xs
xsm
sm
md
lg

“องคมนตรี” เตือนสติแก๊งล้มเบื้องสูง มักมีอันเป็นไปทุกราย!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อำพน เสนาณรงค์
“อำพน เสนาณรงค์” แสดงความเป็นห่วงบ้านเมือง โดยเฉพาะการโฟนอินตีวัวกระทบคราด “แม้ว” ชี้ต้นตอปัญหาเกิดจากการคอร์รัปชันบ้านเมืองจนย่อยยับ ยกกบฏแมนฮัตตันเตือนสติขบวนการจ้องล้มล้างสถาบันเบื้องสูง เชื่อคนเหล่านั้นมักจะมีอันเป็นไปทุกราย

วันนี้ (2 เม.ย.) นายอำพน เสนาณรงค์ องคมนตรี แสดงปาฐกถาตอนหนึ่งเรื่อง “ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อชาติ และประชาชนชน” ในงานวันข้าราชการพลเรือนประจำปี 2552 ที่สำนักงานข้าราชการพลเรือน (กพ.) นนทบุรี ว่า ตนแสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะช่วงนี้มีการโฟนอินอะไรต่ออะไรมา ดังนั้น ในฐานะองคมนตรีจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ การมาพูดอะไรในที่ชุมนุมชนจึงต้องมีความระมัดระวัง ทั้งการใส่เสื้อสีต่างๆ หรือการพูดในเนื้อหาอะไร ดังนั้นอะไรที่ได้ยินมา จึงไม่กล้าที่จะนำข้อมูลอะไรใหม่ๆ มาเล่าได้ เพราะไม่สมควรที่จะมาเล่าในที่ชุมนุมชน

นายอำพนกล่าวต่อว่า ความขัดแย้งของข้าราชการการเมืองต่อข้าราชการเมือง ความขัดแย้งของข้าราชการประจำต่อข้าราชการประจำ และความขัดแย้งของข้าราชการการเมืองต่อข้าราชการประจำ มีจำนวนมาก และความขัดแย้งส่วนใหญ่สาเหตุที่วิเคราะห์กัน เกิดขึ้นจากปัญหาการคอร์รัปชันที่เกิดมาช้านานจนกลายเป็นประเพณีไทย และนิสัยการคอร์รัปชันก็เกิดการแสดงสิทธิที่เกิดขึ้น จะมากจะน้อยแล้วแต่ฝ่ายบริหารที่เข้ามาบริหารบ้านเมือง และมักเกิดขึ้นในกระทรวง กรมที่มีอำนาจสูง มีความสำคัญทางการเมือง มีงบประมาณมีเงินเพื่อจัดซื้อจัดจ้างจัดทำโครงการขนาดใหญ่ เมื่อมีเงินก็ต้องมีตำแหน่งสำคัญๆ โดยเฉพาะการติดต่อนายที่ส่วนมากจะเป็นนักการเมือง จนนำมาสู่การกล่าวหาทางการเมือง และเป็นการกล่าวหาที่เสื่อมเสีย

องคมนตรี กล่าวด้วยว่า รัฐธรรมนูญปี 2550 ตามมาตรา 259-280 และ พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ในหมวด 5-11 มาตรา 28-129 ถือเป็นส่วนหนึ่งที่จะเป็นแนวทางให้ข้าราชการ สามารถนำมาปฏิบัติ ทั้งการตรวจสอบการใช้อำนาจ การกระทำที่ขัดต่อประโยชน์ของชาติ รวมถึงการดำเนินคดีอาญาและจริยธรรมทั้งข้าราชการ และนักการเมือง ซึ่งกฎหมายเหล่านี้ข้าราชการสามารถที่จะนำมาอุทธรณ์หากพบว่าไม่ได้ความเป็นธรรมจากนักการเมือง ข้าราชการที่ไม่ต้องการพายเรือให้โจรนั่ง รวมทั้งสมาคมข้าราชการพลเรือนก็ถือเป็นทางออกต่อข้าราชการที่ดี

“นอกจากนั้น เป็นที่โชคดีที่เรามีสถาบันพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน ที่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับข้าราชการและประชาชน ในใจผมเชื่อเสมอว่าหากใครทำไม่ดีต่อสถาบัน คนเหล่านั้นมักจะมีอันเป็นไป เช่น เหตุการณ์กบฏแมนฮัตตัน เป็นต้น เพราะผมเคารพบูชาพระมหากษัตริย์ซึ่งทรงเป็นพระประมุข เป็นจอมทัพไทย ทรงใช้พระราชอำนาจเพื่อปวงชนชาวไทย และพระองค์ก็ไม่เคยล่วงละเมิดรัฐธรรมนูญเลย อย่างที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีถึง 18 คน หรือ รมว.เกษตรฯ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ มีโอกาสเข้าถวายงานพระองค์ แต่บางคนเขากลับไม่เชื่อ และไม่ปฏิบัติตาม แต่ดีที่เขายังรับใส่เกล้าฯ” นายอำพนกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าการปาฐกถา นายอำพนได้ยกรัฐธรรมนูญปี 2550 มาอธิบายถึงที่มาของคณะองคมนตรีประกอบการแนะนำตัวผู้นำปาฐกถาในเรื่องของการได้เข้ามาดำรงตำแหน่งองคมนตรีด้านการเกษตร ตลอดการทำงานเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มากว่า 36 ปีเศษว่า ตามรัฐธรรมนูญปี 2550 ในหมวด 2 หมวดพระมหากษัตริย์ กำหนดว่ามี 18 มาตรา คือ มาตรา 8-25 เกี่ยวข้องกับองคมนตรีดังต่อไปนี้ เพื่อท่านทั้งกลายจะได้รู้ว่าองคมนตรีคือใคร คือกลุ่มคนประเภทไหน และทำหน้าที่อะไร

ตามมาตรา 12 พระมหากษัตริย์ ทรงเลือกและทรงแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานองคมนตรี 1 คน และองคมนตรีอื่นๆ ไม่เกิน 18 คน ประกอบเป็นคณะองคมนตรี หมายความว่าทั้งหมดจะมี 19 ท่าน คณะองคมนตรีมีหน้าที่ ถวายความคิดเห็นต่อพระมหากษัตริย์ ในพระราชกรณียกิจทั้งปวงที่พระมหากษัตริย์ทรงปรึกษาและมีหน้าที่อื่นตามที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับนี้

มาตรา 13 การเลือกและการแต่งตั้งองคมนตรี หรือการให้องคมนตรีพ้นจากตำแหน่งให้เป็นไปตามพระราชอัชฌาศัย มาตรา 14 องคมนตรีต้องไม่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา กรรมการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลปกครอง กรรมการป้องกันและปราบรามการทุจริตแห่งชาติ และไม่ฝักใฝ่พรรคการเมืองใดๆ และมาตรา 15 ว่าด้วยการถวายสัตย์ฯเข้าเป็นองคมนตรี

“มาตรา 16 การพ้นจากตำแหน่งองคมนตรี กำหนดว่าองคมนตรีจะต้องตาย ลาออก ซึ่งขณะนี้องค์คณะองคมนตรีในปัจจุบันมีอายุอยู่ระหว่าง 60-88 ปี ซึ่งมีความหลากหลาย และมีวุฒิการศึกษาทั้ง 19 คน ประกอบด้วย ด้านนิติศาสตร์ 8 คน ด้านการทหาร 4 คน ด้านวิศวกรรม 4 คน ด้านวิทยาศาสตร์ 1 คน ด้านรัฐศาสตร์ 1 คน และด้านการเกษตร 1 คน สถานะสมรส 14 คน และเป็นโสดหรือม่าย 5 คน” ฯพณฯ นายอำพนกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น