“วิชา มหาคุณ” ชี้ การเมืองไทยป่วน เพราะเราไปลอกแบบอังกฤษ นำเอารัฐธรรมนูญที่ไม่สอดคล้องกับวัฒนธรรมไทย ขณะที่การเมืองภาคประชาชนเข้มแข็งขึ้น ไม่ยอมรับนักการเมืองชั่ว ชี้ อังกฤษระงับวีซ่า “แม้ว” เพราะเกรงกระทบความสัมพันธ์ รู้ทันคำพูดแก้เกี้ยวถอนเรื่องลี้ภัยด้วยตัวเอง ระบุ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ลากคอมาได้ถ้าอัยการเอาจริง
วันนี้ (10 พ.ย.) นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา กล่าวว่า การจะได้ประชาธิปไตยไม่ใช่ได้มาด้วยเงิน แต่กลั่นจากคุณธรรมของแต่ละบุคคลในการมีจิตสำนึกต่อสาธารณะ 24 มิถุนายน 2475 ประเทศไทยเลือกระบอบประชาธิปไตยตามแบบอังกฤษ แต่ประเทศอังกฤษใช้รัฐธรรมนูญแบบไม่มีลายลักษณ์อักษร และประชาธิปไตยอยู่ในหัวใจคน แต่ของไทย การร่างรัฐธรรมนูญโดยเอามาครอบคนไทย จึงเกิดปัญหา เพราะไม่สอดคล้องกับวัฒนธรรมของผู้คน ดังนั้น ในการต่อสู้กันตลอดมา จึงเป็นการต่อสู้ทางชนชั้น และการใช้อำนาจ อย่างไรก็ดี ปัจจุบันอังกฤษก็เริ่มเจอปัญหา จึงแก้ไขในส่วนนี้ และเริ่มเขียนกฎหมายแบบที่มีลายลักษณ์อักษร ไม่ใช่รัฐสภามีอำนาจสูงสุดตามแบบเดิม
นายวิชา กล่าวว่า ปัจจุบันหลักการมีส่วนร่วมของประชาชนมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในระบอบประชาธิปไตย เพราะวิกฤตรัฐสภาเกิดทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศที่เกิดใหม่ การเมืองชนิดที่มีตัวแทนอย่างเดียว ขายขาดไม่รับคืน เข้าไปแล้วไปทำอะไรก็ได้ หรือประชาธิปไตยแบบการตลาดที่อยู่ในมือของพรรคการเมือง ซึ่งทำให้พรรคมีอำนาจมากกว่ารัฐสภา เริ่มไม่ใช่แล้ว เพราะทำให้ไม่ได้คนที่ยึดมั่นตามทำนองคลองธรรม ถูกไขลานจากพรรคการเมือง และอาจจะต้องปรับการเลือกตั้ง เช่น ในอียู มีการปรับระบบเลือกตัวแทน โดยเลือก 3-4 ครั้ง กว่าจะได้ตัวแทนของเขตจริงๆ หรือ อังกฤษ นอกจากนี้ การทำให้พรรคการเมืองเป็นพรรคของภาค เป็นอันตรายมากต่อระบอบรัฐสภา เพราะไม่ใช่ตัวแทนของทั้งประเทศ ปัญหานี้เกิดแล้วที่ยูเครน นายกฯบริหารยาก ประเทศไทยยังดีกว่าเยอะ ส่วนเรื่องการสานเสวนาเพื่อหาทางออกความขัดแย้งทางการเมือง การสมานฉันท์ ถ้าเริ่มได้โดย ส.ส.ไม่ไล่เตะกันในสภาหรือไม่มีเรื่องกัน เมื่อนั้นถึงไปสมานฉันท์กับคนอื่นได้
นายวิชา กล่าวด้วยว่า สำหรับนักการเมือง มีปัญหาที่ไม่รู้จักบทบาทหน้าที่ตัวเอง รัฐสภาอ่อนแอมากเรื่องการตรวจสอบฝ่ายบริหาร ประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภา เป็นคนพรรคเดียวกับรัฐมนตรี แล้วจะไปตรวจสอบได้อย่างไร แถมจองกฐินกันข้ามชาติ เพื่อไต่เต้าเป็นรัฐมนตรี หรือการที่สภาออกกฎหมายไม่ได้ เพราะมัวไปยุ่งการเมือง หรือเอาการเมืองมาพัวพันจนปิดตาออกกฎหมายที่ไม่เป็นประโยชน์ เช่น กฎหมายประชาชนที่ประชาชนเข้าชื่อเสนอ แต่สภาทำเละ ลงคะแนนก็ยังไม่ครบองค์ประชุม คนซวยสุด คือ ประชาชนทั้งที่ควรจะได้กฎหมายดีที่สุด เพราะประชาชนเข้าชื่อเสนอกันเอง นักการเมืองไทยมีจิตสำนึกสาธารณะไม่เพียงพอ สภาเป็นได้ทั้งพระเจ้าและซาตาน เหมือนเงินเป็นสิ่งชั่วร้ายที่จำเป็น หากใช้ไม่อยู่บนหลักความพอเพียงชีวิตก็พัง นอกจากนี้ หลักการบางอย่างยังไม่ตกผลึก เช่น จะเอาสภาเดียว หรือสองสภา หรือหลักการประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่อังกฤษ มีจารีตประเพณีกษัตริย์ทรงไว้ซึ่งอำนาจสูงสุดในการแก้ปัญหาหากประเทศอยู่ในสภาพเสี่ยงหายนะ แต่ของไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับเป็นทางการ
นอกจากนี้ นายวิชา ยังกล่าวถึงกรณีสถานทูตอังกฤษ ถอนวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นสิทธิขาดของอังกฤษ อาจเป็นเพราะอังกฤษเกรงว่าจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงถอนวีซ่า ส่วนที่มีคนบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขอถอนวีซ่าเอง เพื่อให้ตามตัวยากนั้น คิดว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะคงไม่สามารถไปก้าวล่วงรัฐบาลอังกฤษได้ และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกับการขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดี และคนละส่วนกับเรื่องยากหรือง่ายในการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมา เพราะการนำตัว พ.ต.ท. ทักษิณ กลับมานั้น ต้องดูว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปอยู่ที่ไหนเป็นประจำ อัยการสูงสุดของไทยจะเป็นคนดำเนินการในการหาตัว จากนั้นจึงส่งเรื่องไปประเทศนั้น และขึ้นกับประเทศนั้นจะพิจารณา
เมื่อถามว่า หลายประเทศอ้าแขนรับ พ.ต.ทักษิณ นายวิชา กล่าวว่า ต้องดูว่าประเทศนั้นมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ แต่ถ้าไม่มี ก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นเรื่องการเจรจาระหว่างประเทศที่สามารถทำได้
เมื่อถามถึงกรณีการขอคืนเครื่องราชฯกับเรื่องการถอนพาสปอร์ตแดง นายวิชา กล่าวว่า กระบวนการยุติธรรมยังไม่สิ้นสุด เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังสามารถอุทธรณ์คดีได้อีก 30 วัน ซึ่งไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะดำเนินการตามขั้นตอนหรือไม่