“สมศักดิ์ โกศัยสุข” ย้ำพันธกิจ ชี้แจงสถานะ “แม้ว” ผ่านสถานทูตอังกฤษ แฉอดีตผู้นำผลัดถิ่นสุดหัวหมอ ว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์หวังสร้างความชอบธรรมในการลี้ภัย จี้รัฐบาลผู้ดีส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยด่วนที่สุด เผยอีกพร้อมเดินหน้าส่งเสริมให้เกิดการต่อสู้อย่างมีเหตุมีผล ปลดแอกออกจากอิทธิพล อำนาจมืดเผด็จการทุนนิยมสามานย์ ไปสู่ระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่บริสุทธิ์
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ปราศรัย
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 18 สิงหาคม 2551 นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อนประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อย้ำถึงภารกิจการเดินขบวนไปหน้าสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย โดยระบุเป็นวันที่สำคัญและมีความหมาย เป็นการทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองที่รักษาประชาธิปไตย รักชาติ รักบ้านเมือง ปกป้องไม่ให้ผู้ร้ายหนีคดีมากล่าวหากระบวนการยุติธรรม มาทำลายภาพพจน์ของประเทศ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พันธมิตรฯ ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลอังกฤษให้ฟังความคิดเห็นของประชาชนคนไทย ไม่ใช่ฟังรัฐบาลไทย เพราะรัฐบาลไทยวันนี้ถูกสื่อมวลชนทั่วโลกขนานนามให้เป็นรัฐบาลหุ่นเชิดของระบอบทักษิณ การเดินขบวนไปหน้าสถานทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย จึงเป็นภารกิจเพื่อลบล้างการบิดเบือนข้อมูลของบริษัทล็อบบี้ยิสต์ที่ถูก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช้เงินมหาศาลว่าจ้าง ให้ปะแป้งแต่งตัว สร้างภาพลักษณ์ที่ดี เพื่อสร้างความชอบธรรมในการลี้ภัย
“เราจำเป็นที่จะต้องไปปรากฏตัวให้สื่อมวลชนทั่วโลกได้รับรู้ว่า ประชาชนคนไทยที่รักชาติได้มาใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตยที่ทั่วโลกยอมรับ ได้ออกมายืนยันพร้อมเรียกร้องไปยังรัฐบาลอังกฤษ หากยังเคารพในบูรณะภาพดินแดนประเทศไทย โปรดส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยด่วนที่สุด” นายสมศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ยังกล่าวตำหนิ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่รู้ว่าตัวเองผิดหรือไม่อย่างไร เที่ยวไปประกาศป่าวร้องกล่าวหากระบวนการยุติธรรม อ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งๆ ที่ พยานหลักฐานก็ชัดเจน แต่เพราะความที่ดื้อเพ่ง จะใช้อำนาจเผด็จการยึดกุม กิน และขายประเทศนี้ ฉะนั้นจำเป็นที่พันธมิตรฯ จะต้องอดทน ต้องไม่เหนื่อย พร้อมตระหนักถึงภารกิจอันใหญ่หลวงที่จะเกิดขึ้นภายใน 2-3 วันนี้
ในช่วงท้าย นายสมศักดิ์ได้กล่าวถึงเสียงคัดค้านการก่อสร้างรัฐสภาของนักเรียนโรงเรียนโยธินบูรณะ โดยระบุชัดเจนว่า รัฐบาลดำเนินนโยบายไม่ตรงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเขียนไว้ชัดเจนว่า หากมีนโยบายใดของรัฐบาลไปกระทบกับพี่น้องประชาชนในชุมชนใดๆ นั้น จะต้องให้ประชาชนที่มีส่วนกระทบ ได้เสียในชุมชนนั้นมีส่วนร่วมในการตัดสินใจก่อน ถึงจะทำได้ แต่วันนี้รัฐบาลไม่ได้สนใจ ใจดำทำกับพี่น้องประชาชนได้
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลไม่รู้สึกอายบ้างหรือ ที่ปล่อยให้นักเรียนมาตั้งคำถามเรื่องประชาธิปไตย มองพวกผู้ใหญ่ หรือนักการเมือง ชอบพูดแต่เรื่องประชาธิปไตย แต่ว่าปฏิบัติไม่เห็นเป็นประชาธิปไตยแม้แต่นิดเดียว ปล่อยให้เด็กมาถอนหงอกหน้าตาเฉย
“เด็กๆ รู้ว่า ไอ้ที่คุณแหกปากว่าประชาธิปไตยนั้น คุณพูด แต่เวลาปฏิบัติ คุณคือเผด็จการ ถ้าคุณเป็นประชาธิปไตย คุณต้องเข้าไปถาม มีผลกระทบอะไร กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ความเป็นอยู่อย่างไร แล้วการลงทนุเอาเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาทไปทำแล้วได้ประโยชน์อะไร สถานที่เดิมก็ยังคงใช้การได้อยู่ เหตุผลมันก็ไม่ได้แล้วยังไปละเมิดสิทธิทุกรูปแบบ ทั้งการขู่เข็ญ ปราบปราม ทำร้ายทุบตี สารพัด” นายสมศักดิ์ กล่าวและว่า ทั้งสองกรณีที่กล่าวมาข้างต้น พันธมิตรฯ มิได้หวังปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยก แต่ต้องการส่งเสริมให้เกิดการต่อสู้อย่างมีเหตุมีผล เฉกเช่นการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ใครก็ตามที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ปลดแอกออกจากอิทธิพล อำนาจมืดเผด็จการทุนนิยมสามานย์ ไปสู่ระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่บริสุทธิ์ ประชาชนมีส่วนร่วม สามารถกำหนดอนาคตตัวเองได้
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เวลาพันธมิตรฯ จะทำได้ต้องเริ่มจากความเป็นจริง เมื่อรัฐบาลเผด็จการไปรังแกใครที่ใด ที่นั่นก็ต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ และเมื่อพันธมิตรฯ เห็นพี่น้องผู้ได้รับความเดือดร้อนลุกขึ้นมาต่อสู้ พันธมิตรฯ ก็พร้อมร่วมต่อสู้ ร่วมสนับสนุน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หรือตามพุทธสุภาษิตที่ว่า ธรรมะย่อมคุ้มครองผู้ปฏิบัติธรรม ประชาธิปไตยคือการแต่งเนื้อแต่งตัว เมื่อรู้อะไรไม่ถูก ก็ต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ แม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด แต่เมื่อเป็นหน้าที่พันธมิตรฯ ก็ต้องทำให้ดีที่สุด