“วิปรัฐบาล” ย้ำข้อเรียกร้อง “ม็อบเสื้อแดง” ไม่สามารถทำได้ ระบุไม่ควรก้าวล่วงเบื้องสูงเรียกร้ององคมนตรีลาออก ชี้เป็นพระราชอัธยาศัย ยันนายกฯ ลาออกยุติปัญหาไม่ได้ ค้านม็อบขัดขวางประชุมอาเซียน วอนคิดถึงหน้าตาประเทศ อัด ส.ส.เพื่อไทย โดดประชุมสภาร่วมชุมนุมทำสภาล่ม ติงพฤติกรรมอาจขัดกฎหมายพรรคการเมือง กระทำการยั่วยุให้รุนแรง พร้อมชื่นชม 50 ส.ว.เข้าชื่อให้รัฐเปิดอภิปรายโดยไม่ลงมติ หวังใช้สภาแก้วิกฤติ
วันนี้ (9 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) แถลงถึงการติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงว่า จากการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องพบว่า แกนนำผู้ชุมนุมสามารถควบคุมการชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ปราศจากอาวุธซึ่งคิดว่าสังคมไทยยอมรับได้ แต่จากการที่แกนนำผู้ชุมนุมได้ประกาศยกระดับการต่อสู้พร้อมเรียกร้องให้ 3 องคมนตรีลาออกและให้นายกรัฐมนตรีลาออกภายในเวลา 16.00 น.วันนี้นั้น วิปรัฐบาลเห็นว่าข้อเรียกร้องดังกล่าวรัฐบาลและบุคคลที่เกี่ยวข้องไม่สามารถจะดำเนินการได้ เพราะทุกอย่างได้เป็นไปตามกระบวนการในรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะองคมนตรีได้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นเรื่องที่ไม่ควรก้าวล่วงเบื้องพระยุคลบาท
ส่วนที่เรียกร้องให้นายกฯลาออกนั้น ขอเรียนว่านายกฯ มาจากความเห็นชอบตามระบอบประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญและต้องยอมรับว่าเป็นความคาดหวังของสังคมในการเข้ามาแก้ปัญหาให้ก้าวพ้นวิกฤติของบ้านเมือง ดังนั้น การลาออกจึงไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาบ้านเมืองได้ อีกทั้งถ้านายกฯลาออกก็ยังไม่มีอะไรยืนยันว่าการชุมนุมจะยุติลง สิ่งสำคัญรัฐบาลกำลังจะจัดประชุมสุดยอดอาเซียน+3+6 ในวันที่ 10-12 เม.ย.นี้ ซึ่งทางผู้ชุมนุมเสื้อแดงจะตามไปขัดขวางการประชุม ซึ่งวิปรัฐบาลไม่เห็นด้วย เพราะประเทศไทยมีสถานะเจ้าภาพในการจัดประชุม จึงขอให้คำนึงถึงหน้าตาของประเทศด้วย
ประธานวิปรัฐบาลกล่าวอีกว่า การที่แกนนำผู้ชุมนุมประกาศยกระดับการชุมนุมนั้น ยังไม่มีชัดเจนว่าเป็นการต่อสู้กับอะไร แต่มีความเป็นไปได้ว่าจะนำไปสู่ความรุนแรงโดยมีคนบางกลุ่มได้ประโยชน์จากการชุมนุมครั้งนี้ จากการติดตามพบว่าการชุมนุมครั้งนี้ เป็นการต่อสู้ของพรรคเพื่อไทยจะเห็นว่ามี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ไปต้อนรับผู้ชุมนุมที่มาจากต่างจังหวัดและร่วมขึ้นเวทีปราศรัยจนทำให้องค์ประชุมสภาล่ม จึงขอความร่วมมือไปยังฝ่ายค้านใช้เวทีสภาในการแก้วิกฤติทางการเมืองในขณะนี้
ทั้งนี้ การที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยไปขึ้นเวทีปราศรัยอาจขัดต่อกฎหมายพรรคการเมืองที่ระบุให้สมาชิกพรรคการเมืองจะต้องปฎิบัติตามกฎหมาย จะต้องไม่กระทำการใดยั่วยุ ส่งเสริมให้เกิดความรุนแรง ซึ่งพฤติกรรมของ ส.ส.เพื่อไทยอาจขัดต่อกฎหมายดังกล่าวได้ ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านหยิบยกการเสนอญัตติด่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาการชุมนุมนั้น ทางวิปรัฐบาลก็เห็นด้วยจะเปิดให้ฝ่ายค้านทำหน้าที่อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังจะเปิดให้พรรคเพื่อไทยเข้าร่วมการปฎิรูปการเมืองและศึกษาผลกระทบจากการใช้รัฐธรรมนูญ 2550 อีกทั้งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนการเสนอร่างกฎหมายปรองดองแห่งชาติ แต่จะต้องใช้ระบบรัฐสภาในการดำเนินการ ผู้ที่ได้รับประโยชน์ไม่ใช่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
นอกจากนี้ ประธานวิปรัฐบาลยังกล่าวต่อว่า ขอชื่นชมทาง 50 ส.ว.ที่ได้เข้าชื่อตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 ขอให้รัฐบาลเปิดการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ เพื่อใช้เวทีสภาให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในการแก้ปัญหาของบ้านเมืองในขณะนี้ และเชื่อว่ารัฐบาลและคณะรัฐมนตรีมีความพร้อมและคาดว่าจะบรรจุญัตติดังกล่าวพิจารณาในเดือนพฤษภาคมนี้