ASTVผู้จัดการรายวัน - เวลา 14.00 น.วานนี้ (17 เม.ย.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะเเกนนำคนเสื้อเเดงที่โดนหมายจับของตำรวจนั้เเละหายตัวไปตั้งเเต่วันที่ 14 เม.ย.ได้ปรากฎตัวที่พรรคเพื่อไทยโดยนายจตุพร มีสีหน้าอิดโรยคล้ายไม่ได้นอนมาหลายวันเเละยังใส่เสื้อเเดงขึ้นไปประชุมกับเเกนนำพรรคเพื่ไทยโดยนายจตุพรกล่าวสั้นๆว่าเวลา 14.40 น.จะลงไปเเถลงข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่าย เเกนนำพรรคเพื่อไทย สมาชิกบ้านเลขที่ 111 และคนใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเช่นนายพายัพ ชินวัตร รวมทั้งนายจตุพรได้นัดประชุมเพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวของคนเสื้อเเดง
ต่อมาเวลา 14.50 น. นายจตุพรแถลงว่า หลายวันที่ผ่านมามีการให้ข่าวว่าตนหลบหนี ขอเรียนว่าวันที่ 14 เม.ย. หลังการปราศรัยในช่วงเช้าวันนั้น ตนได้ไปตระเวนตรวจสถานการณ์รอบทำเนียบฯ พบว่ามีทางออกเพียงจุดเดียวคือคลองผดุงกรุงเกษม ที่เหลือโดนปิดล้อมแบบปิดตาย เหตุที่ตนต้องออกไปประเมินสถานการณ์นั้น เพราะคนเสื้อแดงเหลืออยู่น้อย แต่การปิดล้อมที่มีทหาร กองโจรพันธมิตรฯและคนเสื้อน้ำเงินของนายเนวิน ชิดชอบ ที่ติดอาวุธทั้งหมดบีบเข้ามาแล้ว ที่ผ่านมาคนเสื้อแดงตายไปหลายสิบคน ในวันนั้นแกนนำไม่ต้องการประชาชนเสียชีวิตไปมากกว่านี้เมื่อแกนนำประเมินสถานการณ์แล้วจึงตัดสินใจว่าควรยุติการชุมนุมไปก่อน
นายจตุพรกล่าวว่า ในวันนั้นแกนนำคนอื่นๆจึงมอบตัว ตนอยากจะกลับเข้าพื้นที่ แต่ก็กลับไม่ได้ เพราะถูกปิดล้อมไว้หมดและช่วงที่ผ่านมาก็ไปประเมินสถานการณ์โดยรอบแล้ว ฉะนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปตนจะตอบโต้ทุกประเด็นจนกว่าจะถึงวันที่ 22 เม.ย. ซึ่งตนจะไปประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอให้สภาโหวตให้ตนเข้ามอบตัว ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ส.ส.ซึ่งอยู่ในสมัยประชุมและมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง แต่ต้องโดนดำเนินคดีนั้นต้องถามมติที่ประชุมโดยใช้เสียงข้างมากโหวตว่าควรส่งตนให้ตำรวจไปดำเนินคดีหรือไม่ ตนท้าให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯไปล็อบบี้พรรคร่วมรัฐบาลให้ส่งตนไปดำเนินคดีเลยเพราะเสียงของพรรคฝ่ายค้านไม่พออยู่แล้ว และในวันนั้นตนจะเรื่องทั้งหมดที่สภา แล้วจะเข้ามอบตัวทันที
“แล้วก็จะดูด้วยว่า สภาเคยไม่อนุมัติให้ส่งตัวนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะแกนนำพันธมิตรฯ ไปดำเนินคดี ก็จะดูว่ากรณีตนจะเป็น 2 มาตรฐานหรือไม่ จะมีการดำเนินการกับคนเสื้อแดงเพียงฝ่ายเดียวหรือไม่“
นายจตุพรกล่าวว่า การยุติการชุมนุมนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่นายอภิสิทธิ์ เป็นฆาตกรที่ฆ่าประชาชนสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง แหล่งข่าวในกองทัพบอกกับตนว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ใช้จำนวนทหารมากเกินไป จนดูเหมือนการยึดอำนาจ ขอถามว่า ทำไมทหารไม่ออกมาอย่างนี้ในช่วงที่พันธมิตรฯยึดสนามบินบ้าง
ส่วนเหตุปะทะกันในพื้นที่ต่างๆนั้น ขอย้ำว่า คนเสื้อไม่เคยมีปัญหากับประชาชนโดยเฉพาะย่านนางเลิ้ง แต่พื้นที่นั้นคนเสื้อแดงโดนตีตาย 3ศพ แต่ไม่พบศพเหล่านี้ที่สน.นางเลิ้งเลย รวมทั้งหลายศพที่ดินแดงก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้เลย มันจึงอดทนไม่ได้แล้วมีการนำถึงแก๊สมาขู่บ้าง ตนทราบว่าที่ผ่านมามีการใช้ปืนเอ็ม16 และปืนอาก้า ซึ่งไม่ใช่อาวุธของคนเสื้อแดง
นายจตุพรกล่าวว่า วันนี้คนเสื้อแดงกลายเป็นจำเลยจากการให้ข่าวจากฝ่ายรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว ฉะนั้นตนขอตั้งรางวัลนำจับให้คนที่ชี้เบาะแสคดีฆ่าประชาชนย่านนางเลิ้ง 2 ราย คดีละ 5 แสนบาท รวมทั้งการให้เบาะแสคดียิงมัสยิดย่านซอยเพชรบุรี 5-7 อีก 5 แสนบาทเช่นกัน เพราะคนเสื้อแดงไม่มีเหตุผลที่ไปทะเลาะประชาชน
นายจตุพรกล่าวว่า ขอให้คนเสื้อแดงช่วยกันตามหาศพและหลักฐานต่างๆ แล้วมาส่งให้ที่พรรคเพื่อไทย หรือที่สมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.) ภายใน1สัปดาห์แล้วเชื่อว่าความจริงน่าจะปรากฏว่ารัฐบาลทำให้คนเสียชีวิตมากขนาดนี้ โดยคิดว่าชีวิตประชาชนคือผักปลา แต่แกนนำคนเสื้อแดงไม่ได้คิดแบบนั้น การสูญเสียครั้งนี้มันเหมือนเหตุการณ์เดือนตุลา และร้ายแรงกว่าเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ คือรัฐบาลให้ข่าวเพียงฝ่ายเดียว และมีการเก็บศพไป ซึ่งนายทหารชั้นผู้ใหญ่น่าจะรู้ แต่เรื่องเหล่านี้มันจะปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือได้ไม่กี่วัน คนเสื้อแดงก็จะได้รับความเป็นธรรม
เมื่อถามว่ากรณีที่คนเสื้อแดงไปบุกยึดสถานที่ต่างๆจะรับผิดชอบอย่างไร นายจตุพรกล่าวว่า สถานการณ์มันลุกลามเพราะนายเนวิน และนายสุเทพ กรณีนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่ามีการสร้างสถานการณ์ร่วมหลายพื้นที่จนคนเสื้อแดงคิดว่าจะมีการฆ่าประชาชนที่ทำเนียบฯ เพราะมีหลักฐานต่างๆเยอะมาก เช่นปลอกกระสุนปืน กางเกงและรองเท้าของคนเสื้อแดงที่เสียชีวิต ใครไม่อยู่ในพื้นที่แบบนั้นก็คงไม่รู้สึกว่าการถูกล้อมฆ่าเป็นอย่างไร เมื่อถามว่าถึงความรับผิดชอบถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น นายตู่ กล่าวว่า การปิดถนนของคนเสื้อแดงก็มีความผิด แต่ต้องว่าไปตามความผิด ไม่ใช่มาฆ่าประชาชนแบบนี้
เมื่อถามว่ากรณีที่คนเสื้อแดงยึดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และจะเผารถแก๊สสามคันการทำแบบนี้เหมือนเอาประชาชนผู้บริสุทธิ์มาเป็นตัวประกัน นายจตุพรกล่าวว่า การปิดอุนสาวรีย์ชัยสมรภูมินั้นผิดแค่พ.ร.บ.จราจรแต่ไม่ต้องฆ่าประชาชน ส่วนกรณีรถแก๊สนั้นขอถามว่าสิ่งต่างๆที่พันธมิตรฯกระทำแกนนำพันธมิตรฯจะรับผิดชอบหรือไม่ เรื่องรถแก๊สนั้นแกนนำไม่รู้ว่าใครเอาไป และจะไม่รู้จะรับผิดชอบอย่างไร เพราะตอนนั้นสถานการณ์เฉพาะหน้าที่คนเสื้อแดงรู้สึกว่าโดนทหารยิง ก็ต้องมีการหาอะไรมากำบังบ้าง ตนไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ หากคนเสื้อแดงทำผิดก็ว่ากันไปตามผิด จะได้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าคนเสื้อแดงจะได้รับระบบสองมาตรฐานหรือความยุติธรรมที่จริง ส่วนท่าทีในอนาคตของคนเสื้อแดงและได้ประเมินหรือไม่การชุมนุมของนปช.แพ้หรือชนะ นายจตุพร กล่าวว่า ไม่มีการประเมินแต่พูดได้คำเดียวว่ามีสิ่งทีคาดไม่ถึงคือ การใช้ทหารฆ่าประชาชน
เมื่อถามว่าได้ติดต่อนายจักรภพและพ.ต.ท.ทักษิณ บ้างหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ไม่ได้คุยกับนายจักรภพ แต่ตน ได้คุยกันบ้างอดีตนายกฯแล้วอดีตนายกฯบอกว่าเสียใจและเป็นห่วงประชาชน เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะร่วมรับผิดชอบอย่างไร นายจตุพร ย้อนถามว่า จะให้รับผิดชอบอะไร นายอภิสิทธิ์ต่างหากที่ต้องรับผิดชอบ เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เคยประกาศหากมีเสียงปืนดังขึ้นเมื่อใดจะกลับไทยเพื่อนำประชาชนมาต่อสู้ แต่ล่าสุดอดีตนายกฯได้บอกกับสื่อต่างประเทศจะยังไม่กลับในช่วงนี้ นายจตุพร กล่าวว่า คอยดูแล้วกัน
**เทพไทท้าไอ้ตู่โชว์หลักฐานคนตาย**
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ยืนยันว่ามีคนเสียชีวิตในการสลายการชุมนุมจากการก่อเหตุจลาจล ทั่ว กทม. รวมถึงการเผารถเมล์ล้วนแล้วเป็นฝีมือของรัฐบาลทั้งสิ้นว่า นายจตุพร ยังไม่ได้สำนึกผิดในการประทำของตนเองเหมือนกับพ.ต.ท.ทักษิณ ลูกพี่ของตัวเองที่ยังทำตัวเป็นผู้รายปากแข็ง โยนความผิดให้ผู้อื่น ทั้งที่ข้อเท็จจริงก็ได้เปิดเผยจากสื่อมวลชนทั้งไทยและเทศ ส่วนการที่นายจตุพร หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น เข้าใจว่าคงไปปั้นแต่งข้อมูลเพื่อมาแก้ตัวต่อสาธารณชน ที่ทอดทิ้งมวลชนคนเสื้อแดงโดยไม่รับผิดชอบใดๆ แต่ในที่สุดก็เป็นข้อมูลเก่า ที่ทุกครั้งเมื่อมีเหตุรุนแรงก็โยนความผิดให้รัฐบาล แต่ครั้งนี้กลับตรงกันข้าม ความผิดและความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของคนเสื้อแดงทั้งสิ้น ถ้านายจตุพรมีข้อมูลจริงขอให้นำมาแสดงต่อสื่อมวลชน ไม่จำเป็นต้องตั้งค่าหัวให้รางวัลค่าชี้เบาะแส หรือเป็นเพราะรู้ว่าไม่มีเบาะแสใดๆจึงกล้าตั้งรางวัลที่สูงถึง 5 แสนบาท
ส่วนกรณีที่นายจตุพร ประกาศจะเดินเข้าสภาฯในวันที่ 22 เม.ย. เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและให้สภาฯอนุมัติการใช้เอกสิทธิ์ส.ส.คุ้มครองนั้น ตนขอแนะนำว่า ก่อนที่จะเดินเข้าสภาฯก็ควรเดินเข้าห้องขัง โดยการมอบตัวให้ข้อเท็จจริงต่อตำรวจดีกว่าทำตัวหลบๆซ่อนๆแล้วโผล่ออกมาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น ความรับผิดชอบของแกนนำ นปช.ที่เกิดขึ้นนี้ สร้างความเสียหายให้ชาติใหญ่หลวง ไม่ควรโยนความผิดให้รัฐบาล การใส่ร้ายว่ามีการปลอมตัวเป็นคนเสื้อแดง เผารถเมล์และนำรถแก๊สมาก่อวินาศกรรมเอาประชาชนเป็นตัวประกัน ไม่ใช่เป็นฝีมือคนเสื้อแดง
"อยากถามว่า คนเสื่อแดงที่ปิดล้อมและทำร้ายขบวนรถนายกฯที่พัทยา การบุกโรงแรมรอยัล คลิฟบีช รีสอร์ต จนล้มการประชุมอาเซี่ยนซัมมิท การทำร้ายนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการนายกรัฐมนตรีที่กระทรวงมหาดไทยและยึดอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ รปภ.ขอถามว่าเป็นคนกลุ่มเดียวกันใช่หรือไม่ และจะรับผิดชอบอย่างไร เหตุการณ์ที่พัทยาและกระทรวงมหาดไทย ได้ปรากฏภาพแกนนำ นปช.ที่ชัดเจนว่ามีใครบ้างเป็นหัวโจก นายจตุพรยังมีหน้ามาปฏิเสธความรับผิดชอบโดยไม่สำนึก และเชื่อว่าเหตุรุนแรงทั้งหมดเป็นฝีมือของคนเสื้อแดงกลุ่มเดียวกัน ภายใต้การบงการของแกนำชุดนี้ทั้งสิ้น จึงอย่าเบี่ยงเบนประเด็นเอาตัวรอดให้สังคมสับสน คุณอย่ายัดเยียดข้อฆาตกรให้กับคนอื่นเพราะ คุณคือฆาตกรตัวจริง ใช่หรือไม่ ขอให้มีความเป็นลูกผู้ชายด้วย".
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่าย เเกนนำพรรคเพื่อไทย สมาชิกบ้านเลขที่ 111 และคนใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเช่นนายพายัพ ชินวัตร รวมทั้งนายจตุพรได้นัดประชุมเพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวของคนเสื้อเเดง
ต่อมาเวลา 14.50 น. นายจตุพรแถลงว่า หลายวันที่ผ่านมามีการให้ข่าวว่าตนหลบหนี ขอเรียนว่าวันที่ 14 เม.ย. หลังการปราศรัยในช่วงเช้าวันนั้น ตนได้ไปตระเวนตรวจสถานการณ์รอบทำเนียบฯ พบว่ามีทางออกเพียงจุดเดียวคือคลองผดุงกรุงเกษม ที่เหลือโดนปิดล้อมแบบปิดตาย เหตุที่ตนต้องออกไปประเมินสถานการณ์นั้น เพราะคนเสื้อแดงเหลืออยู่น้อย แต่การปิดล้อมที่มีทหาร กองโจรพันธมิตรฯและคนเสื้อน้ำเงินของนายเนวิน ชิดชอบ ที่ติดอาวุธทั้งหมดบีบเข้ามาแล้ว ที่ผ่านมาคนเสื้อแดงตายไปหลายสิบคน ในวันนั้นแกนนำไม่ต้องการประชาชนเสียชีวิตไปมากกว่านี้เมื่อแกนนำประเมินสถานการณ์แล้วจึงตัดสินใจว่าควรยุติการชุมนุมไปก่อน
นายจตุพรกล่าวว่า ในวันนั้นแกนนำคนอื่นๆจึงมอบตัว ตนอยากจะกลับเข้าพื้นที่ แต่ก็กลับไม่ได้ เพราะถูกปิดล้อมไว้หมดและช่วงที่ผ่านมาก็ไปประเมินสถานการณ์โดยรอบแล้ว ฉะนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปตนจะตอบโต้ทุกประเด็นจนกว่าจะถึงวันที่ 22 เม.ย. ซึ่งตนจะไปประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอให้สภาโหวตให้ตนเข้ามอบตัว ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ส.ส.ซึ่งอยู่ในสมัยประชุมและมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง แต่ต้องโดนดำเนินคดีนั้นต้องถามมติที่ประชุมโดยใช้เสียงข้างมากโหวตว่าควรส่งตนให้ตำรวจไปดำเนินคดีหรือไม่ ตนท้าให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯไปล็อบบี้พรรคร่วมรัฐบาลให้ส่งตนไปดำเนินคดีเลยเพราะเสียงของพรรคฝ่ายค้านไม่พออยู่แล้ว และในวันนั้นตนจะเรื่องทั้งหมดที่สภา แล้วจะเข้ามอบตัวทันที
“แล้วก็จะดูด้วยว่า สภาเคยไม่อนุมัติให้ส่งตัวนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะแกนนำพันธมิตรฯ ไปดำเนินคดี ก็จะดูว่ากรณีตนจะเป็น 2 มาตรฐานหรือไม่ จะมีการดำเนินการกับคนเสื้อแดงเพียงฝ่ายเดียวหรือไม่“
นายจตุพรกล่าวว่า การยุติการชุมนุมนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่นายอภิสิทธิ์ เป็นฆาตกรที่ฆ่าประชาชนสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง แหล่งข่าวในกองทัพบอกกับตนว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ใช้จำนวนทหารมากเกินไป จนดูเหมือนการยึดอำนาจ ขอถามว่า ทำไมทหารไม่ออกมาอย่างนี้ในช่วงที่พันธมิตรฯยึดสนามบินบ้าง
ส่วนเหตุปะทะกันในพื้นที่ต่างๆนั้น ขอย้ำว่า คนเสื้อไม่เคยมีปัญหากับประชาชนโดยเฉพาะย่านนางเลิ้ง แต่พื้นที่นั้นคนเสื้อแดงโดนตีตาย 3ศพ แต่ไม่พบศพเหล่านี้ที่สน.นางเลิ้งเลย รวมทั้งหลายศพที่ดินแดงก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้เลย มันจึงอดทนไม่ได้แล้วมีการนำถึงแก๊สมาขู่บ้าง ตนทราบว่าที่ผ่านมามีการใช้ปืนเอ็ม16 และปืนอาก้า ซึ่งไม่ใช่อาวุธของคนเสื้อแดง
นายจตุพรกล่าวว่า วันนี้คนเสื้อแดงกลายเป็นจำเลยจากการให้ข่าวจากฝ่ายรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว ฉะนั้นตนขอตั้งรางวัลนำจับให้คนที่ชี้เบาะแสคดีฆ่าประชาชนย่านนางเลิ้ง 2 ราย คดีละ 5 แสนบาท รวมทั้งการให้เบาะแสคดียิงมัสยิดย่านซอยเพชรบุรี 5-7 อีก 5 แสนบาทเช่นกัน เพราะคนเสื้อแดงไม่มีเหตุผลที่ไปทะเลาะประชาชน
นายจตุพรกล่าวว่า ขอให้คนเสื้อแดงช่วยกันตามหาศพและหลักฐานต่างๆ แล้วมาส่งให้ที่พรรคเพื่อไทย หรือที่สมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.) ภายใน1สัปดาห์แล้วเชื่อว่าความจริงน่าจะปรากฏว่ารัฐบาลทำให้คนเสียชีวิตมากขนาดนี้ โดยคิดว่าชีวิตประชาชนคือผักปลา แต่แกนนำคนเสื้อแดงไม่ได้คิดแบบนั้น การสูญเสียครั้งนี้มันเหมือนเหตุการณ์เดือนตุลา และร้ายแรงกว่าเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ คือรัฐบาลให้ข่าวเพียงฝ่ายเดียว และมีการเก็บศพไป ซึ่งนายทหารชั้นผู้ใหญ่น่าจะรู้ แต่เรื่องเหล่านี้มันจะปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือได้ไม่กี่วัน คนเสื้อแดงก็จะได้รับความเป็นธรรม
เมื่อถามว่ากรณีที่คนเสื้อแดงไปบุกยึดสถานที่ต่างๆจะรับผิดชอบอย่างไร นายจตุพรกล่าวว่า สถานการณ์มันลุกลามเพราะนายเนวิน และนายสุเทพ กรณีนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่ามีการสร้างสถานการณ์ร่วมหลายพื้นที่จนคนเสื้อแดงคิดว่าจะมีการฆ่าประชาชนที่ทำเนียบฯ เพราะมีหลักฐานต่างๆเยอะมาก เช่นปลอกกระสุนปืน กางเกงและรองเท้าของคนเสื้อแดงที่เสียชีวิต ใครไม่อยู่ในพื้นที่แบบนั้นก็คงไม่รู้สึกว่าการถูกล้อมฆ่าเป็นอย่างไร เมื่อถามว่าถึงความรับผิดชอบถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น นายตู่ กล่าวว่า การปิดถนนของคนเสื้อแดงก็มีความผิด แต่ต้องว่าไปตามความผิด ไม่ใช่มาฆ่าประชาชนแบบนี้
เมื่อถามว่ากรณีที่คนเสื้อแดงยึดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และจะเผารถแก๊สสามคันการทำแบบนี้เหมือนเอาประชาชนผู้บริสุทธิ์มาเป็นตัวประกัน นายจตุพรกล่าวว่า การปิดอุนสาวรีย์ชัยสมรภูมินั้นผิดแค่พ.ร.บ.จราจรแต่ไม่ต้องฆ่าประชาชน ส่วนกรณีรถแก๊สนั้นขอถามว่าสิ่งต่างๆที่พันธมิตรฯกระทำแกนนำพันธมิตรฯจะรับผิดชอบหรือไม่ เรื่องรถแก๊สนั้นแกนนำไม่รู้ว่าใครเอาไป และจะไม่รู้จะรับผิดชอบอย่างไร เพราะตอนนั้นสถานการณ์เฉพาะหน้าที่คนเสื้อแดงรู้สึกว่าโดนทหารยิง ก็ต้องมีการหาอะไรมากำบังบ้าง ตนไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ หากคนเสื้อแดงทำผิดก็ว่ากันไปตามผิด จะได้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าคนเสื้อแดงจะได้รับระบบสองมาตรฐานหรือความยุติธรรมที่จริง ส่วนท่าทีในอนาคตของคนเสื้อแดงและได้ประเมินหรือไม่การชุมนุมของนปช.แพ้หรือชนะ นายจตุพร กล่าวว่า ไม่มีการประเมินแต่พูดได้คำเดียวว่ามีสิ่งทีคาดไม่ถึงคือ การใช้ทหารฆ่าประชาชน
เมื่อถามว่าได้ติดต่อนายจักรภพและพ.ต.ท.ทักษิณ บ้างหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ไม่ได้คุยกับนายจักรภพ แต่ตน ได้คุยกันบ้างอดีตนายกฯแล้วอดีตนายกฯบอกว่าเสียใจและเป็นห่วงประชาชน เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะร่วมรับผิดชอบอย่างไร นายจตุพร ย้อนถามว่า จะให้รับผิดชอบอะไร นายอภิสิทธิ์ต่างหากที่ต้องรับผิดชอบ เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เคยประกาศหากมีเสียงปืนดังขึ้นเมื่อใดจะกลับไทยเพื่อนำประชาชนมาต่อสู้ แต่ล่าสุดอดีตนายกฯได้บอกกับสื่อต่างประเทศจะยังไม่กลับในช่วงนี้ นายจตุพร กล่าวว่า คอยดูแล้วกัน
**เทพไทท้าไอ้ตู่โชว์หลักฐานคนตาย**
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ยืนยันว่ามีคนเสียชีวิตในการสลายการชุมนุมจากการก่อเหตุจลาจล ทั่ว กทม. รวมถึงการเผารถเมล์ล้วนแล้วเป็นฝีมือของรัฐบาลทั้งสิ้นว่า นายจตุพร ยังไม่ได้สำนึกผิดในการประทำของตนเองเหมือนกับพ.ต.ท.ทักษิณ ลูกพี่ของตัวเองที่ยังทำตัวเป็นผู้รายปากแข็ง โยนความผิดให้ผู้อื่น ทั้งที่ข้อเท็จจริงก็ได้เปิดเผยจากสื่อมวลชนทั้งไทยและเทศ ส่วนการที่นายจตุพร หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น เข้าใจว่าคงไปปั้นแต่งข้อมูลเพื่อมาแก้ตัวต่อสาธารณชน ที่ทอดทิ้งมวลชนคนเสื้อแดงโดยไม่รับผิดชอบใดๆ แต่ในที่สุดก็เป็นข้อมูลเก่า ที่ทุกครั้งเมื่อมีเหตุรุนแรงก็โยนความผิดให้รัฐบาล แต่ครั้งนี้กลับตรงกันข้าม ความผิดและความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของคนเสื้อแดงทั้งสิ้น ถ้านายจตุพรมีข้อมูลจริงขอให้นำมาแสดงต่อสื่อมวลชน ไม่จำเป็นต้องตั้งค่าหัวให้รางวัลค่าชี้เบาะแส หรือเป็นเพราะรู้ว่าไม่มีเบาะแสใดๆจึงกล้าตั้งรางวัลที่สูงถึง 5 แสนบาท
ส่วนกรณีที่นายจตุพร ประกาศจะเดินเข้าสภาฯในวันที่ 22 เม.ย. เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและให้สภาฯอนุมัติการใช้เอกสิทธิ์ส.ส.คุ้มครองนั้น ตนขอแนะนำว่า ก่อนที่จะเดินเข้าสภาฯก็ควรเดินเข้าห้องขัง โดยการมอบตัวให้ข้อเท็จจริงต่อตำรวจดีกว่าทำตัวหลบๆซ่อนๆแล้วโผล่ออกมาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น ความรับผิดชอบของแกนนำ นปช.ที่เกิดขึ้นนี้ สร้างความเสียหายให้ชาติใหญ่หลวง ไม่ควรโยนความผิดให้รัฐบาล การใส่ร้ายว่ามีการปลอมตัวเป็นคนเสื้อแดง เผารถเมล์และนำรถแก๊สมาก่อวินาศกรรมเอาประชาชนเป็นตัวประกัน ไม่ใช่เป็นฝีมือคนเสื้อแดง
"อยากถามว่า คนเสื่อแดงที่ปิดล้อมและทำร้ายขบวนรถนายกฯที่พัทยา การบุกโรงแรมรอยัล คลิฟบีช รีสอร์ต จนล้มการประชุมอาเซี่ยนซัมมิท การทำร้ายนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการนายกรัฐมนตรีที่กระทรวงมหาดไทยและยึดอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ รปภ.ขอถามว่าเป็นคนกลุ่มเดียวกันใช่หรือไม่ และจะรับผิดชอบอย่างไร เหตุการณ์ที่พัทยาและกระทรวงมหาดไทย ได้ปรากฏภาพแกนนำ นปช.ที่ชัดเจนว่ามีใครบ้างเป็นหัวโจก นายจตุพรยังมีหน้ามาปฏิเสธความรับผิดชอบโดยไม่สำนึก และเชื่อว่าเหตุรุนแรงทั้งหมดเป็นฝีมือของคนเสื้อแดงกลุ่มเดียวกัน ภายใต้การบงการของแกนำชุดนี้ทั้งสิ้น จึงอย่าเบี่ยงเบนประเด็นเอาตัวรอดให้สังคมสับสน คุณอย่ายัดเยียดข้อฆาตกรให้กับคนอื่นเพราะ คุณคือฆาตกรตัวจริง ใช่หรือไม่ ขอให้มีความเป็นลูกผู้ชายด้วย".