xs
xsm
sm
md
lg

“สุเทพ” ย้ำ “กษิต” ไม่มัวหมอง ชี้ขึ้นเวที พธม.เป็นสิทธิแสดงออก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุเทพ เทือกสุบรรณ
รองนายกฯ ขอเวลา 3 วันก่อนถกนายกฯ ตัดสินใจปรับ ครม.หรือไม่ ชี้นัย “วิฑูรย์” ลาออกไม่กดดัน “บุญจง” การันตีคุณสมบัติ “กษิต” ประวัติไม่มัวหมอง ยืนยันการขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ปราศรัยถือเป็นสิทธิการแสดงออกความคิดเห็น ย้อนถามไปร่วมงานบุญผิด กม.เลือกตั้งตรงไหน

วันนี้ (2 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีดูแลความมั่นคง กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการปรับ ครม.ว่า การปรับหรือไม่ปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯ และนายกฯได้บอกกับประชาชนไปแล้วว่าขอเวลา 3 วันที่จะได้ดูข้อมูลจากหลักฐานต่างๆ ตนคิดว่าควรจะให้เวลานายกรัฐมนตรี เพราะเวลานี้ท่านงานมากและเพิ่งจะกลับจากต่างประเทศ เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ เช่นกรณีของนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เป็นปัญหา อย่างที่บอกให้รอ 2-3 วัน เมื่อนายกฯ ดูทุกอย่างเรียบร้อยจะมีวินิจฉัยออกมา

เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน เพราะมีข่าวว่าทางพรรคประชาธิปัตย์จะปรับนายวิฑูรย์ออกจากตำแหน่ง นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ทราบข่าวมาจากไหน และยังไม่ได้ประชุมกรรมการบริหารพรรค แต่จะมีการประชุมพรรคในวันอังคารที่ 3 ก.พ. ผู้สื่อข่าวถามว่านายบัญญัติ บรรทัดฐาน รองประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่าถ้าถูกวิจารณ์มากๆ เรื่องการทบทวนตัวเองเป็นเรื่องสำคัญของนักการเมือง ตรงนี้มองอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นทัศนคติ เป็นแนวความคิดของคน ทุกคนมีสิทธิเสนอความคิด นายวิฑูรย์ควรจะได้รับฟังความคิดของฝ่ายต่างๆ

ต่อข้อถามว่า ถือว่านายวิฑูรย์เป็นปัญหาในพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ถึงกับเป็นปัญหาพรรคหรือปัญหารัฐบาล แต่เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไข เมื่อถามว่าหากนายวิฑูรย์แสดงสปิริตแล้วจะเป็นการกดดันนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ในฐานะแกนนำพรรคภูมิใจไทยด้วยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าหากนายกฯ ได้ตัดสินใจอะไรไปแล้วที่เกี่ยวกับนายวิฑูรย์ ดังนั้น กรณีของนายวิฑูรย์จะไปกดดันนายบุญจงเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตามเวลานี้ยังไม่มีเรื่องที่แสดงให้เห็นว่าพรรคภูมิใจไทยมากดดันรัฐบาลเกี่ยวกับกรณีของนายบุญจงใดๆ ทั้งสิ้น ผู้สื่อข่าวถามว่าจะไม่เป็นการสวนทางกับสิ่งที่นายกฯ ได้ไปยืนยันกับต่างประเทศว่าสถานการณ์การเมืองไทยยังไปได้ด้วยดี แต่จริงๆ แล้วเสถียรภาพภายในรัฐบาลก็วุ่นวาย นายสุเทพ กล่าวว่า ภายในรัฐบาลไม่มีอะไรวุ่นวาย แต่มีปัญหาที่เปิดประเด็นและเป็นที่สนใจของฝ่ายต่างๆ และรัฐบาลก็ต้องสะสางเท่านั้น

ต่อข้อถามว่ากรณีปลากระป๋องเน่าถ้าไม่มีอะไรจริงๆ และยังไม่มีการจัดซื้อ จัดจ้าง เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นทำไมไม่สามารถนำข้อเท็จจริงมาชี้แจงได้ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นช่วงเวลาที่เราได้ขอให้นายวิฑูรย์ไปรวบรวมหลักฐานและมาเสนอให้ผู้มีอำนาจได้วินิจฉัย คิดว่าคงไม่ล่าช้า ประมาณ 2-3 วันก็จะเห็นข้อเท็จจริงอย่างชัดเจน

เมื่อถามว่ากรณีของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ถ้าหากมีประวัติมัวหมองไม่ควรมาเป็นรัฐมนตรี นายสุเทพ กล่าวว่า คำว่าประวัติมัวหมอง สำหรับคุณสมบัติของคนที่จะมาพิจารณาเป็นรัฐมนตรี คงหมายถึงความมัวหมองในการปฏิบัติราชการ กรณีของนายกษิตไม่มีอะไรมัวหมองในประวัติราชการ หรือการทำหน้าที่เพื่อส่วนร่วม

ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วการขึ้นเวทีปราศรัยกับกลุ่มพันธมิตร ซึ่งทุกคนเห็นกันอย่างชัดเจน นายสุเทพ กล่าวว่า ก่อนขึ้นเวทีพันธมิตรฯหรือเวทีที่ไหนก็แล้วแต่ ก็มีการพูดจากันไปตามความเชื่อ ตามความคิดของแต่ละคน พวกตนก่อนที่จะมาเป็นผู้แทนราษฎรก็ขึ้นเวทีปราศรัยมากมายก็เป็นเรื่องปกติ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แสดงว่ารัฐบาลไม่แคร์ความรู้สึกของประชาชนใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้เอามาเป็นประเด็นสำคัญในการพิจารณา

เมื่อถามถึงความคืบหน้ากรณีที่นายสุเทพได้ไปช่วยหาเสียงที่ จ.สุราษฎร์ธานี นายสุเทพ กล่าวยืนยันว่า ตนไม่ได้มีเรื่องการเข้าไปช่วยหาเสียง เพราะตนไปงานสงกรานต์ ไปทำบุญตักบาตร ไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ตามประเพณีสงกรานต์ และการที่เขาเห็นว่าตนไปทำอย่างนั้นมีผลกับการเลือกตั้งท้องถิ่นจึงให้ใบเหลืองกับนายกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น และ ส.จ. ซึ่งจะไปสิ้นสุดคดีที่ศาล ว่าการที่เราทำกิจกรรมตามประเพณีเป็นเรื่องเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ ตนมองอย่างนี้ว่ากฎหมายกฎหมายที่กำหนดเอาไว้ว่าห้ามไปกระทำการที่ผิดกฎหมาย เช่น เอาไปซื้อเสียง เอาไปแจกเงินต่างๆ ถือว่าทุจริต แต่ตนไม่ได้ทำอะไรที่ทุจริตอย่างนั้น

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีความพยายามที่จะเอาผิดคนในรัฐบาลด้วยกฎหมายเลือกตั้ง มาตรา 266 มองว่าเป็นเหตุการณ์ปกติหรือมีกระบวนการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ได้มองอย่างนั้น เป็นคนไม่คิดมาก และถ้ามีกรณีควรที่จะไปพิสูจน์เพราะเรามีกระบวนการยุติธรรม เราต้องเชื่อในกระบวนการยุติธรรมและเราก็ไปพิสูจน์ ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีของนายสุเทพ บางประเด็นออกมาจาก กกต.ในเรื่องนี้ได้มีการสอบถามไปทาง กกต.หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่สอบถาม หน้าที่ของท่านก็ทำหน้าที่ไป ถ้าคิดว่าทำถูกต้องเหมาะสมแล้ว เมื่อถามย้ำว่าคิดว่าจะมีโอกาสพลาดตายน้ำตื้นในประเด็นข้อกฎหมายหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าผิดกฎหมายก็ต้องผิดกฎหมาย ตนก็ต้องรับผิด ต่อข้อถามว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมีโอกาสเชื่อมโยงไปถึงการยุบพรรคหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า กรณีนี้ไม่มีเกี่ยวข้องในเรี่องการยุบพรรคได้ กฎหมายบัญญัติการยุบพรรคเฉพาะกรณีการเลือกตั้ง ส.ส.

เมื่อถามว่าล่าสุดนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ได้ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.เพื่อให้ดำเนินคดีต่อ 3 รัฐมนตรีที่ยกมือโหวตพิจารณางบประมาณ ตรงนี้กังวลหรือไม่เพราะ ส.ว.คนนี้เคยทำให้นายกฯ หลุดจากตำแหน่งมาแล้วถึง 2 คน นายสุเทพ กล่าวว่า นายเรืองไกรก็ทำหน้าที่ของเขาไป ผู้ที่มีหน้าที่ตีความ ตรวจสอบวินิจฉัย จะได้เป็นบรรทัดฐาน ทั้งนี้ มั่นใจว่ารัฐบาลมีข้อมูล ข้อเท็จจริงที่จะไปชี้แจงต่อ ป.ป.ช.ได้ ซึ่งตนเข้าใจว่าในบทบัญญัติรัฐบาลเขียนไว้ว่า ห้ามคนที่เป็นรัฐมนตรีและเป็น ส.ส.จะไปยกมือเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเอง เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือรัฐบาลถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่การที่รัฐมนตรี 3 ท่านลงมติในวันนั้นเป็นเรื่องงบประมาณแผ่นดินหรืองบกลางปีที่มาช่วยประชาชนไม่ได้มาช่วยรัฐมนตรีและงบที่ผ่านก็ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐมนตรีที่ลงคะแนน ตนไม่คิดสวว่าจะเป็นปัญหา และขออภัยถ้าหากความเห็นของตนจะไปล่วงล้ำหน้าที่ของผู้ที่มีสิทธิตีความ
กำลังโหลดความคิดเห็น