xs
xsm
sm
md
lg

คตส.เย้ยเงิน “แม้ว” ซื้อศาลไม่ได้ เปรียบโจรไม่เคยรับสารภาพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการคตส.
คตส.รุมสวด “แม้ว” ขี้แพ้ชวนตี ระบุ ซื้อศาลไม่ได้เลยชิ่งหนี เปรียบโจรไม่เคยรับสารภาพ เชื่อไม่กระทบกระบวนการยุติธรรม ชี้ ช่องศาลฏีกานักการเมืองพิจารณาลับหลังได้ เหตุ อายุความ 20 ปี ย้อนถาม “แม้ว” ไปทำไม่ดีอะไรไว้จึงกลัวถูกฆ่า

วันนี้ (11 ส.ค.) นายอุดม เฟื่องฟุ้ง อดีตกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนคดีที่ดินรัชดาฯที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิง พจมาน ชินวัตร ตกเป็นจำเลย กล่าวกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ออกแถลงการณ์ขอลี้ภัยในต่างประเทศ โดยระบุว่า กระบวนการยุติธรรมถูกแทรกแซง มีการแต่งตั้งคณะบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์มาสอบสวนดำเนินคดี ไม่ปลอดภัยต่อชีวิตว่า ยืนยันว่า การตรวจสอบไต่สวนของ คตส.ที่ผ่านมา ยึดหลักตามขบวนการขั้นตอนตามกฎหมายทุกประการ ที่สำคัญไม่ยึดหลักอคติดัง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอ้าง ทั้งนี้ กรณีที่ดินรัชดาฯ เป็นไปตามข้อกฎหมายที่เข้าใจง่ายว่า เมื่อผู้ซื้อที่ดินของรัฐ เป็นภริยานักการเมือง จะซื้อที่ดินดังกล่าวมิได้ ฉะนั้น ในชั้นไต่สวนของ คตส.ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิง พจมาน จึงมีความผิดชัดเจน

“การกล่าวอ้างของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่างๆ นานา จึงเป็นคำพูดของคนเกเร พูดเหมือนคนพาล และเขาคงเห็นแล้วว่า คงไม่มีสิ่งใดที่สามารถซื้อได้แล้ว และรู้ชะตากรรมของตัวเองว่าจะเป็นเช่นไร เพราะคนที่เป็นโจร ไม่คิดว่าตัวเองผิดหรอก แต่เป็นเพราะกฎหมายทำให้ผิด” อดีตกรรมการ คตส.กล่าวและว่า แม้ว่า พ.ต.ท..ทักษิณ จะขอลี้ภัยแต่คดีต่างๆ ยังต้องดำเนินต่อไปโดยมีระยะเวลาร่วม 20 ปี

เมื่อถามว่า แถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะส่งผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมของไทยในสายตาต่างประเทศหรือไม่ นายอุดม กล่าวว่า ไม่เป็นปัญหา เพราะเป็นทั้งหมดเป็นเพียงข้ออ้างของผู้ต้องการลี้ภัยไปต่างประเทศเพื่อให้เกิดความชอบธรรมเท่านั้น

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่า ไม่ปลอดภัยในชีวิต จึงต้องขอลี้ภัย นายอุดม กล่าวว่า อยากถามเหมือนกันว่าไปทำอะไรไว้ถึงคิดว่าตัวเองไม่ปลอดภัย ถ้าไม่ได้ทำจะไปกลัวอะไร

ด้าน นายสัก กอแสงเรือง อดีตโฆษก คตส.กล่าวว่า การอ้างเรื่องกระบวนการยุติธรรมไม่ให้ความเป็นธรรมในการต่อสู้ของ พ.ต.ทักษิณ นั้น เป็นสิ่งที่สังคมต้องพิจารณาว่า การกลับเข้ามาต่อสู้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาในช่วงที่ พรรคพลังประชาชน เป็นรัฐบาล จะไม่ให้ความยุติธรรมได้อย่างไร และกระบวนการตรวจสอบไม่เป็นปัญหา เพราะทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่ได้มีการแก้หรือเขียนกฎหมายใหม่ขึ้นมาเฉพาะ เพียงแต่มีการตั้งหน่วยงาน คตส.ขึ้นมา เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งในกระบวนการไต่สวนและตรวจสอบ ได้มีการเปิดโอกาสให้ผู้กล่าวหาได้ชี้แจง และคัดค้านตลอดเวลา แต่อย่างที่สังคมรับรู้ผู้ถูกกล่าวหา ไม่เคยใช้ชิองทางนี้ในการต่อสู้ ยืนยันว่า คตส.เป็นกลางทางการเมือง ไม่เคยกลั่นแกล้งใคร ที่สำคัญ คตส.เป็นหน่วยงานต้นทางก่อนที่จะส่งหลักฐานไปยังกระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอนต่อไป

นายสัก กล่าวว่า การอ้างเหตุผลความไม่ปลอดภัยในชีวิต และกระบวนการยุติธรรม 2 มาตรฐานนั้น ต้องพิจารณาว่า ขณะนี้รัฐบาลที่บริหารประเทศอยู่เป็นปฏิปักษ์ กับ พ.ต.ท. ทักษิณ หรือไม่ ระบบบริหารประเทศผ่านตัวแทนพรรคการเมือง ระบบนิติบัญญัติ เป็นปฏิปักษ์ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ ระบบตุลาการเป็นปฏิปักษ์ หรือไม่ ซึ่งจะเห็นได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อมาต่อสู้คดีระยะหนึ่งแล้ว และไม่เห็นว่า จะมีการยื่นคัดค้านองค์คณะผู้พิพากษา ในคดีที่เกี่ยวข้องว่าเป็นบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ หรือเป็นบุคคลที่ขาดคุณสมบัติ ไม่เหมาะสมจะพิจารณาคดี ที่จะทำให้กระบวนการพิจารณามิชอบ แต่เพิ่งมาตั้งข้อสังเกตหลังจากที่ศาลชั้นต้นได้พิจารณาหลีกเลี่ยงภาษีของคุณหญิงพจมาน และ นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ดังนั้น จึงพอจะคาดเดาได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คิดอะไรอยู่

เมื่อถามว่า การลี้ภัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะส่งกระทบการพิจารณาคดีที่อยู่ในชั้นศาลฎีกาหรือไม่ นายสัก กล่าวว่า คงไม่กระทบ เพราะคดีการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาฯ ซึ่งศาลได้มีมติพิจารณาลับหลังพยานได้ ส่วนคดีแพ่งในการอายัดทรัพย์จำนวน 6.9 หมื่นล้านบาท ก็สามารถพิจารณาลับหลังพยานได้เช่นเดียวกัน ซึ่งหลังจากนี้หากผู้ต้องหา อยู่นอกประเทศ วงเงินดังกล่าว ก็ยังถูกอายัดต่อไป

เมื่อถามว่า เหตุผลการขอลี้ภัย ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ฟังขึ้นหรือไม่ นายสัก กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับศาลฎีกา จะเป็นผู้พิจารณา เพราะพ้นขั้นตอนของ คตส.ไปแล้ว เพราะ คตส.เป็นเฉพาะพยานฝ่ายโจทก์เท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการขอลี้ภัย
กำลังโหลดความคิดเห็น