“โอฬาร” คาดการณ์ ศก.ไทยปี 52 มีโอกาสติดลบ 1% หากไม่มีงบกลางปีแสนล. แนะใช้ยาแรงโป๊ะเงินเข้าระบบเพิ่มอีก 1 เท่าตัว “ศุภรัตน์” พร้อมหนุนเครื่องมือด้านการคลังกระตุ้น ศก.
นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลรักษาการ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2552 มีโอกาสหดตัวราว 1% หากไม่มีการใช้จ่ายงบกลางปีเพิ่มเติมอีก 1 แสนล้านบาท ตามที่รัฐบาลชุดเดิมได้วางแนวทางไว้ ส่วนการเพิ่มวงเงินงบกลางปีขึ้นอีกนั้นก็สามารถทำได้ แต่จะต้องมาตรการอื่นเข้ามาเสริมด้วย
“งบกลางปีแสนล้านบาท น่าจะเพิ่มเป็น 1.5 แสนล้านบาทได้ โดยไม่ต้องกังวลฐานะการคลัง” นายโอฬาร กล่าว
ส่วนแนวคิดเกี่ยวกับมาตรการทางภาษี ทั้งการลดในส่วนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น นายโอฬาร กล่าวว่า ไม่สนับสนุนแนวทางดังกล่าวเนื่องจาก มองว่า การเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนจะเป็นแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีกว่า
พร้อมกันนี้ เห็นว่า ค่าเงินบาทควรบริหารจัดการให้อ่อนค่ากว่าปัจจุบัน เพราะเป็นผลดีทั้งกับการเพิ่มรายได้จากการส่งออกและลดการนำเข้า แต่จะอ่อนค่าไปที่เท่าใดจึงจะเหมาะสมนั้น ต้องขึ้นกับวัตถุประสงค์
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รักษาการ รมว.คลัง เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับแนวคิดของรัฐบาลใหม่ ที่จะให้ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เลื่อนการบังคับใช้ Basel II ออกไป เนื่องจากในต่างประเทศอย่างสหรัฐฯ ก็ยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาเท่านั้น พร้อมเสนอแนะให้รัฐบาลเข้าไปดูแลให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบายลง เหลือร้อยละ 1- 1.5 แต่ไม่เห็นด้วยที่จะมีการปรับลดภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT จากร้อยละ 7 เหลือร้อยละ 4 นอกจากนี้ ยังฝากให้รัฐบาลใหม่สานต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ดูแลเรื่องปัญหาสภาพคล่องในระบบ ดูแลภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง การคุ้มครองเงินฝาก การปรับโครงสร้างภาษี และการจ้างงาน
นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการหารือกับ นายกรณ์ จาติกวณิช ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ เกี่ยวกับนโยบายดูแลเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการ แต่อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ในส่วนของกระทรวงการคลัง มีเครื่องมือในการดูแลปัญหาเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจของประเทศดีอยู่แล้ว แต่หากรัฐบาลต้องการเครื่องมือเพื่อเสริมนโยบาย กระทรวงการคลังก็พร้อมให้การสนับสนุน แต่ยอมรับขณะนี้ยังไม่มีความคิดเห็นที่จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในการแถลงนโยบายของรัฐบาล ในวันที่ 29-30 ธันวาคมนี้ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้องการให้รัฐบาลใหม่เข้ามาดูแลปัญหาส่งออก ท่องเที่ยว และการจ้างงาน ที่กำลังประสบปัญหาในขณะนี้
