“บุญจง-วิฑูรย์” ระทึก! 2 วัน “มาร์ค” พร้อมชี้ชะตา ยันข้อมูลอยู่ในมือแล้ว

นับถอยหลัง อีก 2 วัน “มาร์ค” จ่อชี้ชะตาเก้าอี้ “บุญจง-วิฑูรย์” จะหลุดหรือไม่ ย้ำมีข้อมูลอยู่ในมือแล้ว ลั่น! เป็นอำนาจนายกฯ ถ้าจะต้องปรับ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น รบ.สามารถทำงานได้ ชี้อีก 3 รมต.ที่ลงมติผ่านงบฯ เชื่อไม่มีปัญหา เหตุ รบ.ที่แล้วก็ทำเหมือนกัน ขณะที่ปัญหาของ “สุเทพ” ยังไม่เริ่มต้น ถึงตอนนั้นค่อยมาว่ากัน เมินหมัดเด็ดฝ่ายค้านเตรียมซักฟอก พ้อทำงานเต็มที่จนทุกอย่างเริ่มดีขึ้น

วันนี้ (2 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรีว่า ตนได้เรียนว่าหลังกลับจากสวิตเซอร์แลนด์จะมาดูข้อมูลรัฐมนตรีที่มีเครื่องหมายคำถามจากสื่อมวลชนและสังคม ตอนนั้นบอกว่า 3 วัน ตอนนี้เหลืออีก 2 วัน ตอนนี้ได้รวบรวมข้อมูลไว้พอสมควรแล้ว ทั้งในส่วนของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย และนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมฯ

เมื่อถามว่า แสดงว่าอีก 2 วันจะมีความชัดเจนว่ารัฐมนตรีสองคนนี้จะอยู่หรือไป นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะเรียนให้ทราบเลย เพราะได้ดูข้อมูลแล้วคิดว่าอะไรเป็นสิ่งที่มีความเหมาะสม เมื่อซักว่าจำเป็นต้องรอคณะกรรมการที่ตรวจสอบในแต่ละชุดหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะให้คำตอบว่าขณะนี้ก็มีการตรวจสอบทั้ง 2 กรณีอยู่แล้ว ฉะนั้นก็อยู่ในส่วนของฝ่ายบริหารว่าจะทำอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ จะเรียนให้ทราบภายใน 2 วันนี้ ส่วนประเด็นอีก 3 รัฐมนตรีที่ลงมติ ความจริงไม่น่าจะเป็นประเด็นเลย เพราะตอนที่เราเป็นฝ่ายค้านก็เห็นอยู่เหมือนกันว่า ทาง ครม.ชุดก่อน ก็ลงมติ ในเรื่องของงบประมาณ เราก็ไม่ได้ไปยื่นร้องอะไร เพราะเราไม่ได้คิดว่าจะเป็นปัญหา เพียงแต่ก่อนลงมติคราวนี้มีคนมาพูดทำนองว่าอาจจะมีการไปยื่นร้อง หลายคนก็รู้สึกว่าถ้าเป็นเช่นนั้นก็อย่าให้เป็นปัญหา แต่บังเอิญรัฐมนตรีสั่งท่านอาจจะไม่ทราบ จึงได้ลงมติไป ซึ่งก็เป็นเรื่องความเห็นทางกฎหมาย

เมื่อถามว่ากรณีของนายบุญจง ทางพรรคภูมิใจไทยยืนยันว่าจะไม่ปรับออก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นอำนาจของตนที่จะพิจารณาเรื่องนี้ เมื่อซักว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่าการปรับ ครม.จะกระทบต่อความเชื่อมั่นในการทำงานของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าจะต้องปรับก็จะปรับให้เกิดความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลนี้ ทำงานมีแนวทาง มีมาตรฐานอย่างไร

เมื่อถามว่า หากพรรคร่วมไม่ยอม นายกรัฐมนตรีจะมีมาตรการอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวย้ำว่า เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะดำเนินการ แต่ทั้งหมดทำเพื่อต้องการให้รัฐบาล สามารถทำงานได้ หากรัฐบาลคิดแต่ว่าเป็นเรื่องของตัวเลขหรืออะไรมันไม่ใช่ การทำงานจะสำเร็จได้ต้องได้รับการยอมรับ ความเชื่อถือต้องใช้ตรงนี้เข้ามาประกอบ ไม่เช่นนั้นตนคงไม่พูด เรื่อง 9 มาตรการ กับคณะรัฐมนตรีตั้งแต่วันแรก นี้คือหลักการที่ตนใช้ ส่วนจะเป็นอย่างไรอีกสองวันคงทราบ

เมื่อถามว่า ผลที่ออกมาเชื่อว่าสังคมจะรับได้ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สังคมต้องเป็นคนตอบตนอีกทีหนึ่ง แต่ตนก็มีหลักเกณฑ์ ที่ชัดเจนในการพิจารณา

เมื่อซักว่า ขณะนี้ฝ่ายค้านระบุว่า มีข้อมูลเด็ดที่จะอภิปรายและล้มรัฐบาลได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องรอให้เขายื่นและอภิปราย ตนก็ไม่ทราบ เมื่อถามว่า เป็นกังวลหรือไม่ เพราะฝ่ายค้านเองระบุว่า เหมือนเป็นการปล่อยปะละเลยจนทำให้การบริหารราชการมีปัญหา นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่กังวล ตนคิดว่าตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาได้ทุ่มเททำงานเต็มที่ และคิดว่ามีอะไรที่ก้าวหน้าไปมาก เปลี่ยนแปลงไปมาก ก็ดีที่มีระบบการตรวจสอบอยู่ ตนมองข้ามอะไรไปเขาเสนอข้อมูลมา ก็จะดูและชี้แจงว่า ที่ทำมามีเหตุมีผลอะไร เมื่อถามว่าการปรับ ครม.จะลดแรงตรงนี้ได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่รู้ว่าเขาเตรียมอะไรไว้บ้าง

เมื่อถามว่า มีข่าวว่ากระแสภายในพรรคอยากให้เปลี่ยนตัวนายวิฑูรย์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนก็ฟังทุกความเห็น หากจะปรับหรือไม่ปรับ ตนก็ต้องเป็นคนชี้แจงเหตุผลว่าปรับเพราะอะไร ไม่ปรับเพราะอะไร และเหตุผลนี้คือตัวที่ตนหวังว่าจะทำให้ประชาชนมีความมั่นใจในแนวทางการทำงานของรัฐบาล ไม่ว่าการตัดสินใจจะไปทางใดก็ตาม ทุกทางออกตนจะให้คำตอบ เมื่อถามว่าจะต้องคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคอีกครั้งหนึ่งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคุยกับหลายท่านแล้ว แต่ยังไม่ได้ครบทุกคน

ส่วนกรณีของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตนเข้าใจว่ายังเป็นเรื่องที่ไกลพอสมควร แต่ไม่ค่อยสบายใจเหมือนกัน เห็นข่าวบอกว่ายังไม่ถึงที่สุด ไม่ใช่ยังไม่ถึงที่สุด ยังไม่ได้เริ่มต้นเลย เพราะคดีขณะนี้เป็นคดีเลือกตั้งของตัวผู้สมัคร คือตัวนายก อบจ. ตรงนั้นต้องสิ้นสุดเสียก่อนจึงย้อนกลับไปที่ กกต.ในส่วนของคดีอาญา ถึงตรงนั้นค่อยมาว่ากันอีกทีว่าจะเริ่มต้นและไปตรงไหนอย่างไร

เมื่อถามว่า ทาง กกต.ระบุว่า นายสุเทพเป็นแค่ผู้ไปมีส่วนร่วมงาน ไม่ต้องเรียกชี้แจง เสมือนกระบวนการนี้จบแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีคำว่าส่วน่รวม ไม่ใช่ที่ดินกับบ้าน