xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” แฉ “ขุนค้อน” แก้กฎช่วย “แม้ว-หมัก” รอดคุก-ยันสู้ต่อแม้ MGR ล้มละลาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนธิ ลิ้มทองกุล
“สนธิ” อัด “ขุนค้อน” ออกนโยบายพักโทษมีเจตนาซ่อนเร้น ช่วยเหลือพวกพ้องเครือข่าย “ระบอบทักษิณ” พ้นคุก เตือนปลัด “บัวแก้ว” ที่ไม่กล้าถอนพาสปอร์ตแดง “แม้ว” ทั้งที่มีระเบียบกำหนดชัดเจน พร้อมยืนยัน แม้ “บริษัท แมเนเจอร์ฯ” ถูกสั่งล้มละลายอย่างแปลกประหลาด ก็จะกลืนเลือดไม่ยอมตาย ไม่เปลี่ยนจุดยืนเดินหน้าเข็น “ผู้จัดการ-เอเอสทีวี” สู้ต่อไป

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย 



วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 20.00 น.นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีที่ทำเนียบ ได้เริ่มกล่าวตำหนินโยบายของ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่เคยได้รับฉายาขุนค้อนสมัยเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งดูเหมือนว่า มีความเที่ยงตรง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ออกนโยบายเกี่ยวกับเกี่ยวกับการพักโทษของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งดูผิวเผินอาจมองดูแล้วจะดี แต่ถ้าพิจารณาในรายละเอียดแล้วจะพบถึงความผิดปกติ และมีเจตนาจงใจผู้กระทำผิดบางคน

นายสนธิ ตั้งข้อสังเกตว่า หลักการของนโยบายดังกล่าว อ้างว่า เพื่อลดความแออัดของนักโทษที่ล้นคุกในเรือนจำทั่วประเทศที่มีกว่า 1.8 แสนคน ทั้งที่เรือนจำรับได้เต็มที่แค่ 1.2 แสนคนเท่านั้น เท่ากับว่านักโทษล้นคุกมา 6 หมื่นคน อย่างไรก็ตามนโยบายใหม่นี้จะลดความแออัดลงได้แค่ประมาณ 3 พันคน หรือ 1.66 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เมื่อพิจารณาลึกๆ แล้วจะเห็นถึงความผิดปกติ เช่น จากเงื่อนไขบางข้อ เช่นให้พักโทษกับนักโทษเด็ดขาดที่เป็นผู้ป่วยโรคร้ายแรงระยะสุดท้าย เช่น มะเร็ง เอดส์ หรือเงื่อนไขกำหนดโทษไม่เกิน 3 ปี ที่ไม่เกี่ยวกับยาเสพติด และไม่เคยต้องโทษมาก่อน ซึ่งเงื่อนไขสองข้อดังกล่าวไม่รู้ นายสมัคร สุนทรเวช จะเข้าเงื่อนไขหรือเปล่า รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คุณหญิงพจมาน ชินวัตร นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ รวมทั้งอดีต กกต.ยุคสามหนาที่คดีถูกศาลอุทธรณ์จำคุก 2 ปี และกำลังก็จะเข้าสู่ศาลฎีกาจะเข้าเงื่อนไขนี้ด้วยหรือเปล่า รวมทั้งอดีตข้าราชการกรมสรรพากร ที่เคยช่วยเหลือ ครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณ เลี่ยงภาษีจะเข้าเงื่อนไขไปด้วย

นายสนธิ กล่าวว่า จากการออกนโยบายดังกล่าว พยายามมองในแง่ดีว่า โง่โดยบังเอิญ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แม้ดูจากประวัติ นายสมศักดิ์ แล้ว พอรับได้ แม้ว่าเริ่มมีกลิ่นทะแม่งก็ตาม พร้อมทั้งเตือนว่าอย่าขายตัวให้กับระบอบทักษิณ เพราะจะทำให้พี่น้องต้องจดจำไปตลอดชีวิตและจะไม่มีที่ให้ยืน

จากนั้น นายสนธิ ได้กล่าวเตือน นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ว่า อาจต้องติดคุกกรณีพาสปอร์ตแดง ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เป็นได้ เพราะมีความกลัวมากกว่าความกล้าในการรักษาผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง และที่ผ่านมา เคยผิดพลาดเรื่องแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา มาแล้ว

นายสนธิ กล่าวว่า สาเหตุของเรื่องนี้ มาจากที่ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โยนให้ข้าราชการเป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้ โดยอ้างระเบียบสมัย นายกันตธีร์ ศุภมงคล อดีตรัฐมตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อ 3 ปีก่อน เกี่ยวกับคุณสมบัติการออกหรือเพิกถอนหนังสือเดินทาง โดยเฉพาะข้อ 21(2) ที่ผู้ร้องกำลังรับโทษหรือถูกปล่อยตัวชั่วคราว เป็นต้น แต่ นายวัระศักดิ์ ไม่ได้ดำเนินการเลย

จากนั้น นายสนธิ ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ศาลแพ่งได้มีคำสั่งให้บริษัท แมเนเจอร์มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ล้มละลาย และให้พิทักษ์ทรัพย์โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งได้เล่าถึงการประสบภาวะวิกฤตในปี 2540 ที่บริษัทมีหนี้สิน 3 พันกว่าล้านบาท และต่อมาเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการในปี 2542 มีการพักชำระหนี้และเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู 5 ปี จนถึงปี 2547 และในระหว่างนั้น เจ้าหนี้และลูกหนี้ก็ตกลงแปลงหนี้เป็นทุน และมีเงื่อนไขเพิ่มทุนจำนวน 200 ล้านบาท ภายใน 2 ปี อย่างไรก็ดี ยังไม่สามารถทำตามเงื่อนไขได้ เพราะยังขาดเงินอีก 60 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ในเวลานั้นได้มีโทรศัพท์ลึกลับมาข่มขู่ให้บรรดาผู้ที่เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 140 ล้านบาท ถอนตัวออกไป ทำให้ไม่สามารถเพิ่มทุนได้ อย่างไรก็ตาม แม้จะเจอปัญหาดังกล่าวก็ยังสู้ไม่ท้อถอย จนกระทั่งทุกอย่างเริ่มเดินไปตามปกติ ไม่มีปัญหากับเจ้าหนี้

“แต่จู่ๆ ศาลสั่งให้ล้มละลาย โดยที่เจ้าหนี้ก็ไม่ได้ฟ้อง เจ้าหนี้ก็งงไปตามๆ กัน เพราะทุกอย่างที่เคยได้ก็ต้องสูญในพริบตา เพราะศาลสั่งล้มละลาย ส่วนผมก็ต้องอมเลือด เพราะเวลานี้ถือว่าพนักงานทุกคนต้องตกงานไปเรียบร้อยแล้ว แต่พวกเราทุกคนยังสู้ไม่ยอมตาย หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ยังออกเหมือนเดิมในฉบับพิเศษ แต่เราเริ่มจากศูนย์ใหม่ เราเดินหน้าไม่ยอมแพ้” นายสนธิ ระบุ และย้ำว่า แม้ว่าจะถูกบีบคั้นอย่างไร หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และเอเอสทีวี ก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงจุดยืนเด็ดขาด
กำลังโหลดความคิดเห็น