“สาทิตย์” เล็งงัดกฎเหล็ก ฟื้นห้องเย็นสมัยชวน สอบ ส.ส.โดดร่มสภา หลังถูกฝ่ายค้านป่วนเรียกนับองค์ประชุมถึง 2 ครั้งภายในชั่วโมง กำชับ ส.ส.พรรคร่วมต้องเข้าประชุมสภาทุกนัด ไม่หวั่น “กงกรรมกงเกวียน” อ้างเป็นเรื่องปกติ เพราะฝ่ายค้านจ้องป่วนอยู่แล้ว ฟุ้งยิ่งเจอรัฐบาลยิ่งแกร่ง ด้าน “เทพเทือก” ปัดหากฎเหล็กลงโทษ มั่นใจ ส.ส.มีความรับผิดชอบ
วันนี้ (22 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าถึงกรณี ส.ส.ไม่เข้าร่วมประชุมสภาจนต้องมีการเสนอนับองค์ประชุมสภาถึง 2 ครั้ง ซึ่งเป็นบทเรียนที่รัฐบาลจะต้องแก้ไขหรือไม่ว่า ทางพรรคฝ่ายค้านเองก็มีท่าทีที่จะกล่าวหารัฐบาลอยู่แล้วว่ารัฐบาลได้อำนาจมาโดยไม่ชอบ และคิดว่าเกมในสภาคงต้องเจออย่างนี้ไปโดยตลอด ซึ่งผมก็คิดว่าทางวิปรัฐบาลคงจะมีแนวทางในการรับมือไว้พอสมควร และเมื่อวานนี้ก็มีการตรวจสอบรายชื่อว่ามีใครบ้างที่ติดภารกิจ
นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า ในวันนี้ (22 ม.ค.) ทางวิปรัฐบาลจะมีการหารือกันเพื่อให้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคไปกำกับ ส.ส.ทุกคนว่าเมื่อมีการประชุม ส.ส.ทุกคนต้องเข้ามาอยู่ในที่ประชุม แต่ก็ยังดีเพราะเหตุการณ์เมื่อวานนี้ผ่านไปโดยเรียบร้อย แต่สิ่งที่ได้มีการหารือกันไว้ระหว่างวิปรัฐบาลกับประธานสภา คือจะใช้ข้อบังคับการประชุมอย่างเคร่งครัด เพราะแม้ว่าในการนับครั้งแรกจะเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ก็จริง แต่การนับในครั้งหลักจะไม่ใช่เอกสิทธิ์แล้วเป็นต้น
“เรื่องนี้คงไม่มีปัญหาอะไร นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้วิตกอะไร เพราะคิดว่าวิปรัฐบาลจะรับมือได้” นายสาทิตย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากเสียงที่เกินมานั้นเสี่ยงเป็นอย่างมากที่องค์ประชุมจะล้มได้ นายสาทิตย์ กล่าวว่า คิดว่าวันหลังจะต้องทำให้มีความพร้อมมากกว่านี้ เพราะคาดหมายอยู่แล้วว่าจะเจออย่างนี้
เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรเมื่อรัฐบาลต้องทำงานด้วยและจะต้องไปประชุมกรรมาธิการด้วยในเวลาเดียวกัน นายสาทิตย์ กล่าวว่า แต่ละคนต้องปรับเวลาของตัวเองว่าในวันพุธซึ่งเป็นวันที่จะต้องเป็นวันพิจารณากฎหมายสำคัญๆ ถ้าจะมีการนับองค์ประชุมกันแล้ว ส.ส.ต้องเข้าร่วมประชุมโดยเร็ว เพราะตนคิดว่าเสียงรัฐบาลเกินกว่า 40-50 เสียง คิดว่าครบ แม้ว่าจะอยู่กรรมาธิการกันบ้างก็ยังเพียงพอ ไม่ได้มีปัญหา
เมื่อถามว่าเสียงที่หายไปเมื่อวานนี้เป็นเสียงของพรรค ปชป.หรือพรรคร่วม นายสาทิตย์ กล่าวว่า ก็ผสมๆ กันและก็ได้สอบถามเหตุผลกันถึงเหตุผลที่ไม่ได้มา
เมื่อถามต่อว่า การที่ประธานสภากล่าวว่าเป็นเรื่องของกงกรรมกงเกวียน นายสาทิตย์ กล่าวว่า “ผมตรวจสอบดูแล ในฐานะที่เคยเป็นพรรคฝ่ายค้านมาก็คิดว่า คำว่ากงกรรมกงเกวียนคือว่า เมื่อนับแล้วนับซ้ำ และใน 2 สมัยประชุมที่ผ่านมาที่เป็นฝ่ายค้าน ได้มีการนับองค์ประชุมไม่ถึง 5 ครั้งด้วยซ้ำ ถ้าจำได้ ประเภท 1 ชั่วโมงนับ 1 ครั้งคงไม่มี แต่เหตุการณ์อย่างนี้ที่พรรคประชาธิปัตย์เคยเจอมาแล้วสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ที่พรรคความหวังใหม่สมัยนั้นเป็นพรรคฝ่ายค้าน มีการนับองค์ประชุมกันแทบทุกชั่วโมง ตอนนั้นเสียงพรรคประชาธิปัตย์เกินอยู่ 12 เสียง ท่านนายกฯ ชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องกำชับกันตลอดเวลา แล้วตอนนั้นกลายเป็นที่มาของห้องเย็น คือ ใครไม่มาประชุมจะถูกเรียกไปสอบถามเหตุผล แถวนี้คงไม่ถึงขั้นนั้น เพราะมีเสียงเกินมา 40-60 เสียง และถ้าทุกคนรับผิดชอบและมาประชุมตรงเวลา วิปรัฐบาลทำงานเข้มแข็ง คงไม่มีปัญหา ส่วนกงกรรมกงเกวียนคงไม่ใช่ แถวนี้คงหนักกว่าเดิม ก็คงตั้งหลักใหม่ เพราอย่างไรก็จะมีการรวนกันให้ได้” นายสาทิตย์ร ะบุ
เมื่อถามว่า อย่างนี้วิปฝ่ายค้านและรัฐบาลจะประสานกันมากขึ้นหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ประธานวิปรัฐบาลประสานกันอยู่ตลอด แต่เข้าใจว่าคนในฝ่ายค้านกันเองก็ตั้งใจกันไว้แล้วว่าจะทำเช่นนั้น แต่ก็ไม่เป็นไรเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องทำให้คนครบให้ได้จะไปโทษใครก็ไม่ได้ และคงไม่ถึงขั้นจะฟื้นห้องเย็นรอบสอง “เริ่มต้นวันแรกดี เริ่มต้นต้องโดนอย่างนี้จะได้แกร่ง เพื่อจะได้รับผิดชอบกัน” นายสาทิตย์ กล่าว
ต่อข้อถามว่า เมื่อวานนี้มีการกล่าวกันว่าจะให้มีการประชุมร่วมกันระหว่างวิปฝ่ายค้านและรัฐบาล นายสาทิตย์ กล่าวว่า จริงๆ แล้ววันนี้วิปรัฐบาล ฝ่ายค้าน และวิปของวุฒิฯ จะประชุมกันเพื่อหารือกันในการประชุมสัปดาห์หน้า ที่จะหารือเรื่องกรอบการตกลงอาเซียน ซึ่งท่านนายกฯ เองก็ขอความร่วมมือไปแล้วว่าอยากให้ทุกฝ่ายขอความร่วมมือกับรัฐบาล ความจริงกรอบการเจรจาอาเซียนเสนอมาตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อน คือ นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เสนอในยุครัฐบาลประชาธิปัตย์ แต่ถ้าถึงวันนั้น คิดถึงประโยชน์ของประเทศเป็นใหญ่คงไม่มีการตีรวนกัน อย่างที่เกิดขึ้นกันในวานนี้
เมื่อถามว่านายกฯ จะเข้าร่วมประชุมในเวทีนี้ด้วยหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ท่านคงติดภารกิจไม่ได้ไป แต่ก็ได้สอบถามจากทางตนอยู่ และตนก็ได้ประสานกับวิปรัฐบาลมาโดยตลอด คงตกลงกันได้ไม่มีปัญหา ส่วนกรณีที่นายกฯ จะประสานฝ่ายค้านคงจะมีการคุยกันเรื่องกลไกการปฏิรูปการเมือง ซึ่งความตั้งใจของนายกฯ ต้องการชักชวนฝ่ายค้านมาร่วมกันปฏิรูปการเมือง ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าท่านนายกฯ จะนัดได้หรือไม่อย่างไร
เมื่อถามว่า บทบาทประธานสภาในการทำหน้าที่เป็นอย่างไร นายสาทิตย์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านเข้มแข็งกว่าเดิม เพราะว่าคงตั้งใจมาแล้ว อาจจะมีเรื่องเก่าค้างคาใจกันมา แต่ว่าประธานชัยน่าชมเชย คนอายุขนาดนั้นยังเข้มแข็ง และดูรองประธานสภาทั้ง 2 ท่านที่หลายฝ่ายกังวลก่อนหน้านี้ก็สามารถคุมเกมสภาได้ดี น่าจะไม่มีปัญหา แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งโดนนับไป 4-5 รอบ ก็เป็นเรื่องของวิปรัฐบาลที่จะต้องจัดหาคนมาให้ครบจนได้ จะไปโทษใครก็คงไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ประชาชนจะเป็นคนตัดสินใจเองว่าตกลงฝ่ายค้านที่รุกขึ้นออกมา แต่เป็นกฎหมายที่สำคัญ เช่น กฎหมายผู้สูงอายุ หมายความว่าอย่างไร
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า คิดว่าคงไม่มีปัญหา เพราะว่าสมาชิกฝ่ายรัฐบาลก็เข้าใจดีว่าองค์ประชุมมีความสำคัญ เพื่อให้งานในสภาเดินหน้าไปได้ เพราะว่าถ้าองค์ประชุมไม่ครบคงทำงานไม่ได้ เพราะฝ่ายค้าน ก็เห็นได้จากเมื่อวาน มีการนับองค์ประชุมถึง 2 ครั้ง ซึ่งการที่ฝ่ายค้านนับองค์ประชุมถึง 2 ครั้งภายในชั่วโมงเดียวก็ทำให้สมาชิกฝ่ายรัฐบาลตื่นตัว ต่อไปนี้ต้องอยู่ในสภาตลอดเวลา เพราะจริงๆ แล้วก็อยู่ในสภาตลอดเวลา เพียงแต่ว่าคณะกรรมการธิการต่าง นัดประชุมพร้อมกันในเวลาเดียวกัน ขณะที่สภาใหญ่กำลังประชุมอยู่ ทำให้หลายคนไปประชุมคณะกรรมาธิการ ตอนนับองค์ประชุมวิ่งลงมาไม่ทัน แต่ตอนนี้มีความเข้าใจกันดีแล้ว
เมื่อถามว่าจะมีการออกกฎระเบียบให้เข้มหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่ต้องออกกฎ เพราะ ส.ส.ก็ตระหนักในภาระหน้าที่ดีอยู่แล้ว รัฐบาลเองก็เข้าใจดีว่าเสียงแต่ละเสียงมีความหมายมีความสำคัญ และส่วนตัวก็เชื่อว่าไม่จำเป็นต้องมีมาตรการลงโทษอะไร เพราะทุกคนก็มีความรับผิดชอบ ตนเชื่อมั่นอย่างนั้น