พลังเสื้อแดงไม่คึกคัก นปช.ชะลอเคลื่อนขบวนไปทำเนียบ ผู้ชุมนุมบางส่วนปลีกวิเวกแวะไปรับเช็คช่วยชาติก่อน ขณะที่แกนนำจัดกิจกรรมพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซื้อเวลา เสื้อแดงออกอาการป้อแป้เจอแสงแดดแผดเผา เป็นลมไปแล้วบางส่วน ก่อนเลื่อนเวลาเคลื่อนขบวนไปช่วงบ่ายโดยไร้การสกัดกั้น เหิมจัดใช้รถเครนยกคอนเทนเนอร์หน้าทำเนียบทิ้งลงคลอง ก่อนปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลทั้ง 4 ด้าน
วันนี้ (26 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ต่างได้ทยอยเดินทางมารวมตัวที่ท้องสนามหลวง เพื่อรอเวลาที่จะเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลในช่วงสาย ตามที่แกนนำ นปช.ได้กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังบริเวณโดยรอบอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ หลังจากเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ที่ผ่านมา มีผู้ก่อกวนนำประทัดยักษ์มาขว้างปาในบริเวณที่ไม่ห่างจากเวทีปราศรัยที่ท้องสนามหลวง
ต่อมาแกนนำทยอยขึ้นเวทีทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมว่า ให้เคลื่อนขบวนด้วยความสงบ และไม่ทำลายข้าวของทางราชการ ขณะเดียวกัน เตรียมการ์ดอาสารักษาความปลอดภัย ทั้งชายและหญิง จำนวนมากคอยดูแลความสงบเรียบร้อยช่วงการปราศรัย และการเคลื่อนขบวนที่จะมีขึ้นในช่วงเที่ยงของวันนี้ เนื่องจากวันนี้เป็นวันแรกที่รัฐบาลแจกเช็กช่วยชาติ ทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนที่ได้รับเช็กนำเงิน 2,000 บาท มาร่วมบริจาคสมทบทุนการชุมนุม
ก่อนเริ่มเปิดเวทีอย่างเป็นทางการ แกนนำกลุ่มได้ทำพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณท้องสนามหลวง ทั้งนี้ แกนนำกล่าวว่าการบวงสรวงเพื่อต้องการให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความราบรื่น และความปลอดภัยจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนเกิดอาการเวียนหัว เป็นลมกันแล้วบางส่วน
ขณะเดียวกัน กลุ่ม นปช.มีข้อสรุปแล้วว่าจะเคลื่อนจากท้องสนามหลวงไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เส้นทางเดิมที่เคยเคลื่อนไปเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเริ่มต้นขบวนด้วยรถปราศรัยของแกนนำ นปช. ตามด้วยรถยนต์ และรถหกล้อ ขณะที่ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่จะเดินเท้าผ่านถนนราชดำเนิน อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สะพานผ่านฟ้าฯ สะพานมัฆวานรังสรรค์ และจะกระจายกำลังปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลฝั่งตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ จากนั้นอีกส่วนจะเดินผ่านแยกมิสกวัน เพื่อเข้าสู่ถนนพิษณุโลก ปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ และจะทำการติดตั้งเวทีปราศรัยใหญ่
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.กล่าวว่า จะใช้การเจรจากับตำรวจหากมีการตั้งด่านสกัดตามจุดที่กลุ่ม นปช.เพื่อปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลผ่าน เพราะที่ผ่านมาได้ให้ความร่วมมือด้วยการแจ้งเส้นทางที่จะใช้ล่วงหน้าแล้ว ส่วนจะตั้งด่านสกัดหรือไม่เป็นหน้าที่ของตำรวจ แต่แกนนำ นปช.จะต้องพาขบวนเคลื่อนไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลเพื่อทำหน้าที่เช่นเดียวกัน
แกนนำกลุ่ม นปช.ยืนยันด้วยว่า การชุมนุมในครั้งนี้เป็นการยกระดับการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล ขณะที่จะชุมนุมปักหลักยืดเยื้อและจะดาวกระจายไปยังสถานที่ราชการทุกวัน อย่างไรก็ตามยืนยันว่า จะไม่มีการบุกยึดสนามบิน หรือสถานที่ราชการแต่อย่างใด ขอให้รัฐบาลสบายใจได้ โดยเส้นทางการเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลจะใช้เส้นทางเดิม คือ เริ่มตั้งแต่ถนนราชดำเนินผ่านสะพานผ่านฟ้าไปหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยจะมีการตั้งเวทีปราศรัยบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ
ทั้งนี้ ตามกำหนดเดิมกลุ่มคนเสื้อแดงจะเคลื่อนขบวนออกจากสนามหลวงในเวลา 10.00 น. แต่เมื่อผู้มาชุมนุมยังมีจำนวนน้อยอยู่จึงเลื่อนไปเป็นเวลา 12.00 น. แต่ล่าสุดมีรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้เลื่อนกำหนดเคลื่อนขบวนอีกครั้งไปเป็นเวลา 14.00 น.
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลา 13.30 น.นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายแพทย์เหวง โตจิราการ แกนนำคนเสื้อแดงได้ตัดสินใจนำผู้ชุมนุมเคลื่อนออกจากสนามหลวงเดินไปตามถนนราชดำเนินเพื่อมุ่งสู่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว และเคลื่อนขบวนถึงหน้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อเวลาประมาณ 14.20 น.
โดยกลุ่มคนเสื้อแดงได้เดินเท้าไปตามถนนราชดำเนิน ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แยกผ่านฟ้าลีลาศ ก่อนถึงทำเนียบรัฐบาล โดยไม่มีตำรวจสกัดกั้น ซึ่งมีรถจักรยานยนต์ จำนวนหลายร้อยคันเป็นหน่วยล่วงหน้า ขณะที่รถยนต์ติดเครื่องเสียงนำขบวนโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ตั้งเวทีบริเวณเลียบคลองผดุงกรุงเกษม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มผู้ชุมนุมปฏิบัติตามกฎหมาย ด้วยการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมได้นำรถยกมายกตู้คอนเทนเนอร์บริเวณสะพานอรทัยออกเพื่อเปิดทาง ขณะที่ข้าราชการที่ทำงานภายในทำเนียบรัฐบาล ย้ายไปทำงานที่บ้านพิษณุโลก และหน่วยงานต้นสังกัด
ส่วนแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงได้เตรียมขึ้นเวทีปราศรัยขับไล่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง และ มีรายงานว่า ในกลุ่มผู้ชุมนุมมีผู้พยายามยั่วยุเพื่อให้เกิดความรุนแรง แต่ตำรวจและทหารถูกกำชับให้ใช้ความอดทนอดกลั้นถึงที่สุด
ต่อมาผู้ชุมนุมได้นำรถเครนยกตู้คอนเทนเนอร์ที่ขวางถนนหน้าตึกไทยคู่ฟ้า กับสะพานอรทัยหย่อนลงไปในคลองเปรมประชากรแล้วประมาณ 3-4 ตู้ เพื่อตั้งเวทีถาวร และเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดงสามารถนำสิ่งกีดขวางที่เจ้าหน้าที่นำมาขวางไว้บริเวณรอบทำเนียบรัฐบาลออกได้ทั้งหมด และสามารถปิดล้อมพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลได้ทั้ง 4 ด้านแล้ว ขณะที่ทางทำเนียบรัฐบาลมีหนังสือเวียนแจ้งให้ข้าราชการกลับบ้านไปก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่ได้ทยอยกลับบ้านจนหมดเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.
หลังจากนั้น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ประกาศบนรถขยายเสียงชั่วคราวโดยยืนยันว่าจะไม่บุกเข้าไปภายในทำเนียบรัฐบาลอย่างแน่นอน แต่หากตำรวจใช้แก๊สน้ำตาเมื่อใด ก็จะเคลื่อนพลไปบ้านสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ
ขณะที่พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ได้เรียกประชุมวอร์รูมของศูนย์รักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาลที่ตึกสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อประเมินสถานการณ์ และเตรียมมาตรการรองรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เกิดขึ้น
ต่อมามีรายงานว่า คืนนี้เวลาประมาณ 19.00 น.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ยังหลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศจะกล่าวปราศรัยกับคนเสื้อแดงผ่านวิดีโอลิงค์มายังที่ชุมนุม โดยทีมงานคนเสื้อแดงได้เร่งติดตั้งเครื่องมือต่างๆ เช่น อุปกรณ์ถ่ายทอดสัญญาณวิดีโอลิงก์ และจอมอนิเตอร์ เพื่อให้ผู้ชุมนุมได้ชมทั้งภาพและเสียง แต่หากวันนี้ไม่สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสร็จทัน ก็อาจเลื่อนการฉายวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณไปเป็นวันพรุ่งนี้(27 มี.ค.)
