"มาร์ค"ไม่สนม็อบเสื้อแดง ฝ่าวงล้อมโหรงเหรง เข้าทำงานทำเนียบฯ เทพเทือก รับแอบเจรจาม็อบแล้วแต่เปิดเผยไม่ได้ ขณะที่คนเสื้อแดงสติแตกโห่ร้องขณะรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน เยี่ยมคารวะนายกฯ ก่อนขนม็อบหยิบมือกดดันกษิต ที่กระทรวงบัวแก้ว สนธิ ชี้ นปช.ไม่ได้ชุมนุมเพื่อส่วนรวม แต่สู้เพื่อต้องการให้ทักษิณ กลับ ระบุเป็นของปลอมเทียบไม่ได้กับพันธมิตรฯ สุริยะใสแนะแกนนำเสื้อแดงทบทวนการเคลื่อนไหว ยิ่งดื้อยิ่งกดดันตัวเอง ซัดหลงประเด็นโจมตีพันธมิตรฯมากกว่ารัฐบาล พร้อมเตือนจับตาศึกซักฟอกจะเป็นตัวแปรชี้ขาดรัฐบาล-นปช.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลซึ่งกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมอยู่โดยรอบเป็นวันที่ 2 วานนี้ (25 ก.พ.) แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยังคงเดินทางเข้าทำงานที่ทำเนียบฯตามปกติ โดยนายกรัฐมนตรี ได้ออกจากบ้านพักซอยสวัสดี ถ.สุขุมวิท ตั้งแต่เวลา 07.00 น. โดยขึ้นทางด่วนมาลงที่ยมราช แล้วเลี้ยวซ้ายผ่านบ้านมนังคศิลา เลี้ยวเข้าถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษมเข้าทำเนียบฯ ด้านประตู 7 บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยจำนวนมากตลอดเส้นทาง ขณะเดียวกันนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็เดินทางเข้าทำงานที่ทำเนียบฯ ด้านประตู 7 เช่นกัน
ส่วนคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ที่ต้องเข้าพบนายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ได้นำรถมาจอดไว้ที่บริเวณถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม แล้วมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเข้าภายในทำเนียบฯก่อนจะขึ้นไปบนตึกไทยคู่ฟ้า
จากนั้นเวลา 07.55 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้ามาในทำเนียบฯ และขึ้นไปยังห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากคณะของ กทช.ประชุมหารือกับนายกรัฐมนตรีเสร็จแล้ว นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยนายสาทิตย์ ได้เดินทางออกจากทำเนียบฯ ด้านประตู 7 เพื่อเป็นประธานเปิดงานครบรอบ 79 ปี สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ที่สถานีโทรทัศน์ NBT ถ.วิภาวดีรังสิต
ขอบคุณ จนท.-เสื้อแดงไม่กระทบกัน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า เรียบร้อยดี ต้องขอบคุณ ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมที่ดำเนินการไม่ให้เกิดปัญหาหรือกระทบกระทั่งกัน ตนเข้าทำงานตามปกติ ส่วนกำหนดการณ์อื่นๆ เช่นในการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน จะมีการประชุมที่ทำเนียบฯเช่นเดิม แต่ตนจะสอบถามว่ามีความสะดวกมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากมีคนเข้าร่วมจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนจะสอบถามเรื่องการชุมนุมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่น่าจะมีประเด็นอะไรเพราะเป็นเรื่องปกติ เมื่อถามว่า เบาใจหรือไม่ว่าจะไม่เกิดความรุนแรงนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราไม่ประมาท เพราะต้องเข้าใจว่าการชุมนุมหากเกิดเหตุการณ์เล็กๆที่ไม่เข้าใจกันก็เกิดปัญหาได้
ส่วนจะมีการเจรจากับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในแง่ปฏิบัติเจ้าหน้าที่คงเจรจากันตลออเวลา อย่างไรก็ตามแม้กลุ่มผู้ชุมนุมจะเดินทางไปกระทรวงการต่างประเทศก็เป็นการแสดงออกตามข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ซึ่งตนไม่คิดว่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไร สามารถแสดงความคิดเห็นได้
"เทพเทือก"รับแอบเจรจากับม็อบแล้ว
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ในฐานะผบ.เหตุการณ์ การชุมนุมของกลุ่มกลุ่มคนเสื้อแดง และพล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบช.น. ในฐานะ ผบ.เหตุการณ์ดูแลความปลอดภัยภายในทำเนียบรัฐบาล ได้ออกเดินตรวจความเรียบร้อย และเตรียมความพร้อมรองรับ รมว.กลาโหมอาเซียนเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี และให้กำลังใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารในการรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาล
นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องขอบคุณกลุ่มผู้ชุมนุมที่ชมุนุมโดยสงบ ไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย รวมทั้งต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงานด้วยความอดทน ส่วนตัวมองว่าไม่น่าเป็นปัญหา เพราะนายกรัฐมนตรีและตนเองก็สามารถเดินทาง เข้ามาทำงานภายในทำเนียบรัฐบาลได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลยังไม่ได้ประเมินการชุมนุมของกลุ่ม นปช. เพราะเรายังสามารถทำงานได้ตามปกติ โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่ต่อไป เพราะก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลก็ได้เจรจากับแกนนำกลุ่ม นปช.แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
อากาศร้อนสติแตกขว้างของ-ด่าทหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ขณะที่นายสุเทพ ออกมาเดินตรวจดูแล ความเรียบร้อยในการรักษาพื้นที่ทำเนียบฯ ของทหารและตำรวจ บริเวณหน้าตึกบัญชาการ ได้เกิดเหตุไม่คาดฝันโดยผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งได้ขว้างปาลูกมะพร้าวและสิ่งของ เข้าไปในทำเนียบฯ ทำให้แกนนำต้องกำชับการ์ดอาสาให้ควบคุมผู้ชุมนุมไม่ให้เข้าใกล้ รั้วทำเนียบฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุกระทบกระทั่ง แต่สภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนเกิดคุมอารมณ์ไม่อยู่ เดินเข้าไปด่าทอต่อว่าตำหนิทหาร ที่ให้ความช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลเป็นระยะ ทำให้การ์ดอาสาต้องนำตัวออกไปสงบสติอารมณ์
"สนธิ"ชี้ม็อบแม้วของปลอม
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ไม่ได้สู้เพื่อส่วนรวม แต่สู้เพื่อผลประโยชน์ของบุคคลบางกลุ่มหรือคนบางคน จึงไม่มีความอดทน ไม่สามารถชุมนุม ยืดเยื้อได้นาน ต่างจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมได้นานถึง 193 วัน ถือว่าเป็นสุดยอดของการชุมนุม ที่ทำได้นาน เนื่องจากมีจิตใจบริสุทธิ์ มีความเสียสละทำเพื่อชาติบ้านเมือง
นายสนธิ กล่าวว่า คนไทยทั่วประเทศไทยต้องตาสว่างเสียที เพราะคนเสื้อเหลืองมาเพราะความรักบ้านรักเมือง แต่คนเสื้อแดงมาชุมนุมเพื่อต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมา
"การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ยังไม่ทันไรก็บอกว่า 2-3 วัน ผมเชื่อว่า พออากาศร้อนเดี๋ยวก็หายไปหมด ถึงเวลารวบรวมเงินได้ก็ขนกันขึ้นมา ถ้าอยู่จริง ทำไมนายขวัญชัย ไพรพนา จึงต้องพาคนกลับ จ.อุดรธานี ยังไม่ทันข้ามคืน ตกเย็นก็กลับแล้ว ฉะนั้นดูเจตนาเห็นชัดแล้วว่าเป็นของปลอม"
ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมดังกล่าวจะสามารถพา พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาได้หรือไม่ นายสนธิกล่าวว่า ลำบาก พ.ต.ท.ทักษิณอยากใช้ความรุนแรง แต่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยึดมั่นในหลักการ เชื่อว่าแม้กลุ่มคนเสื้อแดงจะล้อมทำเนียบฯ อย่างไรก็ตามแต่ นายกฯ คงไม่ปราบ ปล่อยให้ทำไป แต่อย่ามาทำอะไรให้เสียหาย เพราะฉะนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงจึงเสียเปรียบ
พธม.แนะเสื้อแดงทบทวนการเคลื่อนไหว
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า เชื่อว่าแกนนำ นปช.คงต้องทบทวนการเคลื่อนไหว เพราะการกำหนด เป้าหมายแตกหักกับรัฐบาลในการชุมนุมครั้งนี้ สถานการณ์ยังไม่สุกงอมพอ มวลชนไม่พร้อม ที่สำคัญสังคมยังไม่รู้สึกว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นจำเลยหรือตกเป็นผู้ต้องหา เว้นเสียแต่ว่าหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจฝ่ายค้านสามารถเปิดแผลรัฐบาลได้ การเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลถึงจะมีความชอบธรรมมากกว่านี้
"ปัจจัยชี้แพ้ชี้ชนะระหว่างรัฐบาลกับ นปช.จะอยู่ที่หลังการอภิปรายฯ ถ้าฝ่ายค้านมีหลักฐานเด็ดๆ อาจปลุกมวลชนออกมาร่วมมากขึ้น แต่ถ้าไม่อะไรไม่สมราคาคุยฝ่ายค้านก็จบเห่ และส่งผลต่อนายใหญ่คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะอยู่ลำบากมากขึ้น เพราะความชอบธรรมจะตกเป็นของรัฐบาลในที่สุด"
นายสุริยะใส เตือนว่าถ้าขืนยังปักหลักยืดเยื้อในช่วงนี้จะเป็นการทำลายตัวแองทั้งขวัญกำลังใจและความฮึกเหิมของมวลชน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าวันนี้คนหายไป มากกว่าครึ่งหนึ่ง และถ้าแกนนำยังดื้อดึงไม่ทบทวนการเคลื่อนไหวจะถูกแรงกดดัน หรือถูกต่อต้านจากสังคมมากกว่านี้ แทนที่การชุมนุมจะกดดันรัฐบาลแต่กลุ่มผู้ชุมนุมจะถูกกดดันจากสังคมเสียเอง
เย้ยแค่ระบายแค้นโจมตีแต่ พธม.
นายสุริยะใส กล่าวว่าจุดผิดพลาดประการหนึ่งของการชุมนุมรอบนี้ก็คือ การโจมตีพันธมิตรฯมากเป็นพิเศษ ซึ่งถูกโจมตีมากกว่ารัฐบาลด้วยซ้ำ แกนนำ ไม่ให้ความสำคัญกับการเปิดแผลหรือตรวจสอบรัฐบาลเท่าที่ควร ทั้งๆ ที่พันธมิตรฯ ไม่ใช่รัฐบาลไม่มีอำนาจอะไร ยังถูกดำเนินคดีด้วยซ้ำ อาจเป็นเหตุให้สังคมรู้สึกได้ว่า การชุมนุมครั้งนี้ระบายแค้นมากกว่าเรียกร้องทางการเมือง
อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะประเมินการเคลื่อนไหวของ นปช.ต่ำไม่ได้ เพราะอาจได้แนวร่วมจากกลุ่มประชาชนผู้เดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจ เช่น ปัญหา คนตกงาน และปัญหาจากนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาลที่เริ่มมีการชุมนุม เรียกร้องถี่ขึ้น รัฐบาลจะต้องมีกลไกที่ไวต่อการแก้ปัญหาปากทท้อง หรือความเดือดร้อนของชาวบ้าน ไม่ใช่รอให้เขามาเดินขบวนค่อยไปเจรจา
ม็อบถ่อยโห่ รมว.กห.อาเซียนพบ"มาร์ค"
ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และพล.อ.อภิชาติ เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย รัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน และคณะ 9 ชาติ ประกอบด้วย กัมพูชา สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว มาเลเซีย พม่า อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และบรูไน ทยอยเดินทางเข้าทำเนียบฯ และเข้าห้องประชุมในตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อหารือนอกรอบกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตามกำหนดการนัดหมาย เวลา 15.00 น. และทันทีที่ขบวนมาถึงหน้าตึกไทยคู่ฟ้า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง เป็นผู้ลงมาให้การต้อนรับด้วยตัวเอง และระหว่างที่ขบวนเข้ามาถึงหน้าทำเนียบฯ ตำรวจและทหารที่เฝ้าระวังเหตุภายในทำเนียบฯ ตรึงกำลังดูแลอย่างใกล้ชิด
เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เกาะริมรั้วทำเนียบฯ ตบเท้าตบ และตบหัวใจ พร้อมตะโกนโห่ร้องที่มาของรัฐบาล ส่วนนายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปช. ก็ขึ้นเวทีปราศรัยเป็นภาษาอังกฤษ วิจารณ์ที่มาของรัฐบาล และนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.ที่ตั้งแถวและเดินเท้าออกจากทำเนียบรัฐบาลมุ่งหน้าไปกระทรวงการต่างประเทศ
นายกฯ เมินม็อบบอกฟังเพลงสบายหู
ต่อมาเวลา 15.00 น. นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางมาถึงตึกไทยคู่ฟ้าเป็นคันสุดท้าย เพื่อเข้าร่วมประชุมอาเซียน กับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศอาเซียน ท่ามกลางเสียงโห่ร้องและขับไล่ของกลุ่มนปช. ซึ่งทันทีที่ลงจากรถนายอภิสิทธิ์ได้แวะยืนคุยกับนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายอิสรา สุนทรวัฒน์ ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า โดยนายกฯ กล่าวด้วยสีหน้าปกติว่า "ที่ผู้ชุมนุมเปิดเพลงของวิสา คัญทัพ ตอนเช้าๆ ผมรู้สึกชอบ ไม่เป็นไร เพราะชอบเพลงสไตล์นี้ สบายหูดี"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ ได้ใช้เวลาหารือกับรมว. กลาโหม และปลัดกระทรวงกลาโหมอาเซียนประมาณ 30 นาที ก่อนเดินทางกลับไปยังรัฐสภา โดยระหว่างนี้กลุ่มเสื้อแดงได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่นไปทั่วทำเนียบฯ เพื่อรบกวนการหารือ
ระดมพล1พันกดดันกษิตได้แค่ 200
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เย็นวันเดียวกันกลุ่มคนเสื้อแดง 200 คน เดินทางจากทำเนียบรัฐบาลไปยังกระทรวงต่างประเทศ ถ.ศรีอยุธยา พร้อมทั้งพยายามปิดถนน เพื่อกดดันนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ นายจักรภพ เพ็ญแข และแกนนำนปช. ได้ปราศรัยขอกำลังคนประมาณ 1,000 คน ปิดล้อมกระทรวงดังกล่าว แต่เนื่องจากมีผู้ชุมนุมน้อยจึงมีคนไปร่วมเพียง 200 คน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูกระทรวงต่างประเทศด้านหน้าแล้ว รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจโบกรถที่สัญจรผ่านมา แต่การจราจรยังคงค่อนข้างติดขัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางไปถึงกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวโจมตีนายกษิต ขณะที่อีกกลุ่ม ได้มีการเผารูปนายกษิต รวมทั้งปาไข่ และใช้ตีนตบตีเพื่อขับไล่ บริเวณกระทรวงการต่างประเทศ ด้านถนนพระราม 6 ด้วย
นปช.อ้างไม่ได้ไล่รัฐบาลแค่มาทวง 4 ข้อ
วันเดียวกัน นปช.ได้ออกแถลงการณ์อ้างว่า นปช.ยังเปิดโอกาสให้รัฐบาลทำงานแก้ปัญหาประเทศชาติโดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ได้เคลื่อนไหวโดยไร้เหตุผล และฝืนกระแสสังคคม แต่มาฟ้งข้อเรียกร้อบ 4 ข้อของ นปช.ที่ยื่นไว้ในวันที่ 31 ม.ค.2552 คือ 1. เร่งรัดคดีพันธมิตรฯ 2.ปลดนายกษิต ภิรมย์ ออกจาก รมว.ต่างประเทศ 3. รับร่าง รธน.ฉบับของ คณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ(คปพร.) ภายใน 15 วัน หรือยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2550 และกลับไปใช้รัฐธรรมนูญ 2540 ทันที และ4. เมื่อประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่แล้ว ให้ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนทันที เมื่อได้รับการสนองตอบจึงต้องชุมนุมกดดัน
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจักรภพ เพ็ญแข นายแพทย์เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายณัฐวุฒิ อ้างว่าว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมตามที่ถูกกล่าวหา อยากจะบอกไปถึงนายอภิสิทธิ์และคนในรัฐบาลว่า ควรสลัดความกลัว และอาการหลอนพ.ต.ท.ทักษิณ ออกให้หมด เพราะกลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวโดยไม่จำเป็นต้องมีการบงการจากใคร และพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในฐานะแนวร่วมหนึ่งเท่านั้น แม้พ.ต.ท.ทักษิณ จะหายไปจากโลกนี้ หรือยินยอมที่จะเลือกไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแล้ว โดยเดินทางไปอยู่ต่างประเทศตลอดชีวิต เราก็ขอยืนยันว่าคนเสื้อแดงก็จะไม่หยุดเคลื่อนไหว
ทักษิณจะอ้าปากที่ฮ่องกงวันจันทร์หน้า
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานวานนี้ (25) ว่า อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร มีกำหนดจะแสดงปาฐกถาที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศของฮ่องกงในวันจันทร์หน้า (2มี.ค.) คณะผู้จัดงานเผย ถือเป็นการปรากฎตัวต่อหน้าสาธารณชนแบบนาน ๆ ครั้งของนักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพลรายนี้ ซึ่งหลบหนีออกจากประเทศบ้านเกิด หลังถูกศาลพิพากษาว่ากระทำผิดในข้อหาทุจริต พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งถูกตัดสินจำคุกในความผิดฐานคอร์รัปชั่น มีกำหนดจะแสดงปาฐกถาในวันจันทร์หน้า (2) ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศของฮ่องกง ทั้งนี้ตามการแถลงของสมาคม การเปิดเผยกำหนดการดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่ม็อบเสื้อแดงในเมืองไทยกำลังเคลื่อนขบวนปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล โดยยื่นข้อเสนอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ ทางด้านนายประหยัด หงษ์ทองคำ อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยวิเคราะห์ว่า ความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณเช่นนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า อดีตนายกฯ กำลังหมดทางเลือกที่จะทำอะไรอีกแล้วในระหว่างที่ต้องหลบหนีคดี และได้ตัดสินใจออกมาต่อสู้ "พ.ต.ท. ทักษิณถูกบีบให้เปลี่ยนแนวทางการต่อสู้" นักรัฐศาสตร์ซึ่งเกษียณอายุแล้วผู้นี้กล่าว พร้อมเสริมด้วยว่า
"ทักษิณหวังจะได้รับการสนับสนุนและเรียกคะแนนความสงสารจากนานาชาติ" "เป็นสิ่งที่ชัดเจนแล้วว่า การใช้ชีวิตลี้ภัยในต่างแดนไม่ใช่เรื่องราบรื่นอีกต่อไป เนื่องด้วยเหตุผลหลายประการ อาทิ ข้อจำกัดเรื่องวีซ่า และความจริงที่ว่า หลายประเทศไม่ต้องการให้ทักษิณใช้ดินแดนของพวกเขาเป็นฐานในการเคลื่อนไหวทางการเมือง อันจะเป็นการบั่นทอนความสัมพันธ์อันดีกับทางการไทย" นายประหยัดบอกอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะทำ "ทุกวิถีทาง" เพื่อผลักดันให้พวกพ้องของเขากลับมาจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง เช่นในรูปแบบของการจัดตั้งรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ"มีเงื่อนไข 2 ประการที่ทักษิณจะเดินกลับประเทศไทย
อย่างแรกพวกพ้องของเขาจะต้องอยู่ในรัฐบาล อีกประการคือ ผู้สนับสนุนทักษิณต้องผ่านกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อทักษิณจะไม่ถูกดำเนินคดีหรือจำคุก"
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลซึ่งกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมอยู่โดยรอบเป็นวันที่ 2 วานนี้ (25 ก.พ.) แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยังคงเดินทางเข้าทำงานที่ทำเนียบฯตามปกติ โดยนายกรัฐมนตรี ได้ออกจากบ้านพักซอยสวัสดี ถ.สุขุมวิท ตั้งแต่เวลา 07.00 น. โดยขึ้นทางด่วนมาลงที่ยมราช แล้วเลี้ยวซ้ายผ่านบ้านมนังคศิลา เลี้ยวเข้าถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษมเข้าทำเนียบฯ ด้านประตู 7 บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยจำนวนมากตลอดเส้นทาง ขณะเดียวกันนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็เดินทางเข้าทำงานที่ทำเนียบฯ ด้านประตู 7 เช่นกัน
ส่วนคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ที่ต้องเข้าพบนายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ได้นำรถมาจอดไว้ที่บริเวณถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม แล้วมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเข้าภายในทำเนียบฯก่อนจะขึ้นไปบนตึกไทยคู่ฟ้า
จากนั้นเวลา 07.55 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้ามาในทำเนียบฯ และขึ้นไปยังห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากคณะของ กทช.ประชุมหารือกับนายกรัฐมนตรีเสร็จแล้ว นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยนายสาทิตย์ ได้เดินทางออกจากทำเนียบฯ ด้านประตู 7 เพื่อเป็นประธานเปิดงานครบรอบ 79 ปี สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ที่สถานีโทรทัศน์ NBT ถ.วิภาวดีรังสิต
ขอบคุณ จนท.-เสื้อแดงไม่กระทบกัน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า เรียบร้อยดี ต้องขอบคุณ ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมที่ดำเนินการไม่ให้เกิดปัญหาหรือกระทบกระทั่งกัน ตนเข้าทำงานตามปกติ ส่วนกำหนดการณ์อื่นๆ เช่นในการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน จะมีการประชุมที่ทำเนียบฯเช่นเดิม แต่ตนจะสอบถามว่ามีความสะดวกมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากมีคนเข้าร่วมจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนจะสอบถามเรื่องการชุมนุมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่น่าจะมีประเด็นอะไรเพราะเป็นเรื่องปกติ เมื่อถามว่า เบาใจหรือไม่ว่าจะไม่เกิดความรุนแรงนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราไม่ประมาท เพราะต้องเข้าใจว่าการชุมนุมหากเกิดเหตุการณ์เล็กๆที่ไม่เข้าใจกันก็เกิดปัญหาได้
ส่วนจะมีการเจรจากับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในแง่ปฏิบัติเจ้าหน้าที่คงเจรจากันตลออเวลา อย่างไรก็ตามแม้กลุ่มผู้ชุมนุมจะเดินทางไปกระทรวงการต่างประเทศก็เป็นการแสดงออกตามข้อเรียกร้อง 4 ข้อ ซึ่งตนไม่คิดว่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไร สามารถแสดงความคิดเห็นได้
"เทพเทือก"รับแอบเจรจากับม็อบแล้ว
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ในฐานะผบ.เหตุการณ์ การชุมนุมของกลุ่มกลุ่มคนเสื้อแดง และพล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบช.น. ในฐานะ ผบ.เหตุการณ์ดูแลความปลอดภัยภายในทำเนียบรัฐบาล ได้ออกเดินตรวจความเรียบร้อย และเตรียมความพร้อมรองรับ รมว.กลาโหมอาเซียนเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี และให้กำลังใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารในการรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาล
นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องขอบคุณกลุ่มผู้ชุมนุมที่ชมุนุมโดยสงบ ไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย รวมทั้งต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงานด้วยความอดทน ส่วนตัวมองว่าไม่น่าเป็นปัญหา เพราะนายกรัฐมนตรีและตนเองก็สามารถเดินทาง เข้ามาทำงานภายในทำเนียบรัฐบาลได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลยังไม่ได้ประเมินการชุมนุมของกลุ่ม นปช. เพราะเรายังสามารถทำงานได้ตามปกติ โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่ต่อไป เพราะก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลก็ได้เจรจากับแกนนำกลุ่ม นปช.แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
อากาศร้อนสติแตกขว้างของ-ด่าทหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ขณะที่นายสุเทพ ออกมาเดินตรวจดูแล ความเรียบร้อยในการรักษาพื้นที่ทำเนียบฯ ของทหารและตำรวจ บริเวณหน้าตึกบัญชาการ ได้เกิดเหตุไม่คาดฝันโดยผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งได้ขว้างปาลูกมะพร้าวและสิ่งของ เข้าไปในทำเนียบฯ ทำให้แกนนำต้องกำชับการ์ดอาสาให้ควบคุมผู้ชุมนุมไม่ให้เข้าใกล้ รั้วทำเนียบฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุกระทบกระทั่ง แต่สภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนเกิดคุมอารมณ์ไม่อยู่ เดินเข้าไปด่าทอต่อว่าตำหนิทหาร ที่ให้ความช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลเป็นระยะ ทำให้การ์ดอาสาต้องนำตัวออกไปสงบสติอารมณ์
"สนธิ"ชี้ม็อบแม้วของปลอม
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ไม่ได้สู้เพื่อส่วนรวม แต่สู้เพื่อผลประโยชน์ของบุคคลบางกลุ่มหรือคนบางคน จึงไม่มีความอดทน ไม่สามารถชุมนุม ยืดเยื้อได้นาน ต่างจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมได้นานถึง 193 วัน ถือว่าเป็นสุดยอดของการชุมนุม ที่ทำได้นาน เนื่องจากมีจิตใจบริสุทธิ์ มีความเสียสละทำเพื่อชาติบ้านเมือง
นายสนธิ กล่าวว่า คนไทยทั่วประเทศไทยต้องตาสว่างเสียที เพราะคนเสื้อเหลืองมาเพราะความรักบ้านรักเมือง แต่คนเสื้อแดงมาชุมนุมเพื่อต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมา
"การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ยังไม่ทันไรก็บอกว่า 2-3 วัน ผมเชื่อว่า พออากาศร้อนเดี๋ยวก็หายไปหมด ถึงเวลารวบรวมเงินได้ก็ขนกันขึ้นมา ถ้าอยู่จริง ทำไมนายขวัญชัย ไพรพนา จึงต้องพาคนกลับ จ.อุดรธานี ยังไม่ทันข้ามคืน ตกเย็นก็กลับแล้ว ฉะนั้นดูเจตนาเห็นชัดแล้วว่าเป็นของปลอม"
ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมดังกล่าวจะสามารถพา พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาได้หรือไม่ นายสนธิกล่าวว่า ลำบาก พ.ต.ท.ทักษิณอยากใช้ความรุนแรง แต่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยึดมั่นในหลักการ เชื่อว่าแม้กลุ่มคนเสื้อแดงจะล้อมทำเนียบฯ อย่างไรก็ตามแต่ นายกฯ คงไม่ปราบ ปล่อยให้ทำไป แต่อย่ามาทำอะไรให้เสียหาย เพราะฉะนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงจึงเสียเปรียบ
พธม.แนะเสื้อแดงทบทวนการเคลื่อนไหว
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า เชื่อว่าแกนนำ นปช.คงต้องทบทวนการเคลื่อนไหว เพราะการกำหนด เป้าหมายแตกหักกับรัฐบาลในการชุมนุมครั้งนี้ สถานการณ์ยังไม่สุกงอมพอ มวลชนไม่พร้อม ที่สำคัญสังคมยังไม่รู้สึกว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นจำเลยหรือตกเป็นผู้ต้องหา เว้นเสียแต่ว่าหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจฝ่ายค้านสามารถเปิดแผลรัฐบาลได้ การเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลถึงจะมีความชอบธรรมมากกว่านี้
"ปัจจัยชี้แพ้ชี้ชนะระหว่างรัฐบาลกับ นปช.จะอยู่ที่หลังการอภิปรายฯ ถ้าฝ่ายค้านมีหลักฐานเด็ดๆ อาจปลุกมวลชนออกมาร่วมมากขึ้น แต่ถ้าไม่อะไรไม่สมราคาคุยฝ่ายค้านก็จบเห่ และส่งผลต่อนายใหญ่คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะอยู่ลำบากมากขึ้น เพราะความชอบธรรมจะตกเป็นของรัฐบาลในที่สุด"
นายสุริยะใส เตือนว่าถ้าขืนยังปักหลักยืดเยื้อในช่วงนี้จะเป็นการทำลายตัวแองทั้งขวัญกำลังใจและความฮึกเหิมของมวลชน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าวันนี้คนหายไป มากกว่าครึ่งหนึ่ง และถ้าแกนนำยังดื้อดึงไม่ทบทวนการเคลื่อนไหวจะถูกแรงกดดัน หรือถูกต่อต้านจากสังคมมากกว่านี้ แทนที่การชุมนุมจะกดดันรัฐบาลแต่กลุ่มผู้ชุมนุมจะถูกกดดันจากสังคมเสียเอง
เย้ยแค่ระบายแค้นโจมตีแต่ พธม.
นายสุริยะใส กล่าวว่าจุดผิดพลาดประการหนึ่งของการชุมนุมรอบนี้ก็คือ การโจมตีพันธมิตรฯมากเป็นพิเศษ ซึ่งถูกโจมตีมากกว่ารัฐบาลด้วยซ้ำ แกนนำ ไม่ให้ความสำคัญกับการเปิดแผลหรือตรวจสอบรัฐบาลเท่าที่ควร ทั้งๆ ที่พันธมิตรฯ ไม่ใช่รัฐบาลไม่มีอำนาจอะไร ยังถูกดำเนินคดีด้วยซ้ำ อาจเป็นเหตุให้สังคมรู้สึกได้ว่า การชุมนุมครั้งนี้ระบายแค้นมากกว่าเรียกร้องทางการเมือง
อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะประเมินการเคลื่อนไหวของ นปช.ต่ำไม่ได้ เพราะอาจได้แนวร่วมจากกลุ่มประชาชนผู้เดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจ เช่น ปัญหา คนตกงาน และปัญหาจากนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาลที่เริ่มมีการชุมนุม เรียกร้องถี่ขึ้น รัฐบาลจะต้องมีกลไกที่ไวต่อการแก้ปัญหาปากทท้อง หรือความเดือดร้อนของชาวบ้าน ไม่ใช่รอให้เขามาเดินขบวนค่อยไปเจรจา
ม็อบถ่อยโห่ รมว.กห.อาเซียนพบ"มาร์ค"
ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และพล.อ.อภิชาติ เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย รัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน และคณะ 9 ชาติ ประกอบด้วย กัมพูชา สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว มาเลเซีย พม่า อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และบรูไน ทยอยเดินทางเข้าทำเนียบฯ และเข้าห้องประชุมในตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อหารือนอกรอบกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตามกำหนดการนัดหมาย เวลา 15.00 น. และทันทีที่ขบวนมาถึงหน้าตึกไทยคู่ฟ้า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง เป็นผู้ลงมาให้การต้อนรับด้วยตัวเอง และระหว่างที่ขบวนเข้ามาถึงหน้าทำเนียบฯ ตำรวจและทหารที่เฝ้าระวังเหตุภายในทำเนียบฯ ตรึงกำลังดูแลอย่างใกล้ชิด
เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เกาะริมรั้วทำเนียบฯ ตบเท้าตบ และตบหัวใจ พร้อมตะโกนโห่ร้องที่มาของรัฐบาล ส่วนนายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปช. ก็ขึ้นเวทีปราศรัยเป็นภาษาอังกฤษ วิจารณ์ที่มาของรัฐบาล และนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.ที่ตั้งแถวและเดินเท้าออกจากทำเนียบรัฐบาลมุ่งหน้าไปกระทรวงการต่างประเทศ
นายกฯ เมินม็อบบอกฟังเพลงสบายหู
ต่อมาเวลา 15.00 น. นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางมาถึงตึกไทยคู่ฟ้าเป็นคันสุดท้าย เพื่อเข้าร่วมประชุมอาเซียน กับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศอาเซียน ท่ามกลางเสียงโห่ร้องและขับไล่ของกลุ่มนปช. ซึ่งทันทีที่ลงจากรถนายอภิสิทธิ์ได้แวะยืนคุยกับนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายอิสรา สุนทรวัฒน์ ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า โดยนายกฯ กล่าวด้วยสีหน้าปกติว่า "ที่ผู้ชุมนุมเปิดเพลงของวิสา คัญทัพ ตอนเช้าๆ ผมรู้สึกชอบ ไม่เป็นไร เพราะชอบเพลงสไตล์นี้ สบายหูดี"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ ได้ใช้เวลาหารือกับรมว. กลาโหม และปลัดกระทรวงกลาโหมอาเซียนประมาณ 30 นาที ก่อนเดินทางกลับไปยังรัฐสภา โดยระหว่างนี้กลุ่มเสื้อแดงได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่นไปทั่วทำเนียบฯ เพื่อรบกวนการหารือ
ระดมพล1พันกดดันกษิตได้แค่ 200
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เย็นวันเดียวกันกลุ่มคนเสื้อแดง 200 คน เดินทางจากทำเนียบรัฐบาลไปยังกระทรวงต่างประเทศ ถ.ศรีอยุธยา พร้อมทั้งพยายามปิดถนน เพื่อกดดันนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ นายจักรภพ เพ็ญแข และแกนนำนปช. ได้ปราศรัยขอกำลังคนประมาณ 1,000 คน ปิดล้อมกระทรวงดังกล่าว แต่เนื่องจากมีผู้ชุมนุมน้อยจึงมีคนไปร่วมเพียง 200 คน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูกระทรวงต่างประเทศด้านหน้าแล้ว รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจโบกรถที่สัญจรผ่านมา แต่การจราจรยังคงค่อนข้างติดขัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางไปถึงกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวโจมตีนายกษิต ขณะที่อีกกลุ่ม ได้มีการเผารูปนายกษิต รวมทั้งปาไข่ และใช้ตีนตบตีเพื่อขับไล่ บริเวณกระทรวงการต่างประเทศ ด้านถนนพระราม 6 ด้วย
นปช.อ้างไม่ได้ไล่รัฐบาลแค่มาทวง 4 ข้อ
วันเดียวกัน นปช.ได้ออกแถลงการณ์อ้างว่า นปช.ยังเปิดโอกาสให้รัฐบาลทำงานแก้ปัญหาประเทศชาติโดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ได้เคลื่อนไหวโดยไร้เหตุผล และฝืนกระแสสังคคม แต่มาฟ้งข้อเรียกร้อบ 4 ข้อของ นปช.ที่ยื่นไว้ในวันที่ 31 ม.ค.2552 คือ 1. เร่งรัดคดีพันธมิตรฯ 2.ปลดนายกษิต ภิรมย์ ออกจาก รมว.ต่างประเทศ 3. รับร่าง รธน.ฉบับของ คณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ(คปพร.) ภายใน 15 วัน หรือยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2550 และกลับไปใช้รัฐธรรมนูญ 2540 ทันที และ4. เมื่อประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่แล้ว ให้ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนทันที เมื่อได้รับการสนองตอบจึงต้องชุมนุมกดดัน
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจักรภพ เพ็ญแข นายแพทย์เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายณัฐวุฒิ อ้างว่าว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมตามที่ถูกกล่าวหา อยากจะบอกไปถึงนายอภิสิทธิ์และคนในรัฐบาลว่า ควรสลัดความกลัว และอาการหลอนพ.ต.ท.ทักษิณ ออกให้หมด เพราะกลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวโดยไม่จำเป็นต้องมีการบงการจากใคร และพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในฐานะแนวร่วมหนึ่งเท่านั้น แม้พ.ต.ท.ทักษิณ จะหายไปจากโลกนี้ หรือยินยอมที่จะเลือกไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแล้ว โดยเดินทางไปอยู่ต่างประเทศตลอดชีวิต เราก็ขอยืนยันว่าคนเสื้อแดงก็จะไม่หยุดเคลื่อนไหว
ทักษิณจะอ้าปากที่ฮ่องกงวันจันทร์หน้า
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานวานนี้ (25) ว่า อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร มีกำหนดจะแสดงปาฐกถาที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศของฮ่องกงในวันจันทร์หน้า (2มี.ค.) คณะผู้จัดงานเผย ถือเป็นการปรากฎตัวต่อหน้าสาธารณชนแบบนาน ๆ ครั้งของนักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพลรายนี้ ซึ่งหลบหนีออกจากประเทศบ้านเกิด หลังถูกศาลพิพากษาว่ากระทำผิดในข้อหาทุจริต พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งถูกตัดสินจำคุกในความผิดฐานคอร์รัปชั่น มีกำหนดจะแสดงปาฐกถาในวันจันทร์หน้า (2) ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศของฮ่องกง ทั้งนี้ตามการแถลงของสมาคม การเปิดเผยกำหนดการดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่ม็อบเสื้อแดงในเมืองไทยกำลังเคลื่อนขบวนปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล โดยยื่นข้อเสนอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ ทางด้านนายประหยัด หงษ์ทองคำ อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยวิเคราะห์ว่า ความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณเช่นนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า อดีตนายกฯ กำลังหมดทางเลือกที่จะทำอะไรอีกแล้วในระหว่างที่ต้องหลบหนีคดี และได้ตัดสินใจออกมาต่อสู้ "พ.ต.ท. ทักษิณถูกบีบให้เปลี่ยนแนวทางการต่อสู้" นักรัฐศาสตร์ซึ่งเกษียณอายุแล้วผู้นี้กล่าว พร้อมเสริมด้วยว่า
"ทักษิณหวังจะได้รับการสนับสนุนและเรียกคะแนนความสงสารจากนานาชาติ" "เป็นสิ่งที่ชัดเจนแล้วว่า การใช้ชีวิตลี้ภัยในต่างแดนไม่ใช่เรื่องราบรื่นอีกต่อไป เนื่องด้วยเหตุผลหลายประการ อาทิ ข้อจำกัดเรื่องวีซ่า และความจริงที่ว่า หลายประเทศไม่ต้องการให้ทักษิณใช้ดินแดนของพวกเขาเป็นฐานในการเคลื่อนไหวทางการเมือง อันจะเป็นการบั่นทอนความสัมพันธ์อันดีกับทางการไทย" นายประหยัดบอกอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะทำ "ทุกวิถีทาง" เพื่อผลักดันให้พวกพ้องของเขากลับมาจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง เช่นในรูปแบบของการจัดตั้งรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ"มีเงื่อนไข 2 ประการที่ทักษิณจะเดินกลับประเทศไทย
อย่างแรกพวกพ้องของเขาจะต้องอยู่ในรัฐบาล อีกประการคือ ผู้สนับสนุนทักษิณต้องผ่านกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อทักษิณจะไม่ถูกดำเนินคดีหรือจำคุก"
