xs
xsm
sm
md
lg

ร่างพ.ร.บ.ความปรองดอง ร่างพ.ร.บ.เพื่อตัวเอง!

เผยแพร่:   โดย: ราวี เวียงพยัคฆ์

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย จะเสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ นี้ว่า อยากจะขอทวนความจำว่าปีที่แล้ววุ่นวายกันมาก และทุกคนก็บ่นว่า ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นอีก

“ขณะนี้เศรษฐกิจหนักหนาสาหัสอยู่แล้ว ทำบ้านเมืองขัดแย้งกันขึ้นมาอีก อะไรก็เดินต่อไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นเอางานใหญ่คือ การช่วยเหลือประชาชนมาก่อน ส่วนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเมืองเอาไว้ทีหลัง ผมไม่ปิดกั้น ไม่ปฏิเสธ และขอให้เข้ามาอยู่ในขบวนการที่มองเห็นว่า อันนี้ไม่ใช่เรื่องของนักการเมือง ทำเพื่อนักการเมือง” นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงอย่างกล้าหาญ

ที่บอกว่าเป็นความกล้าหาญก็เพราะแม้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะเสนอขึ้นมาโดยพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน แต่ท่าทีของนักการเมืองหลายพรรคที่ร่วมรัฐบาลอยู่ขณะนี้ ก็แสดงออกให้เห็นว่า เห็นด้วยกับแนวคิดที่เรียกกันว่า ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ อย่างเต็มที่

เพราะเนื้อหาสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ก็คือ การนิรโทษกรรมให้กับนักการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคไทยรักไทยที่ถูกยุบพรรค และมีนักการเมืองถูกตัดสิทธิไม่ให้เกี่ยวข้องกับการเมืองเมื่อปี 2550 และอีก 3 พรรคการเมืองที่ถูกยุบไปเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2551 คือ พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย และกรรมการบริหารของทั้ง 3 พรรคถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี

การเสนอร่าง พ.ร.บ.ที่มีเนื้อหาสาระดังกล่าวนี้ ก็เท่ากับว่าถอยกลับไปสู่เหตุการณ์ก่อนวันที่ 25 พฤษภาคม 2551 ที่ประชาชนออกมาคัดค้านความพยายามของพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ขณะนั้น เพื่อที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อ

1. ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวพ้นผิดในทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นความผิดอาญาหรือความผิดทางแพ่ง

2. นิรโทษกรรมให้กับกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี พร้อมกับการยุบพรรคไทยรักไทย เมื่อเดือนพฤษภาคม 2550

3. ตัดหนทางมิให้ศาลรัฐธรรมนูญในปัจจุบันพิจารณายุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย เพราะกรรมการบริหารของทั้ง 3 พรรคทำผิดรัฐธรรมนูญ

ความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และบรรดานักการเมืองที่เป็นสมุนรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ และทำให้ระบอบทักษิณลงหลักปักฐานบนเวทีการเมืองไทย สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติบ้านเมือง อย่างที่ไม่อาจประเมินได้นี้จะเป็นความปรองดองแห่งชาติได้อย่างไร

การที่ศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ชุดพิจารณายุบพรรคการเมือง และตัดสิทธินักการเมือง ศาลมิอาจจะพิจารณาได้ตามอำเภอใจ หากแต่ต้องพิจารณาอยู่บนพื้นฐานของพยานหลักฐาน และที่สำคัญคือ ตัวบทกฎหมายรองรับ

พรรคการเมืองที่ทำผิดกฎหมาย นักการเมืองที่ทำผิดกฎหมาย สมควรที่จะต้องมีบทลงโทษ และรับโทษตามที่กฎหมายกำหนดเอาไว้

ความพยายามที่จะแก้ไขกฎหมายหรือพยายามที่จะนิรโทษกรรมให้คนผิดไม่ต้องรับโทษ มีแต่จะสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในสังคม สร้างอภิสิทธิชนคือ ผิดไม่ต้องรับผิด ประชาชนทั้งหลายจะยอมรับแนวคิดนี้อย่างไรได้

มีเหตุผลประการหนึ่งที่มักจะยกขึ้นมาอ้างเสมอก็คือ การที่กรรมการบริหารพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตย ถูกตัดสิทธิทำให้ประเทศไทยของเราขาดแคลนนักการเมือง ขาดแคลนผู้ที่มีความรู้ความสามารถทางการเมืองมาบริหารประเทศ

จำเป็นอย่างยิ่งต้องนิรโทษกรรมเพื่อปิดหนทางให้ผู้ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองให้เข้ามาสู่เวทีการเมืองอีกครั้ง เพื่อที่จะได้สร้างความวัฒนาสถาพรแก่ประเทศชาติบ้านเมือง

ฟังแล้วก็จะเห็นว่าเป็นเหตุผลที่น่าหัวเราะเยาะเป็นอย่างยิ่ง

แน่ละในจำนวน 200 กว่าคนที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิทางการเมืองไปนั้น ย่อมจะมีคนดี คนที่ซื่อสัตย์สุจริตมีความรู้ ความสามารถที่จะทำประโยชน์ให้แก่ชาติบ้านเมืองอยู่บ้าง แต่คนเหล่านี้ก็ต้องรับผิดตามตัวบทกฎหมาย

ขณะเดียวกันมีอีกจำนวนไม่น้อยในจำนวน 200 กว่าคนที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ร่ำรวยขึ้นมาเพราะการเมืองบางคนเติบโตมาจากผู้รับเหมาท้องถิ่น เจ้าพ่อในท้องถิ่น เมื่อเข้าสู่การเมืองก็อาศัยอำนาจหน้าที่สร้างความร่ำรวยให้แก่ตนและครอบครัวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยล้านพันล้าน ทำให้การเมืองของเรากลายเป็นธุรกิจการเมือง จนต้องเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมืองกันครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ยังไม่สำเร็จ การที่คนเหล่านี้ถูกตัดสิทธิไป ว่าไปแล้วจะถือเป็นการช่วยปฏิรูปการเมือง ช่วยทำให้นักการเมืองชั่วหมดโอกาสไปสักระยะ 5 ปีก็ยังได้

การสร้างความปรองดองแห่งชาติ ที่พูดกันแท้ที่จริงแล้วก็คือการเปิดโอกาสให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และบริษัทบริวารของเขาได้เข้ามาปู้ยี่ปู้ยำประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ได้ปู้ยี่ปู้ยำมาแล้วในช่วง 2544-2549 เป็นฝันร้ายของคนไทยอยู่ในขณะนี้

ความขัดแย้งของผู้คนในสังคมที่ดำรงอยู่ขณะนี้ แท้ที่จริงแล้วก็เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พยายามที่จะให้ตัวพ้นผิด ไม่ต้องรับโทษที่ศาลสถิตยุติธรรมพิจารณาตัดสินแล้ว รวมทั้งบริษัทบริวารของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยากกลับเข้ามามีอำนาจด้วยตนเองอีกครั้ง (ทั้งที่บางคนสามารถใช้ลูก ใช้เมีย ใช้ญาติพี่น้องให้มามีอำนาจแทนตัวได้อยู่แล้ว) เท่านั้นเอง

การยกปัญหาเศรษฐกิจซึ่งเป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่จะต้องแก้ไข จึงถือเป็นความกล้าหาญ ทั้งของนายกรัฐมนตรี และพรรคประชาธิปัตย์
กำลังโหลดความคิดเห็น