มาตรวิทยาออกคำแถลงระบุ ข้อมูลจากฟอร์เมล ชี้แจงเวลามาตรฐานไทยไม่ได้ปรับขึ้น 30 นาทีแต่อย่างใด ระบุสิ่งที่ทำคือถ่ายทอดสัญญาณผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เพื่อให้ผู้ต้องการใช้เวลามาตรฐานได้เข้าถึงข้อมูลเวลาที่ถูกต้อง โดยความถูกต้องของการถ่ายทอดสัญญาณเวลาจำกัดในย่าน 1 วินาทีเท่านั้น
สถาบันมาตรวิทยาวิทยาแห่งชาติ (มว.) ได้เผยแพร่คำแถลงชี้แจงโดยฝ่ายมาตรวิทยาไฟฟ้า ว่ามีข่าวปรากฏในหนังสือรายวัน 2 ฉบับคือ ไทยรัฐและมติชน เมื่อวันที่ 6 ส.ค.51 ซึ่งอ้างบทสัมภาษณ์ พล.อ.ต.เพียร โตท่าโรง ผู้อำนวยการสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ เกี่ยวกับการปรับเวลาประเทศไทยใหม่ ส่งผลให้มีการขยายความในภายหลังพร้อมส่งต่อทางอีเมลเป็นทอดๆ กลายเป็นข่าวลือว่า สถาบันมาตรวิทยาฯ จะปรับเปลี่ยนเวลาประเทศไทยไปอีก 30 นาที
อีกทั้งข่าวลือดังกล่าวยังทำให้เกิดความเข้าใจผิดและแตกตื่น จนมีผู้คนจำนวนมากสอบถามไปยังฝ่ายมาตรวิทยาไฟฟ้า ของสถาบันมาตรวิทยา ซึ่งผิดชอบมาตรฐานทางด้านไฟฟ้า เวลาและความถี่ ทางฝ่ายมาตรวิทยาไฟฟ้าจึงได้ออกแถลงข่าวดังกล่าวเมื่อวันที่ 11 ส.ค.51 ชี้แจงว่า สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงเวลามาตรฐานของประเทศไทยใดๆ ทั้งสิ้น โดยเวลามาตรฐานของไทย เท่ากับ เวลาตามมาตราเวลาพิกัดสากล UTC+7 ชั่วโมง
"สิ่งที่สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติกำลังดำเนินการและต้องการประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานต่างๆ และประชาชนทั่วไปทราบก็คือ ขณะนี้สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติได้จัดให้มีการถ่ายทอดสัญญาณเวลาผ่านระบบอินเทอร์เน็ต Network Time Protocol เพื่อให้ผู้ที่ประสงค์จะใช้งานมาตราเวลาพิกัดประเทศไทย หรือเวลามาตรฐานประเทศไทย สามารถเข้าถึงข้อมูลเวลาดังกล่าวได้อย่างทั่วถึง
โดยเซิร์ฟเวอร์เวลา (time servers) ที่ถ่ายทอดสัญญาณเวลามาตรฐานประเทศไทยที่สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติได้จัดให้มีขึ้นคือ time1.nimt.or.th และ time2.nimt.or.th โดยหวังว่า การถ่ายทอดสัญญาณเวลามาตรฐานของประเทศผ่านระบบนี้ จะเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องการใช้เวลาที่ถูกต้องตรงกับเวลามาตรฐานของประเทศ สามารถปรับจูน (Tune) คอมพิวเตอร์ของตนให้มีเวลาตรงกับเวลามาตรฐานของประเทศได้" แถลงชี้แจงระบุ
ทั้งนี้จากการตรวจสอบข่าวหนังสือพิมพ์รายวันทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวของผู้จัดการวิทยาศาสตร์ พบว่าเนื้อหาของข่าวไม่ได้ระบุถึงการปรับเวลามาตรฐานของไทยไป 30 นาทีแต่อย่างใด โดยเนื้อหาระบุคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ต.เพียร ที่ประสงค์ให้ผู้ประกอบการใน 4 ประเภท ได้แก่
1.ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมและกิจการกระจายภาพและเสียง อาทิ ผู้ให้บริการโทรศัพท์ขั้นพื้นฐาน โทรศัพท์เคลื่อนที่ ผู้ให้บริการเอทีเอ็ม เป็นต้น 2.ผู้ให้บริการการเข้าถึงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ อาทิ ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต เจ้าของหอพัก โรงแรม หน่วยราชการ บริษัทต่างๆ เป็นต้น 3.ผู้ให้บริการเช่าระบบคอมพิวเตอร์ และ 4.ผู้ให้บริการร้านอินเตอร์เน็ตต่างๆ ปรับเวลาให้ตรงกับเวลามาตรฐานประเทศ
เพื่อเป็นไปตามประกาศกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) เรื่อง หลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ พ.ศ.2550 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 ส.ค.นี้ หากไม่ปฎิบัติตามจะมีโทษปรับประมาณ 1-5 แสนบาท
คำแถลงของฝ่ายมาตรวิทยาไฟฟ้าระบุด้วยว่า หากสถานีโทรทัศน์และวิทยุทั้งหลายจะปรับจูนเวลาของสถานีผ่านระบบอินเทอร์เน็ตดังกล่าว ก็น่าจะทำให้เวลาของแต่ละสถานีในการเชิญธงชาติขึ้นสู่และลงจากยอดเสาในเวลา 8.00 น.และ 18.00 น.ตามลำดับ ตรงกัน และน่าจะส่งผลต่อไปยังประชาชนทั่วไป ซึ่งเทียบเวลานาฬิกากับเวลาของสถานีโทรทัศน์และวิทยุด้วย โดยความถูกต้องของการถ่ายทอดเวลาทางอินเทอร์เน็ตจำกัดอยู่ในย่าน 1 วินาทีเท่านั้น
