รอง หน.ปชป.เตรียมทบทวนหลายมาตรการทางเศรษฐกิจ เล็งเพิ่ม VAT ร้อยละ10ในแผนระยะยาวสวนข้อเสนอแบงก์ชาติ โปรยยาหอมภาคเอกชนเป็นแกนหลักในการกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจ เร่งสร้างความเชื่อมั่นช่วงต้นปีหน้า
วันนี้ (17 ธ.ค.) นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แคนดิเดต รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่มีการเสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้ลดภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 4 เปอร์เซ็นต์ว่า การแก้ปัญหามีหลายมิติ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งในส่วนของระยะสั้นเราเจอปัญหาเรื่องเศษฐกิจถดถอย ส่วนเรื่องระยะยาวต้องดูว่าความสามารถในการแข่งขันของประเทศว่าจะดำเนินไปอย่างไร นอกจากนี้ยังต้องประเมินความจำเป็นในการทบทวนมาตรการในหลายอย่างด้วยกัน ทั้งมาตรการการคลัง มาตรการภาษี การใช้งบของประเทศ และต้องดูว่าวิธีใดเหมาะสมที่สุด
ทั้งนี้ การลดภาษีก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ขณะนี้การอัดฉีดงบประมาณก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ส่วนมาตรการที่เสนอให้ลดภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 4 เปอร์เซ็นต์ มีบางประเทศที่ใช้มาตรการนี้ แต่ในส่วนของประเทศไทยก็ต้องยอมรับว่าภาษีเป็นรายได้หลัก ดังนั้น คงต้องดูว่าหากมีการปรับลดจะส่งผลกระทบอย่างไร หรือว่าฝ่ายใดจะได้ประโยชน์ และการดำเนินการทางภาษีจะตรงจุดกับการแก้ปัญหาหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา ถ้าหากลดภาษีแล้ว ไปเพิ่มในภายหลัง ก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ก็ต้องพิจารณา
นายกรณ์ กล่าวต่อว่า ในอดีตที่ผ่านมาประเทศไทยได้มีการปรับลดภาษีมูลค่าเพิ่มลงมาแล้วจาก 10 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 7 เปอร์เซ็นต์ในช่วงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ตนมองว่าในระยะยาว ภาษีมูลค่าเพิ่มควรจะอยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์ ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่าต้องใช้อะไรมาเป็นการแก้ปัญหา นายกรณ์ กล่าวว่า เศรษกิจจะดีขึ้นหรือไม่ อยู่ที่ภาคเอกชน เพราะตราบใดที่เอกชนยังขาดความเชื่อมั่นก็คงไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้ ดังนั้น เราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชน ให้มีความมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะมีเสถียรภาพ ซึ่งตนเชื่อว่าระยะเวลาที่จะสร้างความเชื่อมั่นน่าจะเป็นในรอบครึ่งปีหน้า
