแดง ที่มีทั้งการยิงมัสยิด การเผารถเมล์ การนำรถแก๊สเช้ามา ขอเรียนว่า เรื่องนี้ เป็นการสร้างสถานการณ์ เพื่อสร้างความชอบธรรมในการสลายการชุมนุม เพราะต้องเข้าใจว่า การใส่เสื้อสีแดงนั้นง่ายมาก แค่ใส่แล้วก็ถอดออก นอกจากนี้ อยากทวงถามไปยังรัฐบาลว่า จะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านชี้แจงที่ ช่อง 11 เมื่อไหร่ เพราะตอนตั้งรัฐบาลใหม่ๆ ก็มีการสัญญาไว้ หรือขอท้านาย อภิสิทธิ์ มาดีเบตด้วยกัน จะให้เวลาตนกี่นาทีก็ได้ ไม่มีปัญหา
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า กรณีแกนนำกลุ่มเสื้อแดง 19 คน ที่ถูกจับตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไปให้มาที่พรรคเพื่อไทย โดยทางพรรคจะให้ทีมกฏหมายพรรค ทำการฟ้องรัฐบาลให้หมด และที่ตำรวจอ้างว่า ที่จับกุม เนื่องจากจับตามประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น ถามว่า การจับกุมตอนตี 4 แล้วไปขออนุญาตหมายศาลตอนไหน เพราะที่ทำการศาลปิดอยู่ และอยากถามว่า เอาอำนาจอะไร มาทำ หรือว่า นายอภิสิทธิ์ มีอำนาจจะทำอะไรก็ได้ หรือหากใช้การจับกุมโดยกฏหมาย ป.วิอาญา ม.80 ก็จะต้องแจ้งให้ผู้ต้องหาทราบก่อน แต่ก็ไม่มี การแจ้งมาก่อน กลับจับไปกักขังที่จ.สระบุรี เลย ถือว่า เป็นการกระทำที่อัปยศที่สุด
ส.ว.ตำหนิไม่ใช้สื่อในมือทำปชช.สับสน
ด้านสมาชิกวุฒิสภา เช่น นายตวง อันทะไชย ส.ว.สัดส่วน เสนอทางออกว่า ควรจะใช้วิกฤติการเมืองขณะนี้เป็นโอกาสกอบกู้ฟื้นฟูประเทศ ทั้งการทบทวนการทำงานของหน่วยงานด้านความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็น สตช นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าสังเกตว่าหน่วยข่าวกรองยังไม่มีประสิทธิภาพหรือ รัฐบาลไม่ได้ใช้ข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองจึงทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น ซึ่งควรปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยผู้นำประเทศให้เป็นมืออาชีพเพิ่มมากขึ้นเพราะที่เหตุการณ์ที่ผ่านมาสร้างความอับอายไปทั่วโลก
นอกจากนี้ควรเสริมสร้างสังคมสันติสุข โดยใช้เครือข่ายภาคประชาสังคมที่รัฐบาลมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรเอกชนที่ทำงานอยู่แล้ว เช่น สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา สำนักสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และตั้งกองทุนสร้างเสริมสมานฉันท์ให้เสร็จภายใน 6 เดือนเพื่อให้มีงบประมาณนำไปใช้จ่ายในการแก้ปัญหาให้สำเร็จลุล่วง รวมไปถึง ยังต้องปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ใหม่ เพราะประชาธิปไตยไม่สามารถเรียนรู้ได้ในห้องเรียน
น.ส.สุวิมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว. จันทบุรี กล่าวตำหนิการใส้สื่อของรัฐ ว่ารัฐบาลอาจไม่ต้องใช้กำลังพลจำนวนมากเลย เพียงแต่ใช้สื่อของรัฐที่มีอยู่ให้ประชาชนได้รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่จริงจึงขอ ติติงว่าทำงานล่าช้า ประชาชนจะตัดสินใจเองว่าอะไรคืออะไร แต่รัฐบาลไม่ได้ทำ หรือทำแต่ล่าช้า จนทำให้ประชาชนรับข้อมูลคลาดเคลื่อนและ นำไปสู่ความแตกแยกของประเทศ รัฐบาลต้องหันกลับไปทบทวนบทบาทการบริหารของสื่อรัฐทำอย่างไรให้ขับเคลื่อนรวดเร็ว เพิ่มพื้นที่ข่าวให้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ และนาย สุเทพ ได้ลุกขึ้นชี้แจงสมาชิกรัฐสภาแบบ คนต่อคน โดยนาย อภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า เรื่องสองมาตรฐาน หลายเรื่องไม่ได้เกิดในสมัยที่ตนเป็นรัฐบาล และไม่ควรจะให้เกิดสีอื่นขึ้นมาอีกในสังคมไทย ส่วนเรื่องที่มีบุคคล นอกครม.เข้ามาเกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาด้านความมั่นคงนั้น นายสุเทพ เป็นผู้ดูแลและจะเป็นผู้ตอบคำถามนี้เอง ตนมารับผิดชอบด้านความมั่นคงภายหลังจากมีการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว รัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดกลุ่มมวลชนเพื่อทำให้สถานการณ์ยุ่งยากมากขึ้น จนถึงวันนี้ยังไม่มีผู้ป่วยรายใดได้รับบาดเจ็บจากอาวุธสงคราม
เทพเทือกยันใช้กระสุนปลอม
นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจง พร้อมฉายภาพ วีทีอาร์ถึงข้อแตกต่างระหว่างกระสุนจริงและกระสุนซ้อม โดยระบุว่ากำลังพลของทหารส่วนใหญ่ใช้กระสุนซ้อม ซึ่งในวีดีโอได้แสดงให้เห็นถึงการใช้กระสุนซ้อมกับปืนเอ็ม16 ที่จะมีทั้งการใส่อแดปเตอร์และที่ไม่ใส่อแดปเตอร์ แต่บางหน่วยงานจะได้นำพานท้ายปลอกกระสุนมาสวมไว้บริเวณปลายกระบอกปืนเพื่อแทนอแดปเตอร์ เพื่อให้การยิงต่อเนื่องโดยไม่ต้องสับไกปืน และได้ฉายตัวอย่างงการยิงกระสุนปลอม เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่สามารถทำให้เป้ากระดาษให้ขาดได้มีแต่เสียงดังเท่านั้น
นายสุเทพยืนยันว่ากลุ่มเสื้อแดงมีอาวุธโดยตรวจพบระเบิดมือ และที่กล่าวหาว่ารัฐบาลจัดฉากที่กระทรวงมหาดไทยภาพชัดเจนว่าเสื้อแดงทำร้ายรถนายกฯและนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลไม่สามารถจัดฉากได้ ส่วนเหตุการณ์ที่พัทยาตนเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถยับยั้งกลุ่มเสื้อแดงที่จะบุกรุกเข้าที่ประชุมอาเซียน จึงได้มีการปรึกษาหารือ โดยหน่วยงานในจังหวัดและนายกเมืองพัทยาบอกว่าจะชักชวนประชาชนที่ต้องการเห็นความเรียบร้อยและความสำเร็จของการประชุมมายืนเป็นเพื่อนตำรวจและทหารเท่านั้น
นาย สุเทพ ยังโต้ ร.ต.อ.เฉลิมกรณี การใช้พ.ร.ก.ว่า มีความจำเป็นที่ต้องใช้ เพราะ.มีกลุ่มผู้ชุมนุมไปบีบบังคับศาลอาญาให้ปล่อยตัวนายอริสมันต์ และยังมีการ ปิดการจราจรที่บริเวณสี่แยกดินแดงและอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ชุมนุม ก็ได้บุกไปใช้ความรุนแรงที่พัทยามาแล้ว ผู้ที่บุกรุกเข้าไปในโรงแรม ไม่ได้เข้าไปแล้วถอยกลับแต่ยังควบคุมการเข้าออกของโรงแรมจนถึงช่วงเย็นวันที่ 11 เม.ย.จนทำให้ผู้นำของหลายประเทศต้องขึ้นดาดฟ้าเพื่อขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ออกจากโรงแรม ขณะที่อีกหลายประเทศต้องรอจนค่ำจึงจะออกจากโรงแรมได้ เหตุการณ์ทั้งหมดจึงไม่ได้เป็นดังที่ร.ต.อ.เฉลิมเสียดสี
ถือเป็นครั้งแรกที่การประชุมระดับนานาชาติต้องล้มเหลวไม่เป็นท่า เมื่อศาลอนุมัติออกหมายจับนายอริสมันต์และเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวแล้วนายอริสมันต์ยังใช้มือล็อคคอนักบินจนต้องนำเครื่องลงฉุกเฉิน กรณีการจับกุมผู้ต้องหาตอนตี4 เจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้วว่าเป็นความผิดซึ่งหน้าจับได้ทันที เหตุที่ต้องนำไปขังไว้ที่สระบุรีเพราะไม่ต้องการให้ชิงตัวผู้ต้องหา ได้ทำทุกอย่างตามที่กฎหมายได้ให้อำนาจไว้