xs
xsm
sm
md
lg

‘บิ๊กสรรพากร’ ลงมือเอง! เซ็นหนังสือขอคืนเงินภาษีให้ ‘โอ๊ค-เอม’ ขรก.หวั่นติดบ่วงหนีจ้าละหวั่น ผู้บริหารแบงก์ประชุมเครียด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการออนไลน์ - จดหมายขอคืนเงินภาษี 12,000 ล้านบาท จากสรรพากรถึงมือแบงก์ไทยพาณิชย์แล้ว เผย ขรก.ระดับรองอธิบดีลงนามเสนอ รมช.ประดิษฐ์ เองโดยมีข้าราชการลิ่วล้อแม้วเป็นผู้ชง หลังข้าราชการในพื้นที่ปฏิเสธทำหนังสือเพราะหวั่นว่าจะต้องรับเคราะห์ภายหลัง

รายงานข่าวล่าสุด กรณีกระทรวงการคลังได้ออกคำสั่งให้ข้าราชการระดับสูงในกรมสรรพากร ระดับรองอธิบดี เร่งดำเนินการขอคืนเงินอายัดจำนวน 12,000 ล้านบาท ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) มีคำสั่งให้อายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวในบัญชีขายหุ้นชินคอร์ป และบัญชีอื่นทุกสถาบันการเงินวงเงินกว่า 76,000 ล้านบาท โดยอ้างว่าเป็นภาษีและเบี้ยปรับเพิ่มของกรมฯ ก่อนวางแผนให้คณะกรรมการอุทธรณ์ภาษีวินิจฉัยไม่ต้องเก็บภาษีแล้วกรมฯ จะคืนเงินให้นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร ต่อไปนั้น

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังแจ้งว่า ผู้บริหารระดับสูงของกรมสรรพากร ได้ดำเนินการทำหนังสือเอง โดยให้ข้าราชการระดับรองอธิบดีเป็นผู้ลงนาม ก่อนแจ้งให้นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้กำกับดูแลกรมสรรพากร ก่อนส่งเรื่องให้ธนาคารไทยพาณิชย์

“ขณะนี้ผู้บริหารธนาคารไทยพาณิชย์ได้รับจดหมายดังกล่าวจากกรมสรรพากรแล้ว และกำลังประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณากันอยู่ ส่วนข้าราชการสรรพากร ภาค 1 ที่ต้องรอรับเช็ค ก็ภาวนาให้หมดเวลาราชการเร็วๆ จะได้ไม่ต้องรับเช็คเพราะไม่มีใครอยากจะเกี่ยวข้องด้วย เพราะเห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่ถูกต้อง และในอนาคตมีความหมิ่นเหม่ว่าข้าราชการระดับล่างจะต้องรับเคราะห์” แหล่งข่าวกล่าว และย้ำว่า ข้าราชการของสรรพากร ภาค 1 ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องดังกล่าวเพราะธนาคารไทยพาณิชย์อยู่ในพื้นที่

สำหรับความเร่งรีบดังกล่าวของกรมสรรพากร เกิดขึ้นจากข่าวที่ระบุว่า อัยการสูงสุดกำลังจะยื่นขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งให้ทรัพย์สินจำนวน 76,000 ล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตกเป็นของแผ่นดิน ในวันจันทร์ที่ 25 ส.ค.นี้ อันจะส่งผลให้ทางครอบครัวชินวัตรไม่สามารถเรียกคืนเงินมาได้อีกเลย

ส่วนวิธีการดำเนินการถ่ายโอนเงินกลับไปให้ครอบครัวชินวัตรนั้น แหล่งข่าวระบุว่า มีการวางแผนให้คณะกรรมการอุทธรณ์ภาษีซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาอุทธรณ์ของนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทาลงมติว่า บุคคลทั้งสองไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งกรมสรรพากรต้องคืนเงินจำนวนดังกล่าวที่อายัดไว้ให้ โดยวิธีการดังกล่าวเป็นวิธีการเดียวกับวิธีการที่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายบุญธรรมของ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ใช้ขอคืนเงินภาษีจำนวน 546 ล้านบาท จากการซื้อหุ้นบริษัท ชินวัตร คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จากกรมสรรพากรมาแล้ว (อ่านข่าว : คลังเผยคดีขาดอายุความ ต้องคืนเงินภาษี “บรรณพจน์” 546 ล. 3 มี.ค. 2551)

ด้าน นายสัก กอแสงเรือง อดีตโฆษก คตส.ได้กล่าวถึงกรณีมีความพยายามบีบให้กรมสรรพากรดำเนินการขอคืนเงินอายัดว่า เมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของอัยการสูงสุดแล้ว ไม่มีหน่วยงานใดที่จะเข้ามาดำเนินการเพื่อถอนอายัดได้ โดยเฉพาะกรมสรรพากร เนื่องจากไม่มีกฎหมายกำหนดให้ทำได้ เพราะกรมสรรพากรมีหน้าที่ในการตามจัดเก็บภาษีเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น