ASTVผู้จัดการรายวัน-ประกันสังคม เคืองกองทุนอสังหาฯ ทียูโดม ขาดทุนยับ เรียก บลจ.ไอเอ็นจีแจงข้อเท็จจริง ระบุมีปัญหาตั้งแต่เริ่มต้น หลังไม่สามารถเปิดรับนักศึกษาเข้าพักได้ตามที่คุย ด้านรองโฆษก สปส.ปัดเรียกชี้แจง ระบุเป็นข้อสงสัยของนักลงทุนมากกว่า แหล่งข่าวจากประกันสังคม ยืนยันบอร์ดยังเห็นด้วยแม้ที่ผ่านมามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น "มาริษ"ชี้เป็นเรื่องของการลงทุนมากกว่า มั่นใจสัมพันธ์สปส.ดี เพราะประสานงานกันตลอดเวลา
แหล่งข่าวจากสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ กองทุน ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียลคอมเพล็กซ์ (TU-PF)มีผลการดำเนินงานขาดทุนในระดับสูง ทางสำนักงานฯ จึงได้ทำการเรียกผู้บริหารระดับสูงของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไอเอ็นจี ในฐานะผู้จัดการกองทุนเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง โดยผู้บริหารของบลจ.ไอเอ็นจี ได้อ้างสาเหตุของการขาดทุน เนื่องจากไตรมาสแรกของปีนี้ เป็นช่วงปิดเทอม ทำให้รายได้น้อยลง
นอกจากนี้ ทางบลจ.ไอเอ็นจียังอ้างอีกด้วยว่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้มีการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนในพันธบัตร ทำให้ได้รับผลตอบแทนสูง เมื่อเทียบกับในขณะนี้ดอกเบี้ยในตลาดปรับตัวลดลง
"ทาง สปส.ค่อนข้างที่จะไม่พอใจกับผลประกอบการของ ทียูโดมมากนัก และยังคงติดตามการดำเนินงานของ บลจ.ไอเอ็นจี ในฐานะผู้จัดการกองทุน แม้จะรับปากว่า ผลการดำเนินงานในปีนี้จะเป็นไปตามเป้า แต่ก็ต้องยอมรับว่า ทียูโดมมีปัญหาเริ่มตั้งแต่จัดตั้งกองทุน ที่ไม่สามารถเปิดรับนักศึกษาได้ตามที่มีการคาดการณ์ไว้"แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับรายชื่อผู้ถือหน่วยล่าสุด5 อันดับแรกของกองทุนนี้ ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2552 พบว่า สำนักงานประกันสังคมถือหน่วยในกองทุนนี้สูงสุดในอันดับที่ 1 จำนวน 80,000,000 หน่วยคิดเป็น 76.75% อันดับที่ 2 บริษัท ไอเอ็นจี ประกันชีวิต จำกัด โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอเอ็นจี(ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 3,000,000 หน่วย คิดเป็น 2.88% อันดับที่ 3 กองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับลูกจ้างประจำของส่วนราชการ ซึ่งจดทะเบียนแล้วจำนวน 2,000 ,000 หน่วย คิดเป็น 1.92%อันดับ 4 นายขวัญชัย เกิดแก้วฟ้า จำนวน 1,500,000 หน่วย คิดเป็น 1.44% และอันดับที่ 5 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจำนวน 1,062,300 หน่วย คิดเป็น 1.02%
ทั้งนี้ หลังจากผู้สื่ข่าวได้สอบถามไปยัง นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอเอ็นจี ได้ให้คำตอบว่า ขณะนี้ตนยังติดภารกิจอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเรื่องนี้ต้องเข้าใจว่าเป็นเรื่องของการลงทุน และที่ผ่านมาบริษัทได้ทำการพูดคุยกับทางประกันสังคมอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม นายมาริษ ได้เปิดเผยเอาไว้ว่า กองทุนนี้น่าจะมีผลการดำเนินงานดีขึ้น หลังจากเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียล คอมเพล็กซ์ (TU-PF) เพิ่งได้รับมอบเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์และหอพักนักศึกษา จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจะสามารถดำเนินงานได้เต็มที่ในเดือนนี้(มิถุนายน 2552)
“คิดว่าหลังจากมิถุนายนปีนี้จะมีผลตอบแทนจากการลงทุน(IRR)เพิ่มสูงขึ้นถึง 14% จากเดิมอยู่ที่ 12-13%เพราะเชื่อว่าอัตราการเช่าห้องพักจะรับรู้เต็มที่ และศูนย์การค้าจะเปิดให้บริการได้”นายมาริษ กล่าว
ส่วนเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบญี่ปุ่นที่สนใจจะเช่าพื้นที่ ซึ่งจะให้อัตราค่าเช่าสูงขึ้นมาอยู่ที่ 2-2.5 หมื่นบาทต่อเดือน จากเดิมที่คาดว่าจะได้ 8 พันบาทหรือ 1 หมื่นบาทต่อเดือน โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้
ด้าน นายวิน พรหมแพทย์ รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า ประเด็นผลการดำเนินงานของกองทุน ทียูโดม นั้นทางประกันสังคมฯ ไม่ได้มีความสงสัย แต่ได้มีการติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว โดยจะมีการพบปะกับทางผู้บริหารบลจ.ไอเอ็นจี ในทุกๆ 3 เดือน และเมื่อเดือนที่แล้วยังได้มีการลงพื้นที่เพื่อดูความคืบหน้าของการดำเนินงานต่างๆ อีกด้วย
"ที่ผ่านมาเราติดตามตลอด เพราะเราถือหุ้นอยู่เยอะ โดยได้ทำการรายงานผ่านไปยังคณะกรรมการทุกครั้ง ซึ่งเบื้องต้นผลสรุปหลักๆ ก็คือเรายังเห็นด้วยกับการลงทุนในกองทุนนี้ และที่ว่าเราสงสัยนั้นคงไม่ได้มาจากเรา แต่น่าจะมาจากนักลงทุน"นายวินกล่าว
ทั้งนี้ การบริหารงานของกองทุน ทียูโดม ยอมรับว่าที่ผ่านมามีเรื่องของความผิดพลาดในอดีต แต่หลังจากที่มีการโอนทรัพย์สินต่างๆ แล้วเสร็จ เชื่อว่าในครึ่งหลังของปีนี้น่าจะมีตัวเลขของรายได้เข้ามาให้เห็น เมื่อมีนักศึกษาเข้าพักเต็มตามจำนวนที่คาดเอาไว้
ปมขาดทุน140%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียลคอมเพล็กซ์ (TU-PF)ได้ทำการแจ้งผลการดำเนินงานของกองทุนงวดไตรมาสแรก สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2552 ขาดทุนสุทธิ 0.96 ล้านบาท ขาดทุนต่อหน่วย 0.0092 บาท ซึ่งนับเป็นผลงานการขาดทุนต่อหน่วยที่แย่ลงกว่า 140.79% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2.35 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.0226 บาท
โดยนายสิทธิชัย จิตตั้งตรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ไอเอ็นจี ในฐานะบริษัทจัดการกองทุน TU-PF เปิดเผยว่า กองทุนมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 2.06 ล้านบาท จาก 6.11 ล้านบาท เป็น 8.17 ล้านบาท คิดเป็น 33.66% เนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2551 กองทุนได้รับมอบอาคารโครงการที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียลคอมเพล็กซ์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และได้ดำเนินการ จดทะเบียนสิทธิการเช่าที่สำนักงานที่ดินแล้ว กองทุนจึงมีรายได้ค่าเช่าและบริการจากอาคารโครงการ
ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 5.36 ล้านบาท จาก 3.77 ล้านบาท เป็น 9.13 ล้านบาท คิดเป็น 142.07% เพราะค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของโครงการเพิ่ม
ทั้งนี้ กองทุน TU-PF จัดตั้งเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2549 และเพิ่งได้รับสินทรัพย์ ได้แก่ อาคารหอพัก นักศึกษา 3 อาคาร, เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์และพื้นที่เช่าเมื่อเดือนธ.ค. 2551 จากระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนว่ากลางปี 2550 โดยปัจจุบัน บลจ. ไอเอ็นจี ระบุว่าหอพักมีผู้เช่าแล้ว 97% ส่วนเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์และพื้นที่เช่ากำลังทยอยเปิด
แหล่งข่าวจากสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ กองทุน ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียลคอมเพล็กซ์ (TU-PF)มีผลการดำเนินงานขาดทุนในระดับสูง ทางสำนักงานฯ จึงได้ทำการเรียกผู้บริหารระดับสูงของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไอเอ็นจี ในฐานะผู้จัดการกองทุนเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง โดยผู้บริหารของบลจ.ไอเอ็นจี ได้อ้างสาเหตุของการขาดทุน เนื่องจากไตรมาสแรกของปีนี้ เป็นช่วงปิดเทอม ทำให้รายได้น้อยลง
นอกจากนี้ ทางบลจ.ไอเอ็นจียังอ้างอีกด้วยว่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้มีการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนในพันธบัตร ทำให้ได้รับผลตอบแทนสูง เมื่อเทียบกับในขณะนี้ดอกเบี้ยในตลาดปรับตัวลดลง
"ทาง สปส.ค่อนข้างที่จะไม่พอใจกับผลประกอบการของ ทียูโดมมากนัก และยังคงติดตามการดำเนินงานของ บลจ.ไอเอ็นจี ในฐานะผู้จัดการกองทุน แม้จะรับปากว่า ผลการดำเนินงานในปีนี้จะเป็นไปตามเป้า แต่ก็ต้องยอมรับว่า ทียูโดมมีปัญหาเริ่มตั้งแต่จัดตั้งกองทุน ที่ไม่สามารถเปิดรับนักศึกษาได้ตามที่มีการคาดการณ์ไว้"แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับรายชื่อผู้ถือหน่วยล่าสุด5 อันดับแรกของกองทุนนี้ ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2552 พบว่า สำนักงานประกันสังคมถือหน่วยในกองทุนนี้สูงสุดในอันดับที่ 1 จำนวน 80,000,000 หน่วยคิดเป็น 76.75% อันดับที่ 2 บริษัท ไอเอ็นจี ประกันชีวิต จำกัด โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอเอ็นจี(ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 3,000,000 หน่วย คิดเป็น 2.88% อันดับที่ 3 กองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับลูกจ้างประจำของส่วนราชการ ซึ่งจดทะเบียนแล้วจำนวน 2,000 ,000 หน่วย คิดเป็น 1.92%อันดับ 4 นายขวัญชัย เกิดแก้วฟ้า จำนวน 1,500,000 หน่วย คิดเป็น 1.44% และอันดับที่ 5 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจำนวน 1,062,300 หน่วย คิดเป็น 1.02%
ทั้งนี้ หลังจากผู้สื่ข่าวได้สอบถามไปยัง นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอเอ็นจี ได้ให้คำตอบว่า ขณะนี้ตนยังติดภารกิจอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเรื่องนี้ต้องเข้าใจว่าเป็นเรื่องของการลงทุน และที่ผ่านมาบริษัทได้ทำการพูดคุยกับทางประกันสังคมอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม นายมาริษ ได้เปิดเผยเอาไว้ว่า กองทุนนี้น่าจะมีผลการดำเนินงานดีขึ้น หลังจากเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียล คอมเพล็กซ์ (TU-PF) เพิ่งได้รับมอบเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์และหอพักนักศึกษา จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจะสามารถดำเนินงานได้เต็มที่ในเดือนนี้(มิถุนายน 2552)
“คิดว่าหลังจากมิถุนายนปีนี้จะมีผลตอบแทนจากการลงทุน(IRR)เพิ่มสูงขึ้นถึง 14% จากเดิมอยู่ที่ 12-13%เพราะเชื่อว่าอัตราการเช่าห้องพักจะรับรู้เต็มที่ และศูนย์การค้าจะเปิดให้บริการได้”นายมาริษ กล่าว
ส่วนเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบญี่ปุ่นที่สนใจจะเช่าพื้นที่ ซึ่งจะให้อัตราค่าเช่าสูงขึ้นมาอยู่ที่ 2-2.5 หมื่นบาทต่อเดือน จากเดิมที่คาดว่าจะได้ 8 พันบาทหรือ 1 หมื่นบาทต่อเดือน โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้
ด้าน นายวิน พรหมแพทย์ รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า ประเด็นผลการดำเนินงานของกองทุน ทียูโดม นั้นทางประกันสังคมฯ ไม่ได้มีความสงสัย แต่ได้มีการติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว โดยจะมีการพบปะกับทางผู้บริหารบลจ.ไอเอ็นจี ในทุกๆ 3 เดือน และเมื่อเดือนที่แล้วยังได้มีการลงพื้นที่เพื่อดูความคืบหน้าของการดำเนินงานต่างๆ อีกด้วย
"ที่ผ่านมาเราติดตามตลอด เพราะเราถือหุ้นอยู่เยอะ โดยได้ทำการรายงานผ่านไปยังคณะกรรมการทุกครั้ง ซึ่งเบื้องต้นผลสรุปหลักๆ ก็คือเรายังเห็นด้วยกับการลงทุนในกองทุนนี้ และที่ว่าเราสงสัยนั้นคงไม่ได้มาจากเรา แต่น่าจะมาจากนักลงทุน"นายวินกล่าว
ทั้งนี้ การบริหารงานของกองทุน ทียูโดม ยอมรับว่าที่ผ่านมามีเรื่องของความผิดพลาดในอดีต แต่หลังจากที่มีการโอนทรัพย์สินต่างๆ แล้วเสร็จ เชื่อว่าในครึ่งหลังของปีนี้น่าจะมีตัวเลขของรายได้เข้ามาให้เห็น เมื่อมีนักศึกษาเข้าพักเต็มตามจำนวนที่คาดเอาไว้
ปมขาดทุน140%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียลคอมเพล็กซ์ (TU-PF)ได้ทำการแจ้งผลการดำเนินงานของกองทุนงวดไตรมาสแรก สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2552 ขาดทุนสุทธิ 0.96 ล้านบาท ขาดทุนต่อหน่วย 0.0092 บาท ซึ่งนับเป็นผลงานการขาดทุนต่อหน่วยที่แย่ลงกว่า 140.79% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2.35 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.0226 บาท
โดยนายสิทธิชัย จิตตั้งตรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ไอเอ็นจี ในฐานะบริษัทจัดการกองทุน TU-PF เปิดเผยว่า กองทุนมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 2.06 ล้านบาท จาก 6.11 ล้านบาท เป็น 8.17 ล้านบาท คิดเป็น 33.66% เนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2551 กองทุนได้รับมอบอาคารโครงการที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียลคอมเพล็กซ์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และได้ดำเนินการ จดทะเบียนสิทธิการเช่าที่สำนักงานที่ดินแล้ว กองทุนจึงมีรายได้ค่าเช่าและบริการจากอาคารโครงการ
ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 5.36 ล้านบาท จาก 3.77 ล้านบาท เป็น 9.13 ล้านบาท คิดเป็น 142.07% เพราะค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของโครงการเพิ่ม
ทั้งนี้ กองทุน TU-PF จัดตั้งเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2549 และเพิ่งได้รับสินทรัพย์ ได้แก่ อาคารหอพัก นักศึกษา 3 อาคาร, เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์และพื้นที่เช่าเมื่อเดือนธ.ค. 2551 จากระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนว่ากลางปี 2550 โดยปัจจุบัน บลจ. ไอเอ็นจี ระบุว่าหอพักมีผู้เช่าแล้ว 97% ส่วนเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์และพื้นที่เช่ากำลังทยอยเปิด