xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอชงสำนวนเงินทีพีไอเข้า ปชป.258 ล.ให้ กกต.แล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สดศรี สัตยธรรม กกต.
“สดศรี” เผย “ดีเอสไอ” ส่งสำนวนเงินทีพีไอเข้าบัญชีคน ปชป.258 ล้าน พร้อมข้อมูลใช้เงินกองทุน 23 ล้าน ผิดวัตถุประสงค์ถึงมือนายทะเบียนพรรคการเมือง ส่งต่อฝ่ายกฎหมายพิจารณาอำนาจพิจารณาได้หรือไม่ ชี้ หากผิดมีสิทธิถึงขั้นยุบพรรคได้

วันนี้ (18 มี.ค.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า วันนี้ (18 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้นำสำนวนกรณีเงินจากบริษัท ทีพีไอถูกโอนเข้าบัญชีคนของพรรคประชาธิปัตย์ 258 ล้านบาท และกรณีการใช้จ่ายเงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองจำนวน 23 ล้านบาท ในปี 2548 ของพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 2 กล่องมามอบให้กับนายทะเบียนพรรคการเมืองแล้ว ซึ่งทราบว่า นายทะเบียนจะให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบว่า กกต.มีอำนาจในการพิจารณาคดีที่ทางดีเอสไอส่งมาให้หรือไม่ เพราะบางเรื่องเกี่ยวข้องกับความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ ซึ่ง กกต.มีหน้าที่ดูแลความผิดเฉพาะที่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.พรรคการเมืองเท่านั้น เช่น ดูว่าการใช้เงินกองทุนใช้ผิดวัตถุประสงค์ การรับเงินบริจาคมีการเปิดเผยถูกต้องหรือไม่ ระยะเวลาการตรวจสอบคงไม่นาน และเมื่อนำเข้าที่ประชุม กกต. ในสัปดาห์หน้า คงเป็นดุลพินิจว่าจะตั้งอนุกรรมการขึ้นมาสอบสวนหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า การมอบข้อมูลในครั้งนี้เป็นการยืมมือ กกต.ในการหาข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า ก็แปลกเหมือนกัน แต่จากที่ดีเอสไอเคยเข้าพบก็บอกว่า ดีเอสไอดำน้ำมาใกล้ก้นทะเลแล้ว ให้ กกต.ดำน้ำต่อ เมื่อถามต่อว่า การยื่นครั้งนี้ ดีเอสไอไม่ได้เป็นผู้เสียหาย จะมีสิทธิ์ยื่นคำร้องตามกฎหมายหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า ในเมื่อเงินกองทุนเป็นเงินหลวงก็เป็นเรื่องที่ตำรวจดำเนินการได้ ดีเอสไอก็เป็นตำรวจ ซึ่งเขาบอกว่าเขาสืบสวนมาก่อนที่รัฐบาลนี้จะเข้ามาบริหารด้วยซ้ำ

นางสดศรี กล่าวด้วยว่า หากการสืบสวนพบว่าพรรคไม่ได้นำเงินกองทุนไปใช้จ่ายตามแผนงานโครงการที่ขออนุมัติ กฎหมายก็กำหนดให้เรียกเงินคืน และเป็นเหตุให้นายทะเบียนยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค ซึ่งเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นมาแล้วกับ 40 พรรคการเมือง แต่หากได้รับเงินบริจาคแล้วไม่เปิดเผย หรือรายงานให้ กกต.ทราบ กฎหมายก็กำหนดให้กรรมการบริหารพรรค และหัวหน้าพรรคต้องถูกดำเนินคดีอาญา
กำลังโหลดความคิดเห็น