นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นากยรัฐมนตรี กล่าวถึงการที่รัฐบาลสั่งให้มีการสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ที่คำให้การกรณีบริษัท ทีพีไอ โพลีน หลุดออกมา จนฝ่ายค้านนำไปกล่าวอ้างในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ตนเห็นว่ามีข่าวถึงข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องสำนวนหลุดออกไป ซึ่งรมว.ยุติธรรม เป็นผู้ตั้งข้อสังเกต ซึ่งช่วงที่ ส.ส.อ่านในสภา มีการใช้คำว่า "ข้า" ซึ่งถือว่าไม่ปกติ ถ้าไม่ใช่สำนวนการสอบสวน
อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นการกระทำผิดกฎหมายพรรคการเมือง และการเลือกตั้ง เป็นหน้าที่ของ กกต. ที่ต้องสอบสวน ตนเข้าใจว่าคดีที่ ดีเอสไอ เป็นการสอบสวนเรื่อง บริษัททีพีไอ ถ้าพบว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมายพรรคการเมือง หรือกฎหมายเลือกตั้ง ต้องส่งให้ กกต.ดำเนินการ และกกต. ก็ต้องทำเหมือนคดีอื่นๆในอดีต คือต้องตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา และเสนอมาว่าจะส่งอัยการ หรือส่งศาลหรือไม่
ส่วนข้อมูลที่รั่วออกมา ก็ต้องมีการสอบถามว่า ปกติการทำงานของดีเอสไอ ไม่ควรจะมีเรื่องข้อมูลรั่ว แต่ไม่คิดว่าเรื่องนี้ จะถึงขั้นต้องย้ายอธิบดี
ด้านพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ในเบื้องต้นจะมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่กลุ่มที่ปรึกษากฎหมาย และกลุ่มความเห็นแย้งใน ดีเอสไอ ถอดเทปการอภิปรายทั้งหมดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เกี่ยวกับคดีทีพีไอ จากนั้นจะนำมาวิเคราะห์ว่า มีเนื้อหาที่ตรงกับสำนวนการสอบสวนของดีเอสไอหรือไม่ หากมีรายละเอียดตรงกัน จะตั้งคณะกรรมการอีกชุดขึ้นตรวจสอบ
ส่วนกรณีที่นายกฯ จะตั้งกรรมการตรวจสอบนั้น สามารถใช้อำนาจบริหารสั่งการได้ เพื่อตรวจสอบความรั่วไหลได้ โดยคดีดังกล่าวมีพนักงานสอบสวนทั้งสิ้น 20 คน แต่คณะกรรมการภายนอก คงไม่สามารถเข้ามาดูรายละเอียดในสำนวนคดี เพราะกฎหมายการสอบสวนคดีพิเศษ กำหนดให้พนักงานสอบสวนเท่านั้น ที่มีอำนาจเข้าถึงข้อมูลการสอบสวน นอกจากนี้ สำนวนคดีดังกล่าวยังพาดพิงถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์จำนวนมาก ซึ่งการเข้าดูสำนวน จะทำให้เกิดความเสียหายต่อรูปคดีได้
อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นการกระทำผิดกฎหมายพรรคการเมือง และการเลือกตั้ง เป็นหน้าที่ของ กกต. ที่ต้องสอบสวน ตนเข้าใจว่าคดีที่ ดีเอสไอ เป็นการสอบสวนเรื่อง บริษัททีพีไอ ถ้าพบว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมายพรรคการเมือง หรือกฎหมายเลือกตั้ง ต้องส่งให้ กกต.ดำเนินการ และกกต. ก็ต้องทำเหมือนคดีอื่นๆในอดีต คือต้องตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา และเสนอมาว่าจะส่งอัยการ หรือส่งศาลหรือไม่
ส่วนข้อมูลที่รั่วออกมา ก็ต้องมีการสอบถามว่า ปกติการทำงานของดีเอสไอ ไม่ควรจะมีเรื่องข้อมูลรั่ว แต่ไม่คิดว่าเรื่องนี้ จะถึงขั้นต้องย้ายอธิบดี
ด้านพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ในเบื้องต้นจะมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่กลุ่มที่ปรึกษากฎหมาย และกลุ่มความเห็นแย้งใน ดีเอสไอ ถอดเทปการอภิปรายทั้งหมดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เกี่ยวกับคดีทีพีไอ จากนั้นจะนำมาวิเคราะห์ว่า มีเนื้อหาที่ตรงกับสำนวนการสอบสวนของดีเอสไอหรือไม่ หากมีรายละเอียดตรงกัน จะตั้งคณะกรรมการอีกชุดขึ้นตรวจสอบ
ส่วนกรณีที่นายกฯ จะตั้งกรรมการตรวจสอบนั้น สามารถใช้อำนาจบริหารสั่งการได้ เพื่อตรวจสอบความรั่วไหลได้ โดยคดีดังกล่าวมีพนักงานสอบสวนทั้งสิ้น 20 คน แต่คณะกรรมการภายนอก คงไม่สามารถเข้ามาดูรายละเอียดในสำนวนคดี เพราะกฎหมายการสอบสวนคดีพิเศษ กำหนดให้พนักงานสอบสวนเท่านั้น ที่มีอำนาจเข้าถึงข้อมูลการสอบสวน นอกจากนี้ สำนวนคดีดังกล่าวยังพาดพิงถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์จำนวนมาก ซึ่งการเข้าดูสำนวน จะทำให้เกิดความเสียหายต่อรูปคดีได้