กระทรวงท่องเที่ยวบุกคลังยื่นมาตรการระยะสั้นด้านท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ “เลี้ยบ” รับลูกส่ง สศค.-สรรพากร 1 เดือนศึกษายกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มได้รับผลดีชดเชยรายได้ที่สูญเสียไปหรือไม่
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เสนอมาตราการระยะสั้นและระยะกลางกระตุ้นการท่องเที่ยวกับนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง โดยมาตรการระยะสั้น ได้แก่ ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้บริษัทนำเที่ยวที่ขายแพ็กเกจท่องเที่ยวช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว(ไฮซีซั่น) ทั้งตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวในประเทศ ถ้าทำยอดได้ตามที่รัฐกำหนด, ร่วมมือกับการบินไทยและการรถไฟ ให้ร่วมกิจกรรมเสนอขายเส้นทางท่องเที่ยวราคาพิเศษ, จัดงบประมาณประชาสัมพันธ์และโฆษณาเพิ่มเติมกระตุ้นการเดินทางนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ, จัดแข่งกีฬาที่ส่งเสริมให้ภาพลักษณ์ไทยโดดเด่นด้านท่องเที่ยว เช่น แข่งขันมวยโลก, ลดภาษี ให้บริษัทต่างชาตินำค่าใช้จ่ายประชุม สัมมนาเพื่อเป็นรางวัลที่ไทย ลดหย่อนภาษีได้ 200% และสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ครู ที่นำนักเรียนหรือนักกีฬามาทัศนศึกษหรือฝึกซ้อม เป็นต้น
นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า ได้รับเรื่องทราบมาตรการแล้ว และได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาเรื่องดังกล่าว คาดว่าจะใช้เวลา 1 เดือน จึงจะมีข้อสรุปว่าจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง เพราะเห็นด้วยกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ว่ารายได้จากการท่องเที่ยว จะเป็นรายได้หลักที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลังให้ดีขึ้น
“ในส่วนของการยกเว้นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น ได้มอบหมายให้นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปหารือร่วมกับกรมสรรพากร ให้ได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือน เพื่อให้ปรับตัวได้ทันกับการแข่งขันของประเทศอื่นๆ ซึ่งต้องพิจาณาอย่างรอบคอบว่ารายได้ที่อาจจะเพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยวจะคุ้มค่ากับการสูญเสียรายได้ทางภาษีหรือไม่”
นายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) กล่าวว่า พอใจกับคำตอบ โดยเห็นว่าหากออกมาตรการช่วยเหลือ จะกระตุ้นการท่องเที่ยวได้แน่นอน โดยเฉพาะการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) เพราะนักท่องเที่ยวจะซื้อแพ็คเกจท่องเที่ยวราคาลดลง 7% จากราคาเดิม ช่วยลดค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยวได้บางส่วน
โดยเดิมที รมว.คลัง ระบุว่าจะศึกษาเรื่องการยกเว้นภาษีให้เสร็จใน 2 เดือน แต่ภาคเอกชนเห็นว่าช้าไปจึงขอให้เสร็จใน 1 เดือน เพราะจำเป็นต้องเร่งออกมาตรการโดยเร็ว เพื่อนำมาใช้ให้ทันดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว(ไฮซีซั่น) โดยหากยกเว้นภาษีให้ คาดว่าจะทำให้ครึ่งปีหลังสูญเสียรายได้ภาษีแพ็คเกจท่องเที่ยวไป 6,000-7,000 ล้านบาท แต่คุ้มค่ากับรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามามากขึ้น
นายเอนก ศรีชีวะชาติ ประธานสมาคมท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น กล่าวว่า มาตรการภาครัฐจะเป็นเกราะป้องกันให้กับภาคการท่องเที่ยวสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้ระดับหนึ่ง แต่ต้องจับตาดูเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองและราคาน้ำมันด้วย หากสองปัจจัยนี้เอื้ออำนวยจะยิ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ดีขึ้นแน่นอน
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เสนอมาตราการระยะสั้นและระยะกลางกระตุ้นการท่องเที่ยวกับนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง โดยมาตรการระยะสั้น ได้แก่ ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้บริษัทนำเที่ยวที่ขายแพ็กเกจท่องเที่ยวช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว(ไฮซีซั่น) ทั้งตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวในประเทศ ถ้าทำยอดได้ตามที่รัฐกำหนด, ร่วมมือกับการบินไทยและการรถไฟ ให้ร่วมกิจกรรมเสนอขายเส้นทางท่องเที่ยวราคาพิเศษ, จัดงบประมาณประชาสัมพันธ์และโฆษณาเพิ่มเติมกระตุ้นการเดินทางนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ, จัดแข่งกีฬาที่ส่งเสริมให้ภาพลักษณ์ไทยโดดเด่นด้านท่องเที่ยว เช่น แข่งขันมวยโลก, ลดภาษี ให้บริษัทต่างชาตินำค่าใช้จ่ายประชุม สัมมนาเพื่อเป็นรางวัลที่ไทย ลดหย่อนภาษีได้ 200% และสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ครู ที่นำนักเรียนหรือนักกีฬามาทัศนศึกษหรือฝึกซ้อม เป็นต้น
นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า ได้รับเรื่องทราบมาตรการแล้ว และได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาเรื่องดังกล่าว คาดว่าจะใช้เวลา 1 เดือน จึงจะมีข้อสรุปว่าจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง เพราะเห็นด้วยกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ว่ารายได้จากการท่องเที่ยว จะเป็นรายได้หลักที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลังให้ดีขึ้น
“ในส่วนของการยกเว้นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น ได้มอบหมายให้นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปหารือร่วมกับกรมสรรพากร ให้ได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือน เพื่อให้ปรับตัวได้ทันกับการแข่งขันของประเทศอื่นๆ ซึ่งต้องพิจาณาอย่างรอบคอบว่ารายได้ที่อาจจะเพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยวจะคุ้มค่ากับการสูญเสียรายได้ทางภาษีหรือไม่”
นายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) กล่าวว่า พอใจกับคำตอบ โดยเห็นว่าหากออกมาตรการช่วยเหลือ จะกระตุ้นการท่องเที่ยวได้แน่นอน โดยเฉพาะการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) เพราะนักท่องเที่ยวจะซื้อแพ็คเกจท่องเที่ยวราคาลดลง 7% จากราคาเดิม ช่วยลดค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยวได้บางส่วน
โดยเดิมที รมว.คลัง ระบุว่าจะศึกษาเรื่องการยกเว้นภาษีให้เสร็จใน 2 เดือน แต่ภาคเอกชนเห็นว่าช้าไปจึงขอให้เสร็จใน 1 เดือน เพราะจำเป็นต้องเร่งออกมาตรการโดยเร็ว เพื่อนำมาใช้ให้ทันดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว(ไฮซีซั่น) โดยหากยกเว้นภาษีให้ คาดว่าจะทำให้ครึ่งปีหลังสูญเสียรายได้ภาษีแพ็คเกจท่องเที่ยวไป 6,000-7,000 ล้านบาท แต่คุ้มค่ากับรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามามากขึ้น
นายเอนก ศรีชีวะชาติ ประธานสมาคมท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น กล่าวว่า มาตรการภาครัฐจะเป็นเกราะป้องกันให้กับภาคการท่องเที่ยวสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้ระดับหนึ่ง แต่ต้องจับตาดูเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองและราคาน้ำมันด้วย หากสองปัจจัยนี้เอื้ออำนวยจะยิ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ดีขึ้นแน่นอน
