กกต.ยัน ส.ส.เพื่อไทยสุมหัวแจ้นไปหา “พ่อแม้ว” ไม่ผิด ยันกฎเหล็กผู้ถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง ไม่ใช่กฎหมายเป็นเพียงข้อแนะนำ ย้ำผู้ถูกตัดสิทธิถ่ายรูปคู่กับผู้สมัคร ส.ส.หาเสียง ใน กม.เลือกตั้งบังคับใช้ หากมีผู้ร้องเรียนอาจเข้าข่ายผิด กม. ปัดตอบกิ๊ก รมต.ขัดจริยธรรม แฝงผลประโยชน์ทับซ้อนชี้เป็นหน้าที่ป.ป.ช.
วันนี้ (23 ก.พ.) นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีที่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทยบางส่วนเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อขอความเห็นและข้อมูลในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ถ้าให้คำปรึกษาและคำแนะนำในลักษณะไม่ใช่ที่ปรึกษาของพรรคการเมืองก็สามารถทำได้ ซึ่งการตัดสิทธิ์ทางการเมืองคงไม่สามารถไปตัดสิทธิ์พื้นฐานของประชาชนแต่ละคนได้
นางสดศรีกล่าาวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาระบุให้ กกต.ทบทวนข้อห้ามปฏิบัติ สำหรับผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งว่า ข้อปฏิบัติที่นายอภิชาต สุขัคคนานนท์ ประธาน กกต.เคยออกมาระบุว่าเป็นข้อห้ามของผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองไม่ถือว่าเป็นกฎเหล็ก แต่เป็นเพียงข้อหารือเท่านั้น มีหลายพรรคการเมืองส่งเรื่องมาให้ กกต.ช่วยพิจารณาถึงกรณีที่จะให้ผู้ตัดสิทธิทางการเมืองมาเป็นที่ปรึกษาพรรคการเมืองได้หรือไม่ อีกทั้งสามารถนำภาพถ่าย ของผู้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองกับรูปของผู้สมัคร ส.ส.มาใช้ในการหาเสียงได้หรือไม่ ซึ่งเราก็ได้หารือและตอบกลับไปว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำ เนื่องจากขณะนั้นเป็นช่วงที่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง ทำให้อาจขัดกับมาตรา 53 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และได้มาซึ่ง ส.ว. เพราะในกฎหมายห้าม ไม่ให้มีการจูงใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเลือกบุคคลนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการนำกรณีของนายประแสง มงคลศิริ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชาชน จ.อุทัยธานี ที่ต้องถอนตัวจากการแลือกตั้งเพราะนำภาพถ่ายคู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณมาใช้ในการหาเสียง มาเทียบเคียงกับกรณีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง นางสดศรี กล่าวว่า ในกรณีของนายประแสง กกต.ได้ส่งข้อหารือไปว่าไม่สมควรที่จะนำภาพถ่ายกับผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองมาใช้ในการหาเสียง ซึ่งเป็นข้อหารือที่ กกต.ได้แนะนำกลับไปเท่านั้น ไม่ถือเป็นข้อกฎหมาย เนื่องจากขณะนั้นอยู่ในช่วงเลือกตั้ง ซึ่งถ้ามีการร้องเรียนเข้ามาก็จะมีปัญหาทันที เพราะอาจเข้าข่าย การกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง แต่หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้ห้ามผู้ถูกตัดสิทธิไปถ่ายรูปคู่กับใคร เพราะอยู่หลังช่วงการเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีผู้เรียกร้องให้ยกเลิกข้อห้ามปฏิบัติ และคืนสิทธิให้กับผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมือง นางสดศรี กล่าวว่า สำหรับกฎหเหล็กถือเป็นข้อหารือหรือข้อแนะนำของ กกต.เท่านั้น ซึ่งหากมีผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ต้องการกระทำการใดๆ ที่ระบุไว้ในข้อห้ามก็สามารถทำได้ในช่วงนี้ แต่ถ้ามีการร้องเรียนเข้ามาเราก็จะตรวจสอบและพิจารณาเป็นกรณีไป
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า กรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีรัฐมนตรีบางคนมีกิ๊ก ซึ่งอาจขัดกับจริยธรรมทางการเมือง นางสดศรี กล่าวว่า จริยธรรมทางการเมืองมีระบุอยู่แล้วในรัฐธรรมนูญ ซึ่งผู้ควบคุมจริยธรรมทางการเมือง ไม่ใช่ กกต. แต่ทางสภาต้องเข้ามาควบคุมกันเองว่าเป็นอย่างไร เมื่อถามว่า ถ้ากิ๊กของรัฐมนตรี เข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียกับรัฐมนตรี นางสดศรี กล่าวว่า หากรัฐมนตรีมีการโอนทรัพย์สินให้กับบุคคลภายนอก ถือเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่ต้องเข้ามาตรวจสอบ กกต.คงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวและตรวจสอบในเรื่องนี้