“อภิสิทธิ์” นัดถกงบปี 52 เพิ่มแสนล้านกลางที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจในวันพรุ่งนี้ ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่สัปดาห์หน้า ด้านสำนักงบประมาณ ชี้กรอบงบขาดดุล 3.5 แสนล้านมีความเป็นไปได้ ส่วนงบท้องถิ่น อปท.นายกฯ ขึงขังนั่งหัวโต๊ะเอง
วันนี้ (6 ม.ค.) นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในเวลา 10.00 น.วันที่ 7 ม.ค.นี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเนื้อหาหลัก คือ การถกกรอบงบประมาณกลางปี 2552 (งบเพิ่มเติม) จำนวน 1 แสนล้านบาท ซึ่งนายกรัฐมนตรีสั่งการให้ทุกกระทรวงนำร่างแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจมาพิจารณาเพื่อเร่งจัดทำให้เสร็จเร็วที่สุด ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถเสนอคณะรัฐมนตรีได้ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ และเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 21 มกราคมนี้ และสามารถเบิกจ่ายได้เร็วภายใน 2-3 เดือน
นายบัณฑูร สุภัควณิช ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้หากจะจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 โดยตั้งเป็นงบขาดดุลอีกไม่น้อยกว่า 3.5 แสนล้านบาท ตามที่นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ให้หลักการไว้ ซึ่งสามารถทำได้ทุกอย่าง แต่ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบของเงินคงคลัง
ขณะเดียวกัน 4 หน่วยงานหลัก ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงบประมาณ (สงป.) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะเป็นหน่วยงานที่ทบทวนกรอบงบประมาณรายจ่ายปี 2553 โดยจะเริ่มดำเนินการระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2552 นี้ให้มีความชัดเจนขึ้น
ดังนั้น หลักการในการตั้งงบประมาณขาดดุล จะต้องคำนึงถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพี แต่หากขยายตัว 0% ก็อาจจะต้องตั้งงบประมาณตามเซกชัน โดยเป็นการประมาณการรายได้ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการยกร่างกรอบงบประมาณรายจ่ายปี 2553 ที่ รมว.คลังตั้งขึ้น
นายบัณฑูร กล่าวต่อว่า ในส่วนของงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่รัฐบาลเร่งให้มีการเบิกจ่ายนั้น ยั้งมีงบประมาณค้างอยู่ 2-3 หมื่นล้านบาท นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเข้ามาเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่อนท้องถิ่น (กกถ.) ด้วยตัวเอง