xs
xsm
sm
md
lg

กกต.ปัดเลื่อยเก้าอี้ “เรืองไกร” ไม่เกี่ยวร้องยุบพรรค ปชป.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ
“สดศรี” ยืนยันปัญหาที่มาขององค์กรที่เสนอชื่อ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา กรณีนิติบุคคลอาคารชุดของ “เซนจูรี่ปาร์ค” เสนอชื่อไม่มีเอี่ยวการเมือง เพราะมีผู้ร้องเรียนมาก่อน ยันมติส่งเรื่องศาลฎีกาแผนดคดีเลือกตั้งชี้ขาด

วันนี้ (7 ม.ค.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงปัญหาที่มาขององค์กรที่เสนอชื่อ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ว่า กรณีของ นายเรืองไกร คนไปเข้าใจว่า กกต.วินิจฉัยหลังจากที่ นายเรืองไกร จะฟ้องร้องพรรคประชาธิปัตย์ ความจริงแล้วทางกกต.ได้วินิจฉัยเรื่องนี้ไปตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.2551 ก่อนที่ นายเรืองไกร จะไปฟ้องร้องพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากเรื่องนี้มีผู้ร้องเรียนมาว่านิติบุคคลที่เสนอชื่อ นายเรืองไกร เป็นนิติบุคคลโดยชอบ ไม่แสวงหาผลกำไรจริงหรือไม่ ซึ่ง กกต.ก็เห็นว่า นิติบุคคลอาคารชุดของ “เซนจูรี่ปาร์ค” น่าจะเป็นนิติบุคคลที่ไม่ได้ทำเพื่อการกุศล หรือไม่ได้มีการแสวงหาผลกำไร จึงไม่เข้าข่ายเป็นองค์กรที่จะส่งผู้สมัคร ส.ว.สรรหาได้ ไม่มีเรื่องของการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน เพราะเรื่องนี้ได้รับการร้องเรียนเข้ามาเกือบปีแล้ว และ กกต.ต้องวินิจฉัยให้เสร็จภายใน 1 ปี โดยในวันที่ 23 ม.ค.นี้ ก็จะครบ 1 ปีในการเลือก ส.ว.สรรหา

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ออกมาช่วงนี้เป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า อาจจะเป็นเพราะทุกอย่างเข้ามาในเวลาใกล้เคียงกัน จึงทยอยเสร็จในเวลาไล่เลี่ยกันภายใน 1 ปี ซึ่งเรื่องการสอบสวนของ นายเรืองไกร กกต.สอบสวนมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว และเสร็จเมื่อเดือน พ.ย.มันประจวบเหมาะกันพอดี ไม่มีเรื่องทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง โดย นายเรืองไกร มีสิทธิ์ที่จะไปต่อสู้ในชั้นศาลได้

ขณะที่ นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวเรื่องเดียวกันว่า กกต.มีมติเรื่องนี้ไปแล้วว่า องค์กรที่ส่งรายชื่อ นายเรืองไกร มานั้น เป็นนิติบุคคลที่ทำเพื่อดูแลอาคารชุดเท่านั้น ไม่ได้ทำเพื่อสาธารณะ จึงไม่มีสิทธิ์เสนอชื่อ ซึ่ง กกต.ก็ได้มีการหารือมาแล้วส่วนหนึ่ง

ด้าน นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า กกต.มีมติในวันนี้ ในกรณีดังกล่าวให้ส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง พิจารณาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 240 ของรัฐธรรมนูญ และมาตรา 134 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. โดยให้สำนักวินิจฉัยคดี ดำเนินการยกร่างคำวินิจฉัยโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในชั้นของการสรรหา คณะกรรมการสรรหาได้เคยตรวจสอบเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายสุทธิพล กล่าวว่า ตนในฐานะที่เป็นเลขานุการคณะกรรมการสรรหา ขณะนั้นขอชี้แจงว่า ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมการสรรหาได้เคยมีการคุยกันว่า สมควรจะกำหนดคำจำกัดความความเป็นองค์กรที่มีสิทธิเสนอชื่อหรือไม่ แต่เมื่อกรรมการสรรหาพิจารณาตามกฎหมายแล้ว เห็นว่า กฎหมายไม่ได้กำหนดคำจำกัดความเป็นมาขององค์กรภาคต่างๆ ไว้ ว่า จะต้องเป็นอย่างไร และหากกรรมการสรรหากำหนดเองก็จะเป็นการจำกัดสิทธิได้ จึงไม่ได้จำกัดความ และเปิดให้มีการขึ้นทะเบียน ซึ่งหากองค์กรในภาคใดไม่เห็นด้วยก็สามารถยื่นคำร้องคัดค้านองค์กรนั้นๆ ได้ ขณะเดียวกัน ในส่วนของ กกต.ก็ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบคุณสมบัติแต่ก็ดูภาพรวมไม่ได้ตัดสิทธิองค์กรใดก่อนที่จะส่งให้กรรมการสรรหาพิจารณาเพราะเห็นว่ากฎหมายก็ไม่ได้เขียนว่าให้ กกต.เห็นชอบก่อน และเขียนเพียงแต่ให้ กกต. พิจารณาเห็นชอบใน 30 วัน ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นเพียงความเห็นของ กกต.เท่านั้น ยังไม่สิ้นสุดเพราะต้องส่งให้ศาลฎีกาเป็นผู้พิจารณา
กำลังโหลดความคิดเห็น