xs
xsm
sm
md
lg

สภาฯล่มสมใจฝ่ายค้านส.ส.รัฐบาลโดดร่มขอนับองค์ประชุมขาดไป9

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วานนี้ (22 ม.ค.) เพื่อพิจารณารับทราบรายงานการปฎิบัติงานของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง ประจำปี 2550 และพิจารณาร่างพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ ในเวลา17.25น.มีสมาชิกในห้องประชุมบางตา นายประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย จึงเสนอขอเช็คองค์ประชุม โดยให้นับองค์ประชุม เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 2 วันของการประชุมสภา
แม้ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนฯ ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม พยายามขอให้ถอนการเสนอนับองค์ประชุมแต่นายประเสริฐยืนยันไม่ถอนอ้างว่า ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ตอนเป็นฝ่ายค้านได้ยืนยันว่าการเสนอนับองค์ประชุมเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ในการเสนอ ทำให้ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอให้นับองค์ประชุมโดยการขานชื่อ เพราะจะได้รู้ว่า ใครมาไม่มาประชุม จะได้ลงโทษได้ถูก พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้เสนอนับองค์ประชุมแต่เนื่องจากมีร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุซึ่งเป็นกฎหมายที่มีความสำคัญและประชาชนรอฟังอยู่
อย่างไรก็ดี พ.อ.อภิวันท์ ได้พยายาม ขอให้ทั้งสองฝ่ายได้พิจารณาอีกครั้ง เพราะเป็นเพียงการรับทราบรายงานเท่านั้น เพราะมีร่าง พ.ร.บ.สำคัญรออยู่ แต่เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างไม่ยอมถอน ก็ต้องดำเนินการต่อไปตามที่เสนอ จากนั้นจึงได้เริ่มการขานชื่อนับองค์ประชุมเมื่อเวลา17.45 น.
ภายหลังใช้เวลานับองค์ประชุม 45 นาที พ.อ.อภิวันท์ ได้ประกาศว่า ผลการนับองค์ประชุม มี ส.ส.อยู่ในที่ประชุมจำนวน 219 คน ซึ่งองค์ประชุมทั้งหมดมีจำนวน 455 คน คาดไป 9 คน จึงถือว่าไม่ครบองค์ประชุม จึงไม่สามารถประชุมต่อได้ พ.อ.อภิวันท์ได้ขอปิดการประชุมเมื่อเวลา18.35น.
ทั้งนี้ ถือการประชุมสภาล่มเป็นครั้งแรก หลังจากเปิดสมัยประชุมสภามาเพียง 2 วัน ปรากฏว่า มีการเสนอนับองค์ประชุม 3 ครั้งจนส่งผลทำให้ไม่สามารถดำเนินการประชุมต่อไปได้

วิปรัฐบาลนัดถกด่วนวันนี้หลังสภาล่ม
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงาน(วิป)พรรคร่วมรัฐบาล กล่าวว่า เป็นความพยายามของส.ส.กลุ่มหนึ่งที่ต้องการปั่นป่วนในเรื่ององค์ประชุมของสภาอยู่แล้ว แต่ในฐานะฝ่ายรัฐบาลก็ต้องตระหนักว่าความพยายามที่จะไม่ให้การบริหารราชการแผ่นดินโดยเฉพาะการป่วนงานในสภายังคงมีอยู่
ดังนั้นเป็นหน้าที่พรรคร่วมรัฐบาลต้องให้ความสำคัญต้องประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน ต้องร่วมกันรับผิดชอบองค์ประชุมให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น โดยในวันที่ 23 ม.ค. จะมีการประชุมวิปรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อทบทวน และหาทางป้องกันหาทางแก้ไขหากเกิดเหตุการณ์นี้อีก ซึ่งวิปรัฐบาลต้องปรับกระบวนการเพื่อควบคุมเสียงส.ส.ให้ชัดเจนกว่านี้ โดยเบื้องต้นยังมั่นใจว่าการให้วิปรัฐบาล 1 คนคุมเสียงส.ส. 5 คน ยังทำงานได้ดีอยู่ ขอเรียกร้องไปยังฝ่ายค้านว่า หากยังปล่อยให้ส.ส.กลุ่มหนึ่งใช้ป่วนการประชุมสภาอย่างนี้ก็จะมีปัญหาต่อความเชื่อมั่นของฝ่ายค้านเอง

สุเทพให้เป็นบทเรียนคงไม่เกิดอีก
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คงช่วงใกล้วันตรุษจีน หลายคนคงอยู่ต่างจังหวัด และเป็นช่วงเวลา 18.00 น. แล้ว การขาดไป 9 เสียงวันนี้ถือเป็นบทเรียนว่าส.ส.ทุกคนต้องตระหนัก หลังจากนี้จะพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลอีกที ซึ่งวิปพรรคร่วมแต่ละพรรคคงไปรายงานให้ทราบกันแล้ว จากนี้ไปต้องคุยกันให้บ่อยขึ้น ว่าแต่ละเสียงมีความหมาย ขาดไป 1 เสียงหรือไม่ระวังการทำงานในสภาต่อไปจะลำบาก
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการหักหลังจากพรรคร่วมหรือไม่ นายสุเทพ ได้หันไปยังผู้สื่อข่าวที่ตั้งคำถามพร้อมกับตอบด้วยท่าทีหงุดหงิดว่า คำถามของคุณมองในแง่ร้ายอยู่เรื่อย มองแง่ดีบ้าง หากมองในแง่ดีก็ได้กลับบ้านเร็วขึ้น
ส่วนจะมีการคาดโทษส.ส.ที่ขาดประชุมหรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ในส่วน ส.ส. พรรคร่วมเราไปคาดโทษไม่ได้ ทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ซึ่งตนคิดว่า คงไม่เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก และวันที่ 25 ม.ค.นี้พรรคร่วมรัฐบาลจะนัดทานข้าวกันคงได้คุยกันด้วย
ส่วนที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าจะคุยกับทางฝ่ายค้านเพื่อขอความร่วมมือด้วย นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ดี แต่ส.ส.รัฐบาลเองก็ต้องพร้อมด้วย เมื่อถามว่าหนักใจกับการเล่นเกมของฝ่ายค้านหรือไม่ นายสุเทพตอบว่า ก็ต้องอดทนอดกลั้น เมื่อถามว่า หากมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจจะลำบากหรือไม่ นายสุเทพตอบว่า เอาไว้ให้ถึงเวลาก่อนแล้วค่อยมาถามเรื่องนี้

ชวนให้ส.ส.รัฐบาลรับผิดชอบร่วมกัน
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาล ในระบอบรัฐสภาคนที่จะเป็นรับบาลได้ต้องมีเสียงข้างมาก เพราะฉะนั้นเป็นหน้าที่รัฐบาลต้องเอาองค์ประชุมมาให้ครบ คือหน้าที่ประชุมสภา เป็นหน้าที่ของทุกคน แต่ว่าในการรับผิดชอบที่ต้องเอาเสียงข้างมากมาสภาเป็นของรัฐบาล ต้องเข้าใจว่า ฝ่ายค้านจะนับไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ครบองค์ประชุม ดังนั้นเราก็ต้องระมัดระวัง ทุกคนต้องรับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าเห็นว่า นายกรัฐมนตรีจะขอความร่วมมือฝ่ายค้าน ในการเข้ามาทำงาน นายชวนกล่าวว่า ถือเป็นหน้าที่ทุกฝ่าย เมื่อถามว่าการที่เสนอนับองค์ประชุมบ่อยครั้งทำให้การทำงานล่าช้าหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า แน่นอน ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว แต่ถือเป็นสิทธิ์ที่ฝ่ายค้านทำได้ ฝ่ายค้านประกาศชัดเจนว่า ไม่ต้องการให้รัฐบาลทำงานได้ เมื่อรัฐบาลรู้ว่าฝ่ายค้านประกาศเช่นนั้น ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ด้วยการระมัดระวัง

บอกไม่ใช่กงกรรมกงเกวียน
ส่วนจะฝากอะไรถึงฝ่ายค้านหรือไม่นั้น นายชวน กล่าวว่า ไม่มีอะไรจะบอกเพราะถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบร่วมกันอยู่แล้ว เมื่อถามว่า การเสนอนับองค์ประชุมบ่อยครั้งเป็นเกมรูปแบบใหม่ของฝ่ายหรือไม่ นายชวนกล่าว ไม่ถือว่าใหม่ใครเป็นรัผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นกงกำกงเกวียนหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ไม่ใช่(หัวเราะ) คิดว่าการนับองค์ประชุมก็แล้วแต่ความมากน้อยความพอดี เมื่อถามว่า รัฐบาลจะเจรจาอะไรกับฝ่ายค้านหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ตนไม่ทราบ คิดว่าหน้าที่ของรัฐบาลคือ เป็นสมาชิกรัฐบาล ใครที่ขาดประชุมก็ควรรับผิดชอบต่อภาระนี้
ต่อข้อถามว่าเป็นเกมที่จะบีบรัฐบาลให้ยุบสภาใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า นี่เป็นเป้าหมายของฝ่ายค้านคือไม่ให้รัฐบาลทำงานได้ ส่วนจะทำสำเร็จหรือไม่นั้นอยู่ที่ความรับผิดชอบของส.ส.ฝ่ายรัฐบาล

แฉพรรคร่วมรัฐบาลโดนประชุมอื้อ
นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะวิปรัฐบาล กล่าวว่า เหตุสภาฯล่มต้องโทษพรรคร่วมรัฐบาลที่ขาดประชุมจำนวนมาก ไม่ใช่ความผิดของพรรคเพื่อไทย เพียงแต่ไม่ควรเอาความแค้นส่วนตัวมาเล่นเป็นเกมการเมืองจนทำให้บ้านเมืองเดินหน้าไปไม่ได้
ทั้งนี้เท่าที่ทราบพบว่ามีส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาลเข้าร่วมประชุมแยกเป็น พรรคกิจสังคม 3 คนจากที่มีอยู่ 5 คน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 8 คน พรรคเพื่อแผ่นดิน 10 คนจาก 24 พรรคชาติไทยพัฒนา 13 คนจาก 24 คน พรรคภูมิใจไทย 20 คนจาก 32 คน พรรคประชาธิปัตย์ 163 คนจากที่มีส.ส.173 คน ส่วนพรรคเพื่อไทย ลงคะแนนให้ 2 เสียงจากนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน และพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาฯ

กำชับปธ.สภาใช้ข้อบังคับเคร่งครัด
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีฝ่ายค้านทดสอบรัฐบาลด้วยการเสนอนับองค์ประชุมสภา 2 ครั้ง เมื่อการประชุมสภา วันที่ 21 ม.ค.ถือเป็นบทเรียนที่รัฐบาลจะต้องแก้ไขซึ่งทางพรรคฝ่ายค้านเอง ก็มีท่าทีที่จะกล่าวหารัฐบาลอยู่แล้วว่ารัฐบาลได้อำนาจมาโดยไม่ชอบ และคิดว่าเกมในสภาคงต้องเจออย่างนี้ไปโดยตลอด ซึ่งผมก็คิดว่าทางวิปรัฐบาลคงจะมีแนวทางในการรับมือไว้พอสมควร และเมื่อวันที่ 21 ม.ค. ก็มีการตรวจสอบรายชื่อว่า ว่ามีใครบ้างที่ติดภารกิจ
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ในวันนี้ ( 22 ม.ค.) ทางวิปรัฐบาลจะมีการหารือกัน เพื่อให้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคไปกำกับให้มีการประชุม ส.ส. ทุกคนต้องเข้ามาอยู่ในที่ประชุม ซึ่งสิ่งที่ได้หารือกันไว้ระหว่างวิปรัฐบาลกับประธานสภา คือ จะใช้ข้อบังคับการประชุมอย่างเคร่งครัด เพราะแม้ว่าในการนับครั้งแรกจะเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ก็จริง แต่การนับในครั้งหลักจะไม่ใช่เอกสิทธิ์แล้วเป็นต้น
เรื่องนี้คงไม่มีปัญหาอะไร นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้วิตกอะไร เพราะคิดว่าวิปรัฐบาลจะรับมือได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าเสียง ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลที่เกินมาไม่มากนั้น เสี่ยงเป็นอย่างมากที่องค์ประชุมจะล้มได้ นายสาทิตย์ กล่าวว่า คิดว่าวันหลังจะต้องทำให้มีความพร้อมมากกว่านี้ เพราะคาดหมายอยู่แล้วว่าจะเจออย่างนี้
ส่วนจะทำอย่างไรเมื่อรัฐบาล ทำงานด้วยและจะต้องไปประชุมกรรมาธิการด้วย ในเวลาเดียวกันนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า แต่ละคนต้องปรับเวลาของตัวเองว่าในวันพุธซึ่งเป็นวันที่จะต้องเป็นวันพิจารณากฎหมายสำคัญๆ ถ้าจะมีการนับองค์ประชุมกันแล้ว ส.ส.ต้องเข้าร่วมประชุมโดยเร็ว เพราะเสียงรัฐบาลเกินกว่า 40-50 เสียง คิดว่าครบ แม้ว่าจะอยู่กรรมาธิการกันบ้างก็ยังเพียงพอ ไม่ได้มีปัญหา
ส่วนเสียงที่หายไปในการนับองค์ประชุมเมื่อวันที่ 21 ม.ค.เป็นส.ส.ของ พรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคร่วมรัฐบาล นายสาทิตย์ กล่าวว่า ก็ผสมๆ กันและก็ได้สอบถามเหตุผลที่ไม่ได้มากัน

สมัยเป็นฝ่ายค้านนับองค์ประชุม5ครั้ง
ส่วนที่ประธานสภา กล่าวว่า เป็นเรื่องของ กงกรรมกงเกวียน นายสาทิตย์ กล่าวว่า ในฐานะที่เคยเป็นพรรคฝ่ายค้านมาก็ คิดว่า คำว่าง กงกรรมกงเกวียน คือเมื่อนับแล้วนับซ้ำ แต่ใน 2 สมัยประชุมที่ผ่านมาที่เป็นฝ่ายค้าน ได้มีการนับองค์ประชุมไม่ถึง 5 ครั้งด้วยซ้ำ ถ้าจำได้ ประเภท 1 ชั่วโมงนับ 1 ครั้งคงไม่มี แต่เหตุการณ์อย่างนี้ที่พรรคประชาธิปัตย์เคยเจอมาแล้วสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ที่พรรคความหวังใหม่สมัยนั้นเป็นพรรคฝ่ายค้าน มีการนับองค์ประชุมกันแทบทุกชั่วโมง ตอนนั้นเสียงพรรคประชาธิปัตย์เกินอยู่ 12 เสียง นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีสมัยนั้น ต้องกำชับกันตลอดเวลา แล้วตอนนั้นกลายเป็นที่มาของ ห้องเย็น คือ ใครไม่มาประชุมจะถูกเรียกไปสอบถามเหตุผล แต่ครั้งนี้นี้คงไม่ถึงขั้นนั้น เพราะมีเสียงเกินมา 40-60 เสียง และถ้าทุกคนรับผิดชอบและมาประชุมตรงเวลา วิปรัฐบาลทำงานเข้มแข็ง คงไม่มีปัญหา ส่วนกงกรรมกงเกวียนคงไม่ใช่ แถวนี้คงหนักกว่าเดิม ก็คงตั้งหลักใหม่ เพราอย่างไรก็จะมีการรวนกันให้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าอย่างนี้วิปฝ่ายค้านและรัฐบาล จะประสานกันมากขึ้นหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ประธานวิปรัฐบาลประสานกันอยู่ตลอด แต่เข้าใจว่า คนในฝ่ายค้านกันเองก็ตั้งใจกันไว้แล้วว่าจะทำเช่นนั้น แต่ก็ไม่เป็นไรเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องทำให้คนครบให้ได้ จะไปโทษใครก็ไม่ได้ และคงไม่ถึงขั้นจะฟื้นห้องเย็นรอบ 2
เริ่มต้นวันแรกดี เริ่มต้นต้องโดนอย่างนี้ จะได้แกร่ง เพื่อจะได้รับผิดชอบกัน

วอนทุกฝ่ายร่วมมือประชุมกรอบอาเซี่ยน
ส่วนการประชุมร่วมกันระหว่างวิปรัฐบาล และฝ่ายค้านนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า วันนี้วิปรัฐบาล ฝ่ายค้าน และ วิปของวุฒิจะประชุมกันเพื่อหารือกันในการประชุมสัปดาห์หน้า ที่จะเรื่อง กรอบการตกลงอาเซียน ซึ่งท่านนายกฯ เองก็ขอความร่วมมือ ไปแล้วว่า อยากให้ทุกฝ่ายของความร่วมมือกับรัฐบาล ความจริงกรอบการเจรจา อาเซียนเสนอมาตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อน คือ สมัย นายสมัคร สุนทรเวช และ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เสนอในยุครัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ แต่ถ้าถึงวันนั้น คิดถึงประโยชน์ของประเทศเป็นใหญ่คงไม่มีการตีรวนกัน อย่างที่เกิดขึ้นกันในวานนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าบทบาทประธานสภาในการทำหน้าที่เป็นอย่างไร นายสาทิตย์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านเข้มแข็งกว่าเดิม เพราะว่าคงตั้งใจมาแล้ว อาจจะมีเรื่องเก่าค้างคาใจกันมา แต่ว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา ก็น่าชมเชย คงอายุขนาดนั้นยังเข้มแข็ง และดูรองประธานสภาทั้ง 2 ท่าน ที่หลายฝ่ายกังวลก่อนหน้านี้ ก็สามารถคุมเกมสภาได้ดี น่าจะไม่มีปัญหา แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งโดนนับไป 4-5 รอบ ก็เป็นเรื่องของวิปรัฐบาลที่จะต้องจัดหาคนมาให้ครบจนได้ จะไปโทษใครก็คงไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามประชาชนจะเป็นคนตัดสินใจเองว่าตกลงฝ่ายค้านที่ลุกขึ้นออกมาที่กำลังพิจารณาเป็นกฎหมาย ที่สำคัญ เช่น กฎหมายผู้สูงอายุ หมายความว่าอย่างไร

ฝ่ายค้านเย้ยเงินไม่ออกสภาล่มแน่
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรัฐบาลระบุว่าฝ่ายค้านตีรวนการประชุมสภา ด้วยการให้นับองค์ประชุม 2 ครั้งใน 1 ชั่วโมงว่า ฝ่ายค้านไม่ได้ป่วนการประชุมสภา แต่ที่ต้องขอนับองค์ประชุมเนื่องจากต้องการให้ส.ส.รัฐบาลมีความรับผิดชอบ ต่อการประชุม โดยเฉพาะการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับต่างๆ และจากนี้ไปรัฐบาลก็ต้องเหนื่อยหน่อย เพราะฝ่ายค้านจะขอนับองค์ประชุมโดยใช้วิธีขานชื่อ เชื่อว่าเสียงของรัฐบาลถ้าเงินไม่ออก หรือนโยบายที่ออกมาไม่เป็นที่พอใจ ของพรรคร่วมรัฐบาล เนื่องจากไปกระจุกตัวอยู่ในกระทรวงที่รัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์รับผิดชอบอย่างเดียว เชื่อว่าองค์ประชุมมีปัญหาแน่
กำลังโหลดความคิดเห็น