สำนักงบประมาณ เตรียมเสนอ ครม.วันนี้ เพื่อขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายปี 2555 เพิ่มจากปี 2554 จำนวน 1.8 แสนล้านบาท “มาร์ค” เคลียร์ข้อสงสัยจัดทำงบกลางปี ยันตัวเลขจัดเก็บรายได้กระฉูด ทำให้สามารถจัดทำงบดังกล่าวได้อีก 1.2 แสนล้าน โดยจำนวน 8.4 หมื่นล้าน นำไปชดใช้เงินคงคลัง ส่วนที่เหลือแบ่งให้ อพท. นำเงินไปจ่ายเบี้ยให้ผู้สูงอายุ คนพิการ และช่วยเหลือน้ำท่วม
มีรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 24 มกราคม 2554 (วันนี้) สำนักงบประมาณจะเสนอขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 โดยมีงบประมาณรายจ่ายทั้งสิ้น 2.25 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงบประมาณปี 2554 ทั้งสิ้น 180,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.7
โดยงบดังกล่าวเป็นงบประมาณขาดดุล 3.5 แสนล้านบาท หรือ คิดเป็นร้อยละ 3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งขาดดุลลดลงจากปีงบประมาณ 2554 ที่ขาดดุล 4.2 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้เสนองบรายจ่ายเพิ่มเติม หรือ งบกลางปีของปีงบประมาณ 2554 ทั้งสิ้น 1 แสนล้านบาท จากมติ ครม.ครั้งที่ผ่านมา ให้กรอบวงเงินงบกลางไม่เกิน 1.1 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบประมาณ ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาสังคม คุณภาพชีวิต และเป็นรายจ่าย เพื่อชดเชยเงินคงคลัง
โดยวานนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” โดยระบุว่า การที่ ครม. มีมติเห็นชอบให้จัดทำงบประมาณกลางปี วงเงินไม่เกิน 1.1 แสนล้านบาท เป็นเพราะรัฐบาลคาดการณ์ว่า จะสามารถจัดเก็บรายได้เกินเป้าหมายประมาณ 120,000 ล้านบาท จึงจัดทำงบประมาณกลางปีเพื่อชดใช้เงินคงคลัง จำนวน 84,000 ล้านบาท เพื่อไม่ให้มีภาระกับรัฐบาลชุดต่อไป ส่วนงบประมาณอีกหนึ่งจะนำไปเพิ่มเติมให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อไปจ่ายเบี้ยให้ผู้สูงอายุและคนพิการ รวมทั้งจัดงบฟื้นฟูช่วยเหลือน้ำท่วม
“มีการตั้งคำถาม หรืออาจจะมีข้อสงสัยกันมากว่า รัฐบาลทำไมจึงจะมีการจัดทำงบประมาณกลางปีหรืองบประมาณเพิ่มเติม คำตอบก็คือว่า การจัดเก็บรายได้เกินเป้าหมายที่ได้คาดการณ์เอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือว่ามีการคำนวณกันคร่าวๆ จากตัวเลข 3 เดือน 4 เดือนที่ผ่านมาว่า ตลอดทั้งปีในที่สุดแล้วเราจะสามารถจัดเก็บรายได้เกินเป้า ก็ถือว่าเป็นเงินจำนวนมากพอสมควร เมื่อเราสามารถเก็บเงินได้เพิ่มขึ้น ก็จะมีการจัดทำงบประมาณกลางปี”
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการจัดทำงบประมาณปี 2555 ว่า ทางกระทรวงการคลังและ สำนักงบประมาณได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าจะปรับลดการขาดดุลงบประมาณลงเหลือ 350,000 ล้านบาท จากที่ปีงบประมาณ 2554 ตั้งไว้กว่า 400,000 ล้านบาท โดยตั้งใจว่า จะปรับลดการขาดดุลงบประมาณลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นงบประมาณแบบสมดุลใน 4 ปีข้างหน้า
