นายกฯ เปิดโครงการเช็คช่วยชาติ เรียกร้อง ปชช.นำไปใช้จ่ายให้คุ้มค่า เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้หมุนเวียน ย้ำเสื้อแดงให้ชุมนุมอยู่ในกรอบ ไม่ห่วงแต่ก็ไม่ประมาท ตำหนิ “แม้ว” ดึงสถาบันองคมนตรีลงมาเกี่ยวข้องปัญหาการเมือง
วันนี้ (26 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในช่วงเช้าว่า เมื่อเวลา 07.30 น.ที่อาคารมาลีนนนท์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมามอบดอกไม้ เพื่อแสดงความยินดีต่อนาย ประวิตร มาลีนนท์ กรรมการบริหาร บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เนื่องในวันครบรอบ 39 ปี ไทยทีวีสีช่อง 3 โดยได้ร่วมรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” โดยให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมของกลุ่มนชป.ว่า ขอให้กลุ่มคนเสื้อแดงอยู่ในกรอบของกฎหมาย และตนก็ยืนยันว่าข้อเรียกร้องสำคัญในการปฏิรูปการเมือง การแก้รัฐ ธรรมนูญรัฐบาลสนใจใส่ใจ และจะดำเนินการ แต่ก็ต้องเข้าใจว่าไม่ได้มีกลุ่มคนที่มีความคิดลักษณะนี้อยู่ฝั่งเดียว ถ้าเกิดเราจะต้องเดินตามข้อเรียกร้องตรงนี้ ตนบอกได้เลยว่าจะมีคนอีกจำนวนหนึ่งออกมาคัดค้าน ดังนั้นเราต้องพยายามปรับไปอยู่ตรงกลางต้องใช้เวลาตั้งหลักเวทีตรงนี้ให้ทุกฝ่ายยอมรับ ขณะนี้กำลังพยายามให้ผู้เกี่ยวข้องประสานงานกับฝ่ายค้านอยู่ หากพร้อมก็ยินดีพูดคุยอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของการชุมนุมรัฐบาลไม่ประ มาท เพราะรู้ว่าความเข้มข้นมันมีมากขึ้น แต่ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ทะเลาะและใช้ความนุ่มนวล ขณะเดียวกันจะรักษากฎหมายให้ได้
เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินอย่างต่อเนื่องล่าสุดระบุว่าใคร ทำให้กลับประเทศได้ ถือเป็นคุณจะชดใช้ทั้งชีวิต และให้รวมตัวกันมากๆ เพื่อรอพ.ต.ท.ทักษิณกลับมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวทีเล่นที่จริงว่า “มีคำถามอื่นอีกไหมครับ” ก่อนตอบว่า ตนคิดว่าตนมีหน้าที่แก้ปัญหาของคน 60 กว่าล้านคน ส่วนใครจะมีความเห็นอย่างไรก็ว่ากันไป เพราะทุกคนมีความเสมอภาคกันภายใต้กฎหมาย และไม่ควรนำสถาบันที่เป็นกลางทางการเมืองอยู่เหนือการเมือง และประชาชนเคารพนับถือก็ไม่ควรนำมาสู่วังวนทางการเมือง
เมื่อถามต่อว่า จะหาทางคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ แบบลูกผู้ชายหรือไม่ นาย อภิสทธิ์ ตอบว่า มันมีเรื่องของกฎหมายที่รัฐบาลต้องมีหน้าที่รักษาความถูกต้อง หากยอมรับในกฎหมายก็พูดคุยกันได้
ต่อมา ในเมื่อเวลา 08.30 น. ที่ลานคนเมือง กรุงเทพมหานคร นาย อภิสิทธิ์ ได้เดินทางมาเปิดงานรับมอบมอบเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเช็คช่วยชาติ จำนวนทั้งสิ้น 7,500,000 คน ซึ่งผ่านการตรวจสอบสิทธิและออกเช็คแล้วจำนวน 55 ล้านคน โดย ผู้ที่ได้รับเช็คใบแรกของโครงการคือ นาง กงใจ หารไชย ครูสอนโรงเรียนเอกชนได้รับเช็ครหัส 001 ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวชี้แจงให้ประชาชนรับทราบว่า ตนมีความยินดีที่มาเปิดงาน “โครงการเช็คช่วยชาติฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจโลก” ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในโลกส่งผลต่อวิกฤติเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะส่งผลต่อผู้มีรายได้น้อย นับตั้งแต่วันแรกที่ตนเข้ารับตำแหน่งทราบดีว่า ต้องการให้เศรษฐกิจหมุนเวียน บรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งรัฐบาลพร้อมดูแลประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งพี่น้องเกษตรกร ที่รัฐบาลดูแลราคาพืชผล โครงการชุมชนพอเพียง รวมไปถึงพี่น้องที่ว่างงานรัฐบาลก็ได้ให้ความช่วยเหลือในโครงการต้นกล้าอาชีพ แต่มีประชาชนกลุ่มใหญ่จำนวน 8 ล้านคน ที่มีรายได้น้อย จึงจำเป็นต้องช่วยเหลือดูแล จึงทำให้มีโครงการเช็คช่วยชาติขึ้น โดยจะดำเนินการจ่ายเงินออกได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่อยากจะให้ประชาชนเห็นคือ จะทำอย่างไรให้เศรษฐกิจหมุนเวียนในระดับที่เหมาะสม การที่รัฐบาลดำเนินการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยโดยให้เช็ค 2,000บาท ไม่ได้เป็นการมุ่งหวังให้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ในวิกฤติเศรษฐกิจที่รายได้ลดลงแต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น สิ่งที่ดีที่สุดคือ ต้องการเห็นประชาชนจับจ่ายใช้สอย เพื่อให้การดำเนินชีวิต และรักษาคุณภาพชีวิตเป็นไปตามปกติเท่าที่จะทำได้ นอกจากบรรเทาความเดือดร้อนแล้ว ยังสามารถช่วยให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นมาได้
“รัฐบาลไม่ต้องการให้พี่น้องประชาชนรู้สึกว่าการรับเงิน 2 พันบาทเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย และไม่เชื่อว่าพี่น้องประชาชนที่มีรายได้น้อยจะทำเช่นนั้น แต่ต้องการให้ใช้จ่ายเพื่อรักษาคุณภาพมาตรฐานการครองชีพในช่วงที่กระทบต่อภาวะยากลำบาก แน่นอนว่ารัฐบาลไม่ประมาทและไม่ต้องการให้ประชาชนประมาทท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจที่ผันผวน ไม่ต้องการให้พี่น้องประชาชนอยู่บนความหวาดกลัวและ ตื่นตระหนกเพราะจะทำให้วิกฤติเศรษฐกิจรุนแรงขึ้นไปอีก ตนหวังว่า การนำเช็คไปจับจ่ายซื้อสินค้า และบริการต่างๆ เพื่อใช้จ่ายหมุนเวียนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง ถ้าเป็นไปได้อยากช่วยเศรษฐกิจไทย ต้องกินของไทย ใช้ของไทย เที่ยวเมืองไทย ขอขอบคุณผู้ประกอบการจำนวนมากที่เข้าร่วมโครงการเพื่อให้มูลค่าเงิน 2 พันบาทเพิ่มขึ้นไปอีก” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หวังว่าทุกคนจะมีส่วนร่วมในการฟันฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจไทยเชื่อว่าการเปิดงานในวันนี้จะทำให้บรรยากาศคึกคักที่จะมีส่วนสำคัญที่จะเอื้ออำนวยให้เศรษฐกิจเติบโตต่อไป ตนขอขอบคุณกระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง ที่ช่วยกันให้โครงการนี้บรรลุผลได้ อย่างไรก็ตามการมอบเช็คช่วยชาติ 2,000 บาทตามมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อาจมีคนตกสำรวจนั้น ขณะนี้มีคนร้องเรียนเข้ามาในส่วนของคนที่ไม่มีชื่อ และเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบต่อไป
ต่อมาในเวลา เมื่อเวลา 09.00น. นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ภายหลังจากได้ยกเลิกการเปิดงาน “น้ำไร้พรมแดน” เนื่องในสัปดาห์อนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและวันน้ำโลก ที่อิมแพค เมืองทองธานี โดยได้มอบหมายให้นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธานเปิดงานแทน เนื่องจากในเวลา 11.00 น. นายกฯ จะต้องเข้าร่วมประชุมรัฐสภา จากนั้นเวลา 09.30น. นายอภิสิทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนบริเวณทางเชื่อมระหว่างตึกสันติไมตรีและตึกไทยคู่ฟ้า
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางเข้าทำเนียบด้วยรถยนต์ประจำตำแหน่งโดยเข้าทางประตูป้อมน้ำพุ สะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยมีรถตู้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 10 กว่าคันจอดเปิดทางโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหลายกองร้อยคอยตรึงกำลังอยู่ตลอดเส้นทางและบริเวณรอบคลองผดุงกรุงเกษม 3
อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมการรายงานรับมือกลุ่มเสื้อแดงว่า มีการรายงานความเคลื่อนไหวเป็นระยะๆ ช่วงนี้มีการรวมตัวกันที่สนามหลวง เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทางโฆษกกองทัพระบุว่า การข่าวทางทหารได้รับรายงานว่าจะมีการสร้างสถานการณ์ทำให้เกิดความรุนแรง จะรับมืออย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้ย้ำกับนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ซึ่งนายสุเทพก็ได้กำชับกับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานว่าต้องมีความอดทนอดกลั้นเป็นพิเศษ เพราะจะมีความยั่วยุ
เมื่อถามว่า จากการรายงานข่าวพบว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา มีการปาปะทัดยักษ์เข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน ยังไม่มีใครปา คิดว่าจะพยายามดูแลทุกอย่างให้เรียบร้อย อยากย้ำว่าต้องการให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าให้ได้ เมื่อถามว่า หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินใครจะเป็นผู้ตัดสินใจ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามกฎหมาย มีตนเองและครม.และผู้ที่เกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้วิเคราะห์หรือไม่ว่าการที่พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาสั่งการเองจะมีเหตุรุนแรงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เท่าที่ฟังเสียงมามีการระดมอย่างเข้มข้นเป็นพิเศษ ฉะนั้นได้ย้ำเจ้าหน้าที่ขอให้มีความพร้อมและความอดทนอดกลั้นเป็นพิเศษ เมื่อถามว่า ถ้าเกิดเหตุจนกระทั่งมีการปะทะกันจะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวแย้งว่า อย่าเพิ่งไปสมมติ แต่ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นรัฐบาลพร้อมที่จะรับมือและตัดสินใจอย่างเหมาะสม
เมื่อถามอีกว่า จะกลายเป็นชนวนต้องการให้เกิดความรุนแรงเพื่อล้มรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราจะไม่ทำอะไรที่รุนแรง แต่เราจะทำหน้าที่รักษากฎหมายตามวิธีการและแนวปฏิบัติที่เป็นที่ยอมรับได้ เมื่อถามว่า ส่วนภาพลักษณ์ของประเทศที่ออกไปในช่วงนี้ซึ่งถือว่าเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวชี้แจงว่า มีการเคลื่อนไหวมาตลอด คิดว่าหากคนที่ติดตามสถานการณ์มาตลอด สิ่งสำคัญคือเราดูแลควบคุมสถานการณ์ได้ เพราะการชุมนุมใหญ่ในลักษณะนี้ในปีนี้ ถ้านับไม่ผิดถือว่าเป็นการชุมนุมครั้งที่ 3
