“พีรพล” ร้องศาลปกครอง “ครม.-มาร์ค-เทพเทือก” ย้ายจากปลัด มท.ไม่เป็นธรรม มุ่งหวังตั้งพวกพ้องเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ด้านศาลปกครอง สั่งไต่สวนฉุกเฉินทันที
วันนี้ (4 ก.พ.) นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ยื่นฟ้อง คณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้ 1.มีคำสั่งเพิกถอนมติ ครม.ที่เห็นชอบให้ตนต้องพ้นจากตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย และไปปฏิบัติหน้าที่สำนักนายกรัฐมนตรี 2.เพิกถอนคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 17/2552 ที่สั่งให้ตนมาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยขาดจากอัตราเงินเดือนจากสังกัดเดิม และ 3.เพิกถอนมติแต่งตั้ง ครม.ที่แต่งตั้ง นายวิชัย ศรีขวัญ ไปดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมกับขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาโดยมีคำสั่งให้นายกฯ และรองนายกฯ ชะลอการดำเนินการใดๆ เพื่อให้ตนพ้นจากตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย และแต่งตั้งปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ได้สมบูรณ์ไว้ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา
ทั้งนี้ คำฟ้องระบุว่า การที่ นายกรัฐมนตรี และ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนรับฟังได้ว่า เหตุที่ให้ตนย้ายออกจากตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย ก็เพื่อให้เกิดความสบายใจในการบริหารราชการของรัฐบาล แปลความได้ว่า ผู้ให้สัมภาษณ์ต้องการแต่งตั้งผู้ที่จะตอบสนองเป้าหมายทางการเมืองให้รัฐบาลมากกว่าตน ให้มาดำรงตำแหน่งแทน ซึ่งการที่นายกฯ และรองนายกฯ มุ่งหมายให้ข้าราชการปฏิบัติตัวดังกล่าวเป็นการขัดจริยธรรมของข้าราชการการเมือง และการมุ่งหวังให้ตนหรือบุคคลใดตอบสนองด้านการเมืองเป็นการกระทำที่ไม่ชอบ เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ตามอำเภอใจ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 74, 178, 193, 266 และระเบียนสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ.2551
ประกอบกับ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับการร้องขอจากนายกฯ รองนายกฯ ให้เสนอแต่งตั้งปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปยังรองนายกฯ โดยไม่ทราบเหตุผลของการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ แต่ส่วนตัวไม่ได้มีเหตุขัดข้องใดๆ กับตน แต่ต้องดำเนินการตามการสั่งการของนายกฯ จึงเห็นได้ว่า นายกฯ และ รองนายกฯ จงใจใช้อำนาจหน้าที่สั่งการให้ตนไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกฯ ก็เพื่อให้มีการดำเนินการเสนอแต่งตั้งปลัดกระทรวงมหาดไทยใหม่ อันแสดงให้ถึงเจตนาไม่สุจริต ใช้ดุลพินิจที่ไม่ชอบ เป็นการใช้กฎหมาย เพื่อจุดมุ่งหมายส่วนตัว อันเป็นการกระทำที่กระทบต่อจริยธรรมการบริหารข้าราชการการเมือง และเป็นการกระทำอันมิบังควร เมื่อพิจารณาถึงพระราชอำนาจในการแต่งตั้ง และการให้พ้นจากตำแหน่งราชการของพระมหากษัตริย์
“การที่นายกฯ เสนอต่อ ครม.จนมีมติตามที่เสนอ จึงเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่สุจริต ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย บิดเบือนการใช้อำนาจ และเป็นการใช้ดุลยพินิจที่ไม่ชอบ อีกทั้งปรากฏว่า ผู้ที่ได้รับตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยแทนตน ตามการเสนอของนายกฯ และ นายสุเทพ เป็นชาว จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นจังหวัดเดียวกันกับ นายสุเทพ จึงเห็นว่า การออกคำสั่งดังกล่าวเป็นการใช้สถานะตำแหน่งทางราชการบริหารก้าวก่ายแทรกแซง เพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือพรรคพวก หรือของพรรคการเมือง ในการโยกย้ายแต่งตั้ง หรือให้พ้นจากตำแหน่งของข้าราชการอันเป็นการกระทำที่ขัดกัน แห่งผลประโยชน์ส่วนตัว กับผลประโยชน์ของรัฐ ใช้ดุลพินิจที่ไม่ชอบ ไม่สุจริต เลือกปฏิบัติ และไม่เป็นธรรมต่อตน” คำฟ้องระบุ
ดังนั้น พฤติกรรมของนายกฯ และ รองนายกฯ ทำให้ตนได้รับความเดือดร้อนเสียหาย เพราะต้องพ้นจากตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยโดยไม่ถูกต้อง ได้รับการดูถูกจากสังคมที่ย่อมเข้าใจว่า ตนไม่เหมาะสมการดำรงตำแหน่งดังกล่าว สร้างความเสื่อมเสียต่อเกียรติยศชื่อเสียง ที่สั่งสมมาตลอดชีวิตข้าราชการจนเป็นที่ยอมรับจากวงการต่างๆ และเพื่อให้ศาลปกครองได้ตรวจสอบการกระทำของฝ่ายปกครองที่ไม่ชอบในลักษณะนี้ เพื่อเป็นบรรทัดฐานที่ไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคตตามเจตนารมณ์ของการจัดตั้งศาลที่มุ่งให้การ บริหารราชการแผ่นดินถูกต้องชอบธรรม จึงขอให้ศาลพิจารณาและมีคำสั่งเพิกถอนตามที่ร้องขอ
นายพีรพล กล่าวภายหลังยื่นคำร้องว่า วันนี้ตนมายื่นเรื่องขอความเป็นธรรม เพราะเห็นว่า ศาลปกครองเกิดมาเพื่อให้การบริหารบ้านเมืองต้องยึดหลักธรรมาภิบาล ซึ่งการฟ้องครั้งนี้ถือเป็นกรณีหนึ่งที่จะสร้างบรรทัดฐานให้กับข้าราชการทุกระดับชั้น โดยเฉพาะข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หากศาลมีคำวินิจฉัย ว่า การสั่งย้ายครั้งนี้มิชอบ ต่อไปก็จะทำให้ข้าราชการไม่กล้าทำอะไรตามใจในสิ่งที่ไม่เหมาะสม อีกทั้งยังทำให้ฝ่ายการเมืองต้องคิดก่อนว่า หากจะทำอะไรต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ นอกจากนี้ ยังทำให้ข้าราชการไม่รู้สึกว่า ถ้าตัวเองไม่ทำตามที่เขาสั่งก็ต้องถูกย้ายไป ซึ่งหากอย่างนั้นมันง่ายเกินไป สำหรับข้าราชการที่เป็นข้าของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ผู้สื่อข่าวรายงานถามว่า หากต่อสู้ไม่ชนะในทางคดีความ จะเข้าไปต่อสู้ทางการเมืองหรือไม่ นายพีรพล กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้คิดอะไร ตอนนี้ขอดูคำสั่งจากศาลปกครองก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ เมื่อเวลา 17.00 น.นายฤทัย หงส์สิริ อธิบดีศาลปกครองกลาง ได้มอบหมายให้คณะตุลาการศาลปกครองกลาง องค์คณะที่ 15 มี นายจรวย หนูคง เป็นตุลาการเจ้าของสำนวนไต่สวนฉุกเฉินตามคำร้องขอทันที