“ณัฐวุฒิ” สั่ง “เสื้อแดง” ล้อมทำเนียบฯ ทุกประตู 10 โมงเช้าพรุ่งนี้ ลั่นพร้อมชุมนุมยืดเยื้อเพื่อขับไล่รัฐบาล ก่อนตีปี๊บ “นช.แม้ว” เตรียมโฟนอินผ่านวีดีโอลิงก์ป้ายผิด “สุรยุทธ์” ชักใยปฏิวัติโค่น “ระบอบทักษิณ” ด้าน “จตุพร” ฟูมฟายขู่ “ชวรัตน์” ละเมิดสิทธิประชาชน หากสั่งการสกัดกั้นการชุมนุม
วันนี้ (25 มี.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 26 มี.ค.นี้ ว่า แกนนำได้สรุปแนวทางการเคลื่อนไหวและรูปแบบการชุมนุมฯ โดยเบื้องต้นจะเป็นไปตามกำหนดการเดิม คือ รวมตัวกันที่ท้องสนามหลวงในเวลา 10.00 น. โดยแกนนำจะหารือกันเพื่อซักซ้อมก่อนจะพากลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลในเวลาประมาณ 11.00-12.00 น. เมื่อขบวนคนเสื้อแดงไปถึง ก็จะปิดล้อมทำเนียบฯ ทุกด้าน และจะตั้งเวทีใหญ่สำหรับปราศรัยเพื่อปักหลักชุมนุมยืดเยื้อทันที โดยจะยังไม่ใช้ยุทธศาตร์ดาวกระจาย เพราะต้องรอดูสถานการณก่อน
“ในช่วงค่ำของการชุมนุม ผมจะขึ้นปราศรัยบนเวทีการชุมนุมด้วย โดยจะนำข้อมูลหลักฐานในประเด็นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดผ่านวีดีโอลิงก์ก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 อาทิ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกฯ เป็นต้น และอาจจะกล่าวถึงกลุ่มบุคคลอื่นที่อยู่เบื้องหลังการดำเนินการของ พล.อ.สุรยุทธ์ ในการยึดอำนาจด้วย ซึ่งหากเปิดข้อมูลออกมา จะถือเป็นการยืนยันคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเป็นความจริง” นายณัฐวุฒิ กล่าว
เมื่อถามว่า มีการประเมินจากทางทหารว่าจะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมครั้งนี้จำนวนไม่มาก นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ข้อมูลของทหารตรงอยู่ประเด็นหนึ่ง คือ กลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่ใช้วิธีการรุนแรงอย่างแน่นอน แต่เรื่องจำนวนคนเข้าร่วมชุมนุมจะมากหรือน้อยแค่ไหนนั้น ขอให้รอดูในวันที่ 26 มี.ค.นี้ ส่วนก่อนหน้านี้ที่มีการประกาศว่าจะเพิ่มระดับการชุมนุมให้แรงขึ้นนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เงื่อนไขหลักของการชุมนุมครั้งนี้ คือ กดดันรัฐบาลชุดนี้ให้ออกไปจากอำนาจ ส่วนยุทธวิธีการเคลื่อนไหวนั้น แกนนำจะประเมินกันวันต่อวัน
ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ หนึ่งในแกนนำ นปช.กล่าวว่า หากกลุ่มคนเสื้อแดงสามารถปิดล้อมทำเนียบฯ และจัดระบบการชุมนุมให้เป็นที่เรียบร้อยลงตัว ก็อาจจะประสานให้พ.ต.ท.ทักษิณ พูดผ่านวีดีโอลิงก์ในคืนวันที่ 26 มี.ค.นี้ทันที แต่หากไม่ทันก็จะเลื่อนไปเป็นวันที่ 27 มี.ค. ซึ่งแกนนำได้สรุปยุทธศาสตร์การชุมนุมแล้วว่าจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ปราศรัยอย่างต่อเนื่องทุกคืน ในเวลา 19.00-20.00 น.โดยไม่จำกัดเวลาตลอดการชุมนุม ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ จะพูดในประเด็นเกี่ยวกับข้อเท็จจริงทางการเมือง ตั้งแต่สมัยรัฐบาลไทยรักไทย และเบื้องหลังรัฐประหาร โดยจะทยอยเปิดตัวละครที่เกี่ยวข้องกับการทำลายล้าง พ.ต.ท.ทักษิณ เพิ่มขึ้นด้วย
“ทางกลุ่มได้จัดระบบการสื่อสารกับประชาชน โดยแกนนำจะแถลงข่าววันละ 2 ครั้ง ส่วนการเคลื่อนไหวบริเวณหน้าทำเนียบฯ นั้น ยืนยันว่าจะไม่บุกเข้าไปในภายในทำเนียบฯ อย่างแน่นอน และจะไม่ใช้ความรุนแรงกักขังข้าราชการ หรือคนที่ไม่เกี่ยวข้องตามที่หลายฝ่ายกังวล แต่ทราบข้อมูลมาว่า รัฐบาลได้เกณฑ์ทหาร ตำรวจ ตลอดจนรั้วลวดหนามเพื่อปิดกั้นภายในทำเนียบฯ แล้ว เท่ากับเป็นการขังตัวเองมากกว่า” นายจตุพร ระบุ
นายจตุพรกล่าวอีกว่า ขอฝากไปถึง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ด้วยว่า อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ฐานละเมิดสิทธิของประชาชนได้ เนื่องจากมีพฤติกรรมสั่งการให้เจ้าหน้าที่สกัดกลุ่มเสื้อแดงที่จะเข้ามาชุมนุม รวมทั้งยังพบว่ามีเจ้าหน้าที่ไปข่มขู่เจ้าของรถที่คนเสื้อแดงไปขอเช่ามาร่วมชุมนุมในครั้งนี้ด้วย
ทำเนียบฯ วางกำลังเข้ม ทหาร-ตร. พร้อมรับมือเสื้อแดง
สำหรับบรรยากาศทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 25 มี.ค. ได้มีความเคลื่อนไหวรับมือกลุ่มเสื้อแดงภายในทำเนียบรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ทั้งทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทยอยเข้ามาภายในบริเวณและรอบๆ ทำเนียบรัฐบาล พร้อมทั้งมีการนำลวดหนามหีบเพลงมาวางไว้เป็นจุดๆ ในบริเวณทำเนียบรัฐบาล เปลสนาม เต็นท์ผ้าใบ พัดลม โล่ป้องกัน พร้อมอาหารกึ่งสำเร็จรูปและน้ำดื่ม ทยอยเข้ามาประจำการในทำเนียบรัฐบาล ในขณะหน่วยบรรเทาสาธารณภัย กทม.ได้ส่งรถดับเพลิง รถปั่นไฟ มาประจำการเป็นจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน ในส่วนของสื่อมวลชนได้นำรถถ่ายทอดสดมาปักหลักอยู่ในบริเวณทำเนียบรัฐบาลเพื่อรายงานสถานการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หัวหน้าหน่วยงานต่างๆ สั่งการให้ข้าราชการนำรถเข้ามาได้เพียงประตูด้านสะพานอรทัย รวมถึงข้าราชการบางส่วนได้เก็บข้อมูลเอกสารสำคัญทางราชการใส่แฮนดี้ไดรฟ์และบางหน่วยงานได้ถอดฮาร์ดดิสก์เครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ต่างหาก
ทั้งนี้ หน่วยงานราชการที่ตั้งอยู่บริเวณภายในและรอบทำเนียบรัฐบาล ได้ให้เจ้าหน้าที่ติดตามประเมินสถานการณ์การชุมนุมอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งต้องทำการประชุมทุกวัน ได้มีมติย้ายสถานที่ประชุมไปที่อาคารธนภูมิ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
นอกจากนี้ กองบังคับการตำรวจจราจรได้ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลปรับปรุงกล้องวงจรปิดรอบทำเนียบรัฐบาล
เป็นที่น่าสังเกตว่า การรักษาความปลอดภัยของหน่วยรักษาความปลอดภัย ได้เพิ่มความรัดกุมในการวางกำลัง และเพิ่มความเข้มข้นมากกว่าการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงเมื่อวันที่ 24-25 ก.พ.ที่ผ่านมา
ขึงเชือกกั้นสนามหญ้าปลูกใหม่
ส่วนฝ่ายอาคารกองสถานที่ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้นำเชือกไนล่อนมาขึงล้อมรอบบริเวณสนามหญ้า หน้าตึกไทยคู่ฟ้า สนามหญ้าฝั่งห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบทั้งห้องผู้สื่อข่าวใหม่และเก่า รวมถึงสนามหญ้า ต่างๆ ที่เพิ่งมีการปลูกขึ้นมาใหม่เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเป็นการป้องกันกลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้าทำเนียบฯ และเข้ามาเหยียบย่ำสนามหญ้า
ขณะเดียวกัน ได้มีการเก็บธงชาติ และธงสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ปักเสารั้วกำแพงทำเนียบฯ เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมนำไปเป็นอาวุธปะทะเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกันได้มีการนำรถดับเพลิง รถฉีดน้ำ รถปั่นไฟ เข้ามาภายในทำเนียบฯ ไม่ต่ำกว่า 20 คัน โดยเบื้องต้นในส่วนรถดับเพลิง ได้รับความร่วมมือจากกองบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร
ส่วนด้านหลังของตึกสันติไมตรี ปรากฏว่า ทหารจากกองพลทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ จำนวน 27 กองร้อย ซึ่งเป็นกำลังหลักในการรับมือได้มีการมาเตรียมป้องกันเหตุชุมนุม โดยเข้าพักที่ตึกสันติไมตรีทั้งหลังนอกและหลังใน พร้อมนำเสบียงอาหาร ไม่ว่าจะเป็น มาม่า กาแฟ หลายพันกล่อง
ด้านข้าราชการทำเนียบรัฐบาล ซึ่งทำงานในส่วนของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานสังกัดสำนักนายกฯ ต่างเก็บข้าวของ เอกสารราชการ และของมีค่าในที่ปลอดภัย เป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ได้มีคำสั่งจากสำนักเลขาธิการนายกฯ ให้ข้าราชการสตรีสวมใส่กางเกงเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยขอความร่วมมือไม่ควรนำรถมา สามารถเดินทางเข้าออกผ่านสะพานอรทัย และสะพานมัฆวาน
ขณะเดียวกัน หากไม่สามารถเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ได้ สำนักเลขาธิการนายกฯได้มีแผนสองรองรับไว้แล้ว โดยให้ย้ายไปทำงานตามสถานที่ต่างๆ ที่เตรียมการรองรับไว้ล่วงหน้า เช่นสำนักเลขาธิการ ครม.ไปทำงานที่ กระทรวงวัฒนธรรม ย่านปิ่นเกล้า สำนักเลขาธิการนายกฯ ไปทำงานที่บ้านพิษณุโลกและบ้านมนังคศิลา
มีรายงานด้วยว่า ในช่วงค่ำ เจ้าหน้าที่ได้มาติดตั้งสะพานเหล็กชั่วคราวข้ามคลองผดุงกรุงเกษม ระหว่างหน้าวัดโสมนัสพาดผ่านตรงมาฝั่งทำเนียบ บริเวณประตู 8 เพื่อเป็นสะพานให้นายกฯ เดินเท้าข้ามเข้ามาทำเนียบฯ หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากลุ่มคนเสื่อแดง
สำหรับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีวาระงานดังนี้ เวลา 07.30 น. ร่วมงานแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสวันครบรอบ 39 ปี สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ณ สถานี วิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 อาคารมาลีนนท์ ถนนพระราม 4 กรุงเทพฯ เวลา 8.00 น. เป็นประธานพิธีมอบ “เช็คช่วยชาติ” ให้แก่ผู้ประกันตนที่ได้รับเช็ค หมายเลข 1 ณ บริเวณลานคนเมือง หน้าศาลว่าการกรุงเทพมหานคร เวลา 09.30 น. เป็นประธานเปิดงาน “น้ำไร้พรมแดน” เนื่องในสัปดาห์อนุรักษ์ทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และวันลาน้ำโลก ณ ห้องรอยัลจูบิลี่ อาคารชาแลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี เวลา 11.00 น.ประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา เวลา 11.30 น. H.E Rohita Bogollagama รมว.กระทรวงต่างประเทศ สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยแห่งศรีลังกา เข้าเยี่ยมคารวะ ที่ห้องรับรอง 2 ชั้น 2 อาคารัฐสภา และ เวลา 16.00 น. เป็นประธานพิธีเปิดตัวโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (โครงการชุมชนพอเพียง) ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ จะเดินทางเข้ามาทำงานในทำเนียบ