“ไอ้ตู่” ยอมโผล่หัวออกจากรู ดอดเข้าพรรค ซวยเจอนักข่าวเห็นตัวจำใจต้องแถลงข่าว ปฏิเสธไม่ได้หนีไปมุดรูที่ไหน แค่แอบไปสังเกตการณ์หลังเกิดเหตุ แถมให้ร้ายทหารยิงเอ็ม 16 และอาก้าเข้าใส่กลุ่มคนเสื้อแดงแล้วซุกศพไว้ ท้า “นายกฯ-ส.ส.รัฐบาล” ไม่ต้องโหวตให้ใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครอง เชื่อโหวตก็แพ้ พร้อมเดินเข้าคุกเอง ยังปกป้อง “พ่อแม้ว” บอกเป็นห่วงประชาชน แต่ไม่กล้ากลับมาตามที่ประกาศ ยัดเยียด “อภิสิทธิ์” รับผิดชอบเหตุการณ์ทั้งหมด ท้าให้ดูกันต่อไป “แม้ว” กลับไทยหรือไม่
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (16 เม.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 14.00 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย หนึ่งในผู้ต้องหาคดีล้มล้างสถาบัน ที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ปรากฏตัวที่ทำการพรรคเพื่อไทย อาคารดีดีบี บิลดิ้ง ถนนพระราม 4 โดยนายจตุพรสวมเสื้อสีแดง Truth Today เหมือนกับที่ใส่ขึ้นเวทีเสื้อแดง มีสีหน้าอิดโรยคล้ายไม่ได้นอนมาหลายวัน โดยใช้บันไดทางขึ้นชั้นลอยของอาคารดีดีบี ซึ่งไม่ได้ใช้เส้นทางเข้า-ออกประตูหน้าพรรคเหมือนปกติ อย่างไรก็ตาม เมื่อนายจตุพรทราบว่าผู้สื่อข่าวได้พบเห็นตัวแล้ว นายจตุพรจึงได้แจ้งว่าจะมีการแถลงข่าวให้ทราบ ก่อนจะขึ้นไปประชุมร่วมประชุมกับแกนนำพรรคเพื่อไทย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ่ายวันนี้เเกนนำพรรคเพื่อไทย รวมทั้งสมาชิกบ้านเลขที่ 111 และคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เช่น นายพายัพ ชินวัตร รวมทั้งนายจตุพรได้นัดประชุมเพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวของคนเสื้อเเดง
ต่อมาเวลา 14.50 น. นายจตุพรแถลงข่าวว่า หลายวันที่ผ่านมามีการให้ข่าวว่าตนหลบหนี ขอเรียนว่าวันที่ 14 เม.ย. หลังการปราศรัยในช่วงเช้าวันนั้น ตนได้ไปตระเวนตรวจสถานการณ์รอบทำเนียบฯ พบว่ามีทางออกเพียงจุดเดียว คือ คลองผดุงกรุงเกษม ที่เหลือโดนปิดล้อมแบบปิดตาย เหตุที่ตนต้องออกไปประเมินสถานการณ์นั้น เพราะคนเสื้อแดงเหลืออยู่น้อย แต่การปิดล้อมที่มีทหาร กองโจรพันธมิตรฯ และคนเสื้อน้ำเงินของนายเนวิน ชิดชอบ ที่ติดอาวุธทั้งหมดบีบเข้ามาแล้ว ที่ผ่านมาคนเสื้อแดงตายไปหลายสิบคน ในวันนั้นแกนนำไม่ต้องการให้ประชาชนเสียชีวิตไปมากกว่านี้ เมื่อแกนนำประเมินสถานการณ์แล้วจึงตัดสินใจว่าควรยุติการชุมนุมไปก่อน
นายจตุพรกล่าวว่า ในวันนั้นแกนนำคนอื่นๆ จึงมอบตัว ตนอยากจะกลับเข้าพื้นที่ แต่ก็กลับไม่ได้เพราะถูกปิดล้อมไว้หมด และช่วงที่ผ่านมาก็ไปประเมินสถานการณ์โดยรอบแล้ว ฉะนั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปตนจะตอบโต้ทุกประเด็นจนกว่าจะถึงวันที่ 22 เม.ย. ซึ่งตนจะไปประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้สภาโหวตให้ตนเข้ามอบตัว ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ ส.ส.ซึ่งอยู่ในสมัยประชุมและมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง แต่ต้องโดนดำเนินคดี จึงต้องถามมติที่ประชุมโดยใช้เสียงข้างมากโหวตว่าควรส่งตนให้ตำรวจไปดำเนินคดีหรือไม่ ตนท้าให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไปล็อบบี้พรรคร่วมรัฐบาลให้ส่งตนไปดำเนินคดีเลย เพราะเสียงของพรรคฝ่ายค้านไม่พออยู่แล้ว และในวันนั้นตนจะเข้าสภา แล้วจะเข้ามอบตัวทันที
“แล้วก็จะดูด้วยว่า สภาเคยไม่อนุมัติให้ส่งตัวนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะแกนนำพันธมิตรฯ ไปดำเนินคดี ก็จะดูว่ากรณีตนจะเป็น 2 มาตรฐานหรือไม่ จะมีการดำเนินการกับคนเสื้อแดงเพียงฝ่ายเดียวหรือไม่” นายจตุพรกล่าว ซึ่งเป็นการโกหก เพราะนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ไม่เคยขอใช้เอกสิทธิ์ในการคุ้มครองตัวเอง
นายจตุพรกล่าวว่า การยุติการชุมนุมนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่นายอภิสิทธิ์เป็นฆาตกรที่ฆ่าประชาชนสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง แหล่งข่าวในกองทัพบอกกับตนว่าปฏิบัติการครั้งนี้ใช้จำนวนทหารมากเกินไป จนดูเหมือนการยึดอำนาจ ขอถามว่าทำไมทหารไม่ออกมาอย่างนี้ในช่วงที่พันธมิตรฯ ยึดสนามบินบ้าง
ส่วนเหตุปะทะกันในพื้นที่ต่างๆ นั้น นายจตุพรอ้างว่า การสลายการชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดงนั้นมีคนตายจำนวนมาก ทั้งพระภิกษุ และผู้หญิง แต่มีการนำศพไปทิ้ง ขอย้ำว่าคนเสื้อแดงไม่เคยมีปัญหากับประชาชนโดยเฉพาะที่ย่านนางเลิ้ง แต่พื้นที่นั้นคนเสื้อแดงโดนตีตาย 3 ศพ แต่ไม่พบศพเหล่านี้ที่ สน.นางเลิ้งเลย รวมทั้งหลายศพที่ดินแดงก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้เลย มันจึงอดทนไม่ได้แล้ว จึงมีการนำถังแก๊สมาขู่บ้าง ตนทราบว่าที่ผ่านมามีการใช้ปืนเอ็ม 16 และปืนอาก้า ซึ่งไม่ใช่อาวุธของคนเสื้อแดง
นายจตุพรกล่าวว่า วันนี้คนเสื้อแดงกลายเป็นจำเลยจากการให้ข่าวจากฝ่ายรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว ฉะนั้น ตนขอตั้งรางวัลนำจับให้คนที่ชี้เบาะแสคดีฆ่าประชาชนย่านนางเลิ้ง 2 ราย คดีละ 5 แสนบาท รวมทั้งการให้เบาะแสคดียิงมัสยิดย่านซอยเพชรบุรี 5-7 อีก 5 แสนบาทเช่นกัน เพราะคนเสื้อแดงไม่มีเหตุผลที่ไปทะเลาะประชาชน แต่เรื่องทั้งหมดน่าจะเป็นการใช้คนเสื้อน้ำเงินของนายเนวินเข้ามาสร้างสถานการณ์ เช่น การนำรถเมล์มาเผา เพราะในความจริงหากมีการยึดรถเมล์มันต้องมีการไล่ผู้โดยสารลงจากรถ แต่กลับมีการขับรถฝ่าด่านเข้าไปได้ง่ายๆ ทั้งๆ ที่มีทหารควบคุมพื้นที่ตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แล้วมันทำได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ประชาชนยังเดินเท้าเข้าไปไม่ได้เลย จึงสงสัยว่านายเนวินน่าจะเข้ามามีส่วนสร้างสถานการณ์นี้ รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ที่สร้างสถานการณ์โดยใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ มีการไปร่วมงานศพประชาชนย่านนางเลิ้ง เหมือนกรณีไปร่วมงานศพของพันธมิตรฯ แต่คนเสื้อแดงหลายศพที่หายไป พรรคประชาธิปัตย์จะรับผิดชอบอย่างไร
นายจตุพรกล่าวว่า ขอให้คนเสื้อแดงช่วยกันตามหาศพและหลักฐานต่างๆ แล้วมาส่งให้ที่พรรคเพื่อไทย หรือที่สมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ภายใน 1 สัปดาห์ เชื่อว่าความจริงน่าจะปรากฏว่ารัฐบาลทำให้คนเสียชีวิตมากขนาดนี้ โดยคิดว่าชีวิตประชาชนคือผักปลา แต่แกนนำคนเสื้อแดงไม่ได้คิดแบบนั้น การสูญเสียครั้งนี้มันเหมือนเหตุการณ์เดือนตุลา และร้ายแรงกว่าเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ คือรัฐบาลให้ข่าวเพียงฝ่ายเดียว และมีการเก็บศพไป ซึ่งนายทหารชั้นผู้ใหญ่น่าจะรู้ แต่เรื่องเหล่านี้มันจะปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือได้ไม่กี่วัน คนเสื้อแดงก็จะได้รับความเป็นธรรม
เมื่อถามว่ากรณีที่คนเสื้อแดงไปบุกยึดสถานที่ต่างๆ จะรับผิดชอบอย่างไร นายจตุพรกล่าวว่า สถานการณ์มันลุกลามเพราะนายเนวิน และนายสุเทพ กรณีนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่ามีการสร้างสถานการณ์ร่วมหลายพื้นที่จนคนเสื้อแดงคิดว่าจะมีการฆ่าประชาชนที่ทำเนียบฯ เพราะมีหลักฐานต่างๆ เยอะมาก เช่น ปลอกกระสุนปืน กางเกงและรองเท้าของคนเสื้อแดงที่เสียชีวิต ใครไม่อยู่ในพื้นที่แบบนั้นก็คงไม่รู้สึกว่าการถูกล้อมฆ่าเป็นอย่างไร เมื่อถามว่าถึงความรับผิดชอบถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น นายจตุพรกล่าวว่า การปิดถนนของคนเสื้อแดงก็มีความผิด แต่ต้องว่าไปตามความผิด ไม่ใช่มาฆ่าประชาชนแบบนี้
เมื่อถามว่ากรณีที่คนเสื้อแดงยึดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และจะเผารถแก๊ส 3 คัน การทำแบบนี้เหมือนเอาประชาชนผู้บริสุทธิ์มาเป็นตัวประกัน นายจตุพรกล่าวว่า การปิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมินั้นผิดแค่ พ.ร.บ.จราจร แต่ไม่ต้องฆ่าประชาชน ส่วนกรณีรถแก๊สนั้นขอถามว่าสิ่งต่างๆ ที่พันธมิตรฯ กระทำ แกนนำพันธมิตรฯ จะรับผิดชอบหรือไม่ เรื่องรถแก๊สนั้นแกนนำไม่รู้ว่าใครเอาไป และจะไม่รู้จะรับผิดชอบอย่างไร เพราะตอนนั้นสถานการณ์เฉพาะหน้าที่คนเสื้อแดงรู้สึกว่าโดนทหารยิงก็ต้องมีการหาอะไรมากำบังบ้าง ตนไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ หากคนเสื้อแดงทำผิดก็ว่ากันไปตามผิด จะได้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าคนเสื้อแดงจะได้รับระบบสองมาตรฐานหรือความยุติธรรมที่จริง ส่วนท่าทีในอนาคตของคนเสื้อแดงและได้ประเมินหรือไม่การชุมนุมของ นปช.แพ้หรือชนะ นายจตุพรกล่าวว่า ไม่มีการประเมิน แต่พูดได้คำเดียวว่ามีสิ่งที่คาดไม่ถึงคือการใช้ทหารฆ่าประชาชน
เมื่อถามว่าได้ติดต่อนายจักรภพ และ พ.ต.ท.ทักษิณ บ้างหรือไม่ นายจตุพรกล่าวว่า ไม่ได้คุยกับนายจักรภพ แต่ตนได้คุยกับอดีตนายกฯ แล้วอดีตนายกฯ บอกว่าเสียใจและเป็นห่วงประชาชน เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะร่วมรับผิดชอบอย่างไร นายจตุพรย้อนถามว่า จะให้รับผิดชอบอะไร นายอภิสิทธิ์ต่างหากที่ต้องรับผิดชอบ เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เคยประกาศหากมีเสียงปืนดังขึ้นเมื่อใดจะกลับไทยเพื่อนำประชาชนมาต่อสู้ แต่ล่าสุดอดีตนายกฯ ได้บอกกับสื่อต่างประเทศจะยังไม่กลับในช่วงนี้ นายจตุพรกล่าวว่า คอยดูแล้วกัน