“สาย” แนะรัฐบาลตัดงบประจำปี 53 โครงการดูงานต่างประเทศ ส.ส.-ส.ว.-นักการเมืองท้องถิ่น-ขรก.ชี้ ประเทศเกิดวิกฤตการเมือง ต้องประหยัด เชื่อตัดงบช่วยชาติประหยัดหลายร้อยล้าน พร้อมยื่นอนุฯแก้ไข รธน.ให้คงสภาพที่มา ส.ว.สรรหา เชื่อได้คนที่มีคุณภาพมากกว่าเลือกตั้งอย่างเดียว หวั่นซ้ำรอยสภาหมอนข้าง
วันนี้ (15 พ.ค.) นายสาย กังกะเวคิน ส.ว.ระยอง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมจัดทำงบประมาณประจำปี 2553 เกี่ยวกับการเดินทางไปศึกษาดูงานที่ต่างประเทศโดยใช้งบประมาณแผ่นดินของนักการเมืองทั้ง ส.ส. ส.ว.นักการเมืองระดับท้องถิ่น อาทิ นายกเทศมนตรี องค์การบริหารส่วนตำบล ข้าราชการ รวมทั้งคณะรัฐมนตรี ว่า ตนเห็นว่าประเทศเราตกอยู่สถานการณ์วิกฤติทั้งการเมืองและการเงินต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งยังไม่มีแนวโน้มว่าจะคลี่คลายได้อย่างไรและเมื่อไหร่ ตนเห็นว่า การจัดทำงบประมาณประจำปี 2553 ของรัฐบาลจะต้องเป็นไปอย่างจำกัดและประหยัดเพื่อสอดรับกับรายจ่าย
นายสายกล่าวอีกว่า ตนในฐานะเป็น ส.ว.ซึ่งมีหน้าที่ร่วมพิจารณางบประมาณที่รัฐบาลนำเสนอ จึงขอแนะนำไปยังรัฐบาลและผู้ที่มีหน้าที่ในการจัดงบประมาณรายรับ รายจ่าย ประจำปี 2553 ว่า งบประมาณควรพิจารณาตัดลดงบประมาณรายจ่ายในส่วนของโครงการไปศึกษาดูงานต่างประเทศของนักการเมืองทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ รวมทั้งข้าราชการ คณะรัฐมนตรีออกไป จนกว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะดีขึ้น ซึ่งสามารถช่วยชาติประหยัดงบประมาณได้หลายร้อยล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้พูดในนามตัวแทนกลุ่ม 40 ส.ว. แต่เป็นความเห็นส่วนตัว อีกทั้งยังมีเพื่อน ส.ส.และ ส.ว.อีกจำนวนมากที่เห็นด้วยกับเรื่องนี้
“ผมไม่อยากเอาเปรียบประชาชนไปมากกว่านี้อะไรที่เราพอช่วยชาติได้ก็ควรช่วย อีกทั้งหากช่วงนี้ลดการดูงานที่ต่างประเทศก็คงไม่สร้างความเสียหายให้กับประเทศมากนัก ผมเห็นว่าเป็นอีกทางในการประหยัดงบรายจ่ายของประเทศ” นายสาย กล่าว
นอกจากนี้ นายสายยังได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา ประธานคณะอนุกรรมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้คณะอนุกรรมการพิจารณาในส่วนของที่มาของ ส.ว.โดยคงสภาพ ส.ว.สรรหาไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขตามรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 เช่นเดิม
นายสายเปิดเผยว่า ตนได้ยื่นเรื่องไปแล้วโดยเห็นว่า ส.ว.ที่มาจากการสรรหามีโอกาสเลือกได้คนที่ดีมีคุณภาพมากกว่าส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด เพราะจากอดีตที่ผ่านมาได้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งทั้ง 2 สมัย มีพฤติการณ์ที่ไม่ชอบมาพากลจนมีผู้ให้สมญานามว่าสภาทาสและสภาผัวเมีย แต่ในทางตรงข้ามเมื่อเทียบกับส.ว.รุ่นที่ได้รับการแต่งตั้งในสมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี และ ส.ว.ชุดปัจจุบันที่ทำหน้าที่ได้อย่างมีคุณภาพทั้ง ส.ว.ที่มาจากการสรรหาและเลือกตั้ง ซึ่งไม่มีความเสื่อมเสียใดๆ อีกทั้งยังสร้างคุณประโยชน์มากมายให้ประเทศชาติ โดยเฉพาะ ส.ว.ที่มาจากการสรรหา ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดทั้งในด้านการตรวจสอบรัฐบาล ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐ องค์กรอิสระและนิติบัญญัติได้เป็นอย่างดีจนเป็นที่ยอมรับของประชาชนทั่วไป นอกจากนี้ ยังสามารถทำงานร่วมกับ ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งได้เป็นอย่างดี
นายสายกล่าวอีกว่า จากประสบการณ์ที่ตนเคนเป็นอดีต ส.ว.มาถึง 2 สมัย และมาจากการเลือกตั้ง เห็นควรให้มีระบบวุฒิสภาผสมที่มีทั้ง ส.ว.เลือกตั้งและ ส.ว.สรรหาเพื่อรักษาสมดุลการทำหน้าที่ของวุฒิสภา ในการตรวจสอบนักการเมือง รัฐบาล ข้าราชการที่ประพฤตินอกกรอบกฎหมาย
